ไลฟ์สไตล์

พวงหรีดแบบใหม่จากดอกไม้จันทน์
ใช้ประโยชน์สองต่อฝีมือแม่บ้านสระบุรี

พวงหรีดแบบใหม่จากดอกไม้จันทน์ ใช้ประโยชน์สองต่อฝีมือแม่บ้านสระบุรี

22 ส.ค. 2552

ท่ามกลางการแข่งขันในการออกรูปแบบของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้สวยงามสะดุดตาของผู้พบเห็น อันเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดในยุคสมัยใหม่นั้น ทำให้ ผ่องฉวี กองสุผล ประธานกลุ่มแม่บ้านสระบุรี ต.ดาวเรือง อ.เมือง จ.สระบุรี มองว่าพวงหรีดที่ใช้ในงานศพท

   ผ่องฉวี เล่าถึงที่มาก่อนที่จะนำดอกไม้จันทน์มาทำเป็นพวงหรีดแบบใหม่ ว่าเดิมทีเป็นวิทยากรสอนการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าให้แก่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ตระเวนออกไปสอนกลุ่มแม่บ้านกลุ่มต่างๆ เพื่อประกอบเป็นอาชีพ ซึ่งจากการที่ตระเวนไปสอนกลุ่มแม่บ้านจากหลายๆ แห่ง พบว่า วิชาชีพในการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าให้แก่กลุ่มแม่บ้านไม่น่าจะเหมาะสมเท่าไร เพราะสมาชิกกลุ่มแต่ละกลุ่มส่วนใหญ่มีอายุมากพอสมควร มีปัญหาด้านสายตาที่เป็นสายตายาว ยากต่อการสอดด้ายเข้าเข็ม และการเย็บตะเข็บของเสื้อผ้า จึงคิดว่าควรจะหาอาชีพอย่างอื่นทำมากกว่า

 "ครั้งหนึ่งไปเห็นผู้สูงอายุกำลังผลิตดอกไม้จันทน์ที่ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง แต่ยังทำดอกไม้จันทน์แบบเก่าๆ พอเห็นดอกไม้จันทน์นึกไปถึงงานศพ นึกถึงพวงหรีดในงานศพก็ยังทำแบบเดิมจากดอกไม้จริง พอดีอยู่ในแวดวงเสื้อผ้า ซึ่งเกี่ยวกับความสวยงามมานาน จึงนึกได้ว่าเราควรกลับไปรวมกลุ่มแม่บ้านในพื้นที่ทำเป็นรูปแบบใหม่ เน้นสีสันสวยงาม เป็นรูปทรงที่ทันสมัย ทำจากดอกไม้จันทน์ เพราะจะได้ประโยชน์ 2 อย่างคือ ช่วงพิธีสวดใช้วางหน้าศพ เมื่อสวดวันสุดท้ายเสร็จแล้ว เราสามารถแกะเอาดอกไม้จันทน์จากพวงหรีดแจกให้แก่ผู้ที่มาร่วมงาน ส่วนตลาดไม่น่าเป็นห่วงเพราะหากวัดมีที่ไหนความต้องการของดอกไม้จันทน์และพวงหรีดก็ต้องอยู่ที่นั่น เมื่อมีคนเกิดก็ต้องมีคนตาย เด็ก หนุ่มสาว คนแก่ คนชราก็ตาย ตรงนั้นแหละตลาดของเรา" ผ่องฉวี กล่าวอย่างมั่นใจ

 หลังจากหารือกับแม่บ้านในหมู่บ้านเดียวกัน ผ่องฉวี จึงรวมตัวตั้งกลุ่มแม่บ้านสระบุรีในปี 2545  เพื่อผลิตดอกไม้จันทน์และพวงหรีด เบื้องต้นมีสมาชิกเพียง 4 คนเท่านั้น จากนั้นทำเรื่องขอกู้เงินจากสำนักอุตสาหกรรมภาค 8 จ.สุพรรณบุรี มา 5 หมื่น ลงทุนซื้อเครื่องปั๊มหรือผลิตกลีบดอกไม้จากกระดาษ พร้อมบล็อกที่เป็นกลีบดอกชนิดต่างๆ มาเกือบ 4 หมื่น ที่เหลือลงทุนซื้อกระดาษ หัวเชื้อน้ำหอมและอื่นๆ ที่จำเป็น เดือนแรกสามารถขายดอกไม้จันทน์ได้ราว 1,000 กลีบ พวงหรีดอีกรายละ 8-10 พวง

 อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ออกงานในงานแสดงสินค้าโอท็อป ที่ศูนย์แสดงสินค้าเมืองทองธานี จ.นนทบุรี ทำให้ดอกไม้จันทน์และพวงหรีดแบบใหม่เป็นที่รู้จักของลูกค้าเพิ่มขึ้น ปัจจุบันยอดขายดอกไม้จันทน์ชนิดต่างๆ อาทิ ดอกกุหลาบ ดอกลีลาวดี ทิวลิป และดอกแก้ว ในแต่ละเดือนตกเดือนละ 4,000-5,000 กลีบ ขายกลีบละ 2.50 บาท หากสั่งพิเศษดอกละ 4-5 บาท ขณะที่พวงหรีดแบบใหม่ขายได้เดือนละ 25-30 พวง ราคาพวงละตั้งแต่ 500-700 บาท ตลาดหลักมาจากกรุงเทพฯ ข้าราชการในพื้นที่ รวมถึงโรงงานปูนซิเมนต์ใน จ.สระบุรี และประชาชนทั่วไปด้วย

 "บางคนไม่กล้าทำดอกไม้จันทน์ เพราะเป็นดอกไม้ที่ใช้ในงานศพ เข้าใจว่าไม่ค่อยจะเป็นมงคลนัก แต่ฉันว่ามงคลนะคะ ตอนนี้พิสูจน์ได้แล้วว่า ทำให้กลุ่มของเรามีสิริมงคล ตอนนี้กิจการขยายขึ้น สมาชิกมีถึง 36 คนแล้ว แต่ละคนมีรายได้เสริมเข้าครอบครัวได้เป็นอย่างดี อย่างเมื่อก่อนต้นลั่นทมไม่มีใครกล้าปลูกในบ้านเพราะกลัวจะเกิดเรื่องทุกข์ระทมในบ้าน พอเปลี่ยนเป็นลีลาวดีราคาพุ่งขึ้น ทั้งบ้านเศรษฐกิจ รีสอร์ท ปลูกเต็มไปหมด" ผ่องฉวี กล่าว

 ประธานกลุ่มแม่บ้านสระบุรีบอกด้วยว่า ผลจากการดำเนินการทำดอกไม้จันทน์และพวงหรีดแบบใหม่มา 7 ปี ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ดีเด่น หรือโอท็อป ระดับ 3 ดาว กระทั่งในปี 2549 ได้โอท็อประดับ 4 ดาวระดับชาติ ล่าสุดปี 2552 รับรางวัลโอท็อป 5 ดาวระดับชาติอีก ตรงนี้จึงมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสองอย่างตลาดต้องดีขึ้นแน่นอน

ขั้นตอนการผลิตพวงหรีดแบบใหม่
 การทำพวงหรีดแบบใหม่นั้นเบื้องต้นต้องซื้อเครื่องผลิตหรือปั๊มกลีบดอกไม้กระดาษ พร้อมกับบล็อกดอกไม้ต่างๆ เมื่อต้องการปั๊มกลีบอะไร ให้ใส่บล็อกนั้นๆ อาทิ ลีลาวดี กุหลาบ แก้ว หรือทิวลิป จากนั้นนำกระดาษเอ 4 สี วางที่จุดตามที่กำหนดในแค็ตตาล็อกครั้งราว 20-30 แผ่น เหยียบมอเตอร์ แล้วเครื่องจะดำเนินการผลิตดอกไม้จันทน์ตามบล็อกที่กำหนด

 เมื่อได้กลีบดอกไม้กระดาษแล้ว จะบรรจุใส่ลังกระดาษนำหัวเชื้อน้ำหอมกลิ่นแบบไทยๆ ชุบสำลีไว้ล่างสุดของลัง เมื่อปิดลังแล้วกลิ่นจะติดกลิ่นกระดาษส่งให้สมาชิกรูดกลีบดอกโดยใช้ไม้หรือเหล็ก อาทิ ไม้เสียบลูกชิ้น เพื่อให้กลีบดอกโค้งงอตามที่ต้องการ ก่อนนำมาประดิษฐ์เป็นดอกไม้ชนิดต่างๆ ตามแบบที่กำหนด หากเป็นลีลาวดีมี 5 กลีบ 1 ดอกมีดอกย่อย 3 ดอก

 หลังที่ประดิษฐ์ดอกไม้ได้แล้ว ใช้โฟมหรือต้นกล้วยทำเป็นฐานพวงหรีด ส่วนวงพวงหรีดทำด้วยฟาง หรือหญ้าขนาดกว้าง-สูง 24x24 นิ้ว จนถึง 30x30 นิ้ว จากนั้นนำดอกไม้จันทน์มาปักตามฐานและรอบวงราว 6-9 แถว จนเป็นรูปทรงพวงหรีดที่สมบูรณ์เพื่อนำไปขายต่อไป

"ดลมนัส  กาเจ"