ไลฟ์สไตล์

  ประสบการณ์เล็กน้อยในการใช้ยาจีนกับโรคมะเร็งตับ

  ประสบการณ์เล็กน้อยในการใช้ยาจีนกับโรคมะเร็งตับ

09 พ.ย. 2559

ทนผลข้างเคียงคีโมไม่ไหว จึงไม่ยอมฉีดต่อ ลูกสาวเลยพามากินยาจีน ไม่มีทางเลือก หากไม่ฉีดคีโมก็ต้องมีวิธีอื่นมารองรับ

  ประสบการณ์เล็กน้อยในการใช้ยาจีนกับโรคมะเร็งตับ


 ขึ้นชื่อว่ามะเร็ง ผู้คนล้วนเข้าใจตรงกันว่าเป็นโรคที่รักษายาก เป็นโรคที่คุกคามชีวิต จิตใจของผู้ป่วยและญาติมิตรเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะมะเร็งตับ พอรู้ก็จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน เพราะอะไรหรือ เพราะตับเป็นอวัยวะที่อดทน เหมือนทหารที่ฝึกให้ทรหดอดทน ไม่เหลือบ่ากว่าแรงจะไม่แสดงอาการอ่อนแอให้เห็น พอมีอาการจึงหนักจนยากจะเยียวยาทุกทีไป แต่ก็เคยมีคนเป็นโรคมะเร็งตับ รักษาทุกวิธีแล้วไม้ได้ผล หมอให้ไปทำใจที่บ้าน พอกลับไปบ้านเขาทำใจให้สบาย ใช้ความสงบ ความร่าเริงเบิกบายใจ อาการป่วยกลับหายวันหายคืน จนเป็นปกติ เพราะอะไรหรือ เพราะตับเป็นอวัยวะที่กลัวความเครียด ความกังวลใจ ต้องการความสงบ ความร่างเริง ความสบายใจ หากใครทำได้ ไม่แน่โรคอาจหายได้เหมือนคนที่ว่านี้ก็ได้
ผู้เขียนได้รักษาผู้ป่วยชาย อายุ 61 ท่านหนึ่งเป็นข้าราชการเกษียณ พบว่าตัวเองเป็นมะเร็งตับเมื่อปี 2557 ด้วยอาการน้ำหนักตัวลดลงมากโดยไม่มีสาเหตุ อ่อนเพลียลงเรื่อยๆ
เขาเป็นคนดื่มเหล้ามาตั้งแต่ยังหนุ่มจนกระทั่งตรวจพบว่าเป็นมะเร็งตับจึงเลิก ตรวจที่โรงพยาบาลมีชื่อแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ พบว่ามีก้อนเนื้อในตับหลายก้อน 1.2 1.5 1.9 และ 3.2 ซม. หมอใช้วิธีฉีดยาเข้าเส้นเพื่อสลายก้อน หลังฉีดไม่เพียงไม่ได้ผล แต่ละก้อนกลับโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อ 5 ปีก่อน เคยตรวจพบว่าเกร็ดเลือดต่ำมาตลอด หมอว่าเคยได้รับเชื้อไวรัสซีมาก่อน และสงสัยว่าจะเป็นมะเร็งตับ แต่ไม่ได้รักษา เพราะไม่มีอาการผิดปกติอะไร ไม่มีอาการท้องอืดแน่น จึงยังดื่มเหล้าต่อเนื่อง
หลังจากฉีดยาลดก้อนไม่ได้ผล หมอแนะนำฉีดคีโม เมื่อเดือนสิงหาคม 57 ฉีดไปได้ 3 เข็ม ทนผลข้างเคียงคีโมไม่ไหว จึงไม่ยอมฉีดต่อ ลูกสาวเลยพามากินยาจีน ไม่มีทางเลือก หากไม่ฉีดคีโมก็ต้องมีวิธีอื่นมารองรับ เขาจึงยอมลองดู เพราะไม่อยากให้คีโมอีก หายก็หาย ไม่หายจะตายก็ช่างมัน ไม่อยากทรมาน
จึงให้ยาต้มที่ทั้งช่วยบำรุงช่วยซ่อมแซมเซลล์ตับ ยาสลายก้อน ดับพิษมะเร็ง ขับพิษตับ คลายเครียดตับ และเสริมภูมิต้านทานของร่างกายไปพร้อมกัน ทั้งยังแนะนำให้เขาใช้ชีวิตด้วยความสบายใจ ไม่เครียดกังวล เขาจึงตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่ต่างจังหวัด หลังกินยาพอมีแรงขึ้นก็ทำงาน ปลูกผัก ทำไร่ทำสวนด้วยความสบายใจ ร่างกายดีขึ้นเรื่อยๆ จากวันนั้นถึงวันนี้เริ่มกินยาตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2558 ต่อเนื่องมาถึงวันนี้ เดือนตุลาคม 2559 ร่างกายยังแข็งแรง ขอร้องให้ไปตรวจ เขาไม่ยอม บอกว่า หากจะตายก็จะขอตายสบายๆ อย่างนี้ดีกว่า
ยังมีคนไข้สตรี อายุ 50 กว่า เป็นไวรัสตับอักเสบ บี มาเป็นเวลา 10 ปี ค่าเอนไซน์ตับสูง 200 กว่า มาตลอด มีอาการท้องอืดเฟ้อ ลมในท้องมาก เหนื่อยเพลีย ช่วงแรกให้ยารักษาไวรัสตับอักเสบ บีเท่านั้น แต่เนื่องจากไวรัส บี มีปริมาณสูงมานาน ค่าเอนไซด์ตับก็สูงมานาน ไม่วางใจจึงแนะนำให้ไปตรวจค่ามะเร็งตับ ผลปรากฏว่าค่ามะเร็งตับสูงขึ้นกว่าปกติ แม้จะไม่ถึงกับมากเกินไป แต่ก็สร้างความกังวลใจให้กับผู้ป่วยและหมอไม่น้อย
คนไข้ยอมลองกินยาจีนรักษาต่อ แต่คราวนี้ไม่ใช่ยาเม็ดบำรุงเซลล์ตับและทำลายไวรัสตับอย่างเดียว แต่ต้องกินยาต้มที่ช่วยสลายก้อนมะเร็งและดับพิษมะเร็งด้วย เธอกินยาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องกันไม่ขาด มีวินัยในการกินยามาก หากไม่มีเวลามาเอายา จะต้องให้ส่งทางไปรษณีย์ ด้วยเหตุนี้ ค่าตับของเธอค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ผ่านไป 1 ปี ไปตรวจอีกครั้ง เธอโทรฯ มาบอกด้วยความดีใจว่า ผลเลือดทุกอย่างปกติ เธอพอใจมาก ถึงอย่างไรเธอจะยังกินยาช่วยฟื้นฟูตับต่อไป
การรักษาโรคมะเร็งใช่ว่าจะง่ายๆ ใช่จะได้ผลเช่นนี้ทุกรายไป รายที่ไม่ได้ผล รักษาไม่หาย หรือถึงกับเสียชีวิตที่ทำให้เราต้องเสียใจก็มีหลายคน ฉะนั้น จะว่าแผนจีนแก้ปัญหาให้ได้ทุกคน ก็ยังบอกอย่างนั้นไม่ได้ หรือจะบอกว่าแผนจีนรักษาไม่ได้ผลเลยก็ไม่ใช่ ต้องดูเป็นรายๆ ไป