ไลฟ์สไตล์

กษัตริย์จิกมี ยกย่องในหลวงร.9 ต้นแบบพัฒนาภูฏาน

กษัตริย์จิกมี ยกย่องในหลวงร.9 ต้นแบบพัฒนาภูฏาน

12 ธ.ค. 2559

กมลทิพย์ ใบเงิน : รายงาน

สืบเนื่องจากรัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)  และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา ราชอาณาจักรภูฏาณ ได้บูรณาการความร่วมมือกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรภูฏาน จัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สายสัมพันธ์ไทย-ภูฏาน (The  Royal Thai-Bhutanese Photo Exhibition A Tribute to HM King Bhumibol  Adulyadej) ระหว่างวันที่ 8-31 ธันวาคม 2559  ณ ราชอาณาจักรภูฏาน โดยพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม ได้นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และสื่อมวลชนไทยเข้าร่วม

พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในโอกาสเข้าเฝ้า สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน  เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่า ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ตน  นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม และคณะรวม 6 คนมาก ทรงให้คณะของไทยเข้าเฝ้าในวันครบรอบ 10 ปีแห่งการครองราชย์ ตนและคณะรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านที่ให้เข้าเฝ้าฯ ทรงมามารอรับบริเวณที่รถแล่นเข้ามาจอดด้านหน้าพระตำหนัก เป็นบ้านหลังใหม่ของพระองค์ ซึ่งเป็นบ้านที่พระองค์ประทับจริงๆ

 "ผมและคณะรู้สึกปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงเสด็จนำคณะราชวงศ์เสด็จฯเคารพพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ในนามของรัฐบาลไทย ผมขอขอบคุณทั้งรัฐบาลภูฏานและประชาชนชาวภูฎานที่ได้ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณร่วมกับชาวไทย และหลังจากเหตุการณ์สวรรคต พระองค์ก็ได้ให้ชาวภูฏานได้มีประกอบพิธีสวดมนต์ตลอด และถึงแม้จะเลยเวลา 49 วันมาแล้วก็ยังคงมีการสวดมนต์ถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 อยู่"

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ทรงตรัสว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ของไทยทรงเป็นต้นแบบในการทรงจดจำเพื่อดูแลพสกนิกรและการดำเนินโครงการต่างๆเพื่อประชาชน ซึ่งพระองค์ได้น้อมนำมาเป็นต้นแบบในการปกครองประชาชน โดยทั้ง 2 ราชวงศ์ มีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้นมาตั้งแต่สมัย สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก เสด็จพ่อของพระองค์ ซึ่งเสด็จพ่อของพระองค์ก็มีในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นแบบอย่างเช่นกัน ของไทยมีเศรษฐกิจพอเพียง ขณะที่ภูฏานจะเป็นการดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมในแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงแบบไทย

กษัตริย์จิกมี ยกย่องในหลวงร.9 ต้นแบบพัฒนาภูฏาน

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีความรู้ความสามารถ ถ่อมพระองค์ ในความรู้สึกของชาวไทยก็ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ต่างประเทศที่คนไทยให้ความเคารพรักและเทิดทูน นิยมชมชอบในพระองค์มาก ผมเห็นว่าพระราชวงศ์ของภูฏานก็เหมือนกับราชวงศ์ของไทย ซึ่งชาวไทยก็มีความรักและเทิดทูนสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เช่นเดียวกัน

“พระองค์ทรงเล่าว่า เวลากลับไปที่มหาวิทยาลัยออกฟอร์ด สหราชอาณาจักร ไปเยี่ยมโรงเรียนเก่า และไปซื้อไม้เท้าเพื่อจะมาฝากเสด็จปู่ท่าน แต่เจ้าของร้านไม่รับเงิน และถามพระองค์ว่าคือกษัตริย์จิกมีใช่ไหม พระองค์ทรงปฏิเสธว่าไม่ใช่ แต่เจ้าของร้านบอกว่าจำพระองค์ได้ เพราะคนไทยรักท่าน อยากถวายให้ พอรู้ว่าเป็นร้านคนไทย พระองค์ทรงตรัสว่า เมื่อได้ยินดังนั้นน้ำตาแทบไหล รู้สึกซาบซึ้งในความรักของคนไทยที่มีต่อพระองค์และราชอาณาจักรภูฏานมากพระองค์รู้สึกประทับใจเหตุการณ์ในวันนั้นเป็นอย่างมาก ซึ่งพระองค์เห็นว่าทั้ง 2 ประเทศจะก้าวหน้าไปด้วยกันด้วยดีทั้งความสัมพันธ์ระดับราชวงศ์ รัฐบาล และประชาชน”รองนายกฯ กล่าว

สำหรับความสนิทสนมกับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ของไทย ทรงมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกันมาตั้งแต่ทั้งสองพระองค์ยังเป็นเจ้าชาย และมกุฎราชกุมาร จึงมั่นใจว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน สร้างความเจริญรุ่งเรืองของสองประเทศต่อไปในภายหน้า ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 10 ของไทย เคยเสด็จมายังภูฏาน พระองค์ยังทรงฝากถวายความระลึกถึงรัชกาลที่ 10  และจะทูลเชิญเมื่อมีโอกาสมาเยือนภูฏาน

กษัตริย์จิกมี ยกย่องในหลวงร.9 ต้นแบบพัฒนาภูฏาน

ขณะเดียวกันพระองค์ทรงฝากความระลึกถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และจะเชิญมาภูฏานเมื่อมีโอกาสเหมือนกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้เราประทับใจ พระองค์ทรงรักเรา ทรงเป็นกันเอง ในการเข้าเฝ้าครั้งนี้พระองค์ทรงพาเดินชมรูปของพระองค์และกษัตริย์องค์รัชกาลก่อนหน้านี้ และเล่าถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของราชวงศ์ว่ามาจากไหนอย่างไร พระองค์ไม่ทรงโปรดอยู่ในวังใหญ่ๆ วังที่ประทับก็เหมือนบ้าน ประหยัดไฟมาก บริเวณสนามหน้าบ้านไม่มีไฟสนาม  มีแต่ไฟตามขั้นบันได โดยมหาดเล็กถือไฟฉายคอยส่องทางให้ พอเดินออกมาจากห้องก็ปิดไฟทุกห้อง ทรงวางพระองค์เหมือนกับราชวงศ์ของไทยคือมุ่งพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชน

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี  ทรงตรัสอีกว่า พระองค์มาประเทศไทยเห็นว่าบ้านเมืองมีความสะอาดมาก พระองค์เลยทรงจัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ขึ้นมาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยมีราชวงศ์ สมเด็จพระราชินี ผู้นำรัฐบาล และประชาชนออกไปทำความสะอาดหมด พระองค์ตรัสว่าท่านดูจากไทย

อย่างไรก็ตาม ได้มีโอกาสพบกับแพทย์ใหญ่ประจำพระองค์ และได้หารือกันเรื่องหน่วยแพทย์พระราชทานประจำพระองค์ ทรงจัดโมบายทีม คล้ายกับหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ของไทย ซึ่งจะประสานความร่วมมือกันต่อไป.