ประสบการณ์เล็กน้อยในการใช้คีโมกับยาจีน | คมชัดลึก

 

มีผู้ป่วยชาย อายุ 60 ร่างกายแข็งแรงมาก กินได้นอนหลับดี มาช่วงหลังๆ หลับเยอะไปหน่อย ที่บ้านไม่ได้เฉลียวใจ เพราะเป็นคนนอนเก่งอยู่แล้ว แต่มีกลางดึกคืนหนึ่ง รู้สึกเวียนศีรษะมาก หมดแรงเดินไม่ได้ ต้องหามเข้าโรงพยาบาลฉุกเฉิน หมอตรวจพบว่า มีเนื้องอกที่สมอง สมองบวมน้ำ หมอให้ยาลดบวมน้ำในสมอง อาการเวียนศีรษะ และอ่อนแรงดีขึ้น เมื่อตรวจละเอียดแล้วปรากฏว่าเนื้องอกที่สมองนี้เป็นมะเร็งที่ลามมาจากมะเร็งปอด หมอจึงฉายรังสีที่สมอง การฉายรังสีไม่มีผลข้างเคียงอะไรมาก พร้อมกันนั้นก็ให้คีโมชนิดกิน เพราะเหมาะกับการรักษามะเร็งปอด

แต่การกินยาคีโมเม็ดนี่ไม่ธรรมดาเลย ยาเป็นแคปซูลธรรมดาไม่คิดว่าจะมีพิษสงอะไรมาก คงเหมือนยาแคปซูลทั่วๆ ไป แต่ที่ไหนได้พอส่งยาเข้าปากเท่านั้นแหละผู้ป่วยรู้สึกร้อนเหมือนกลืนถ่านไฟแดงๆ ตั้งแต่ปากถึงทวาร หลังจากกินไป 2-3 เม็ด ใบหน้าเริ่มดำคล้ำ มีตุ่มเม็ดใหญ่แดงคล้ำขึ้นกระจายเต็มใบหน้า โดยเฉพาะรอบปากมีตุ่มร้อนเม็ดเป้งๆ แห้งแสบร้อนปากตลอดเวลา อารมณ์หงุดหงิด วีนคนรอบข้างบ่อยๆ กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ ปากคอแห้งกินข้าวไม่ได้ หมอบอกว่าผู้ป่วยบางคนเล็บจะดำ ทนกินยาต่อเนื่องไม่ได้ ต้องกินยา 2-3 วันหยุดไป 2-3 วัน

เมื่อมีคนแนะนำให้มากินยาจีนร่วมด้วย เขาจึงมาหาที่คลินิก ขึ้นชื่อว่าคีโม ไม่ว่ากินหรือฉีดล้วนมีพิษสงไม่แพ้กันทั้งนั้น ตัวมะเร็งก็ร้อน และมีพิษมากอยู่แล้ว คีโมยิ่งเพิ่มพิษและความร้อน เผาผลาญสารน้ำ สร้างความทรมานแก่ในร่างกายเพิ่มมากขึ้นอีก หากไม่มีสิ่งบรรเทาความร้อน ลดพิษคีโมบ้าง ร่างกายของผู้ป่วยยากที่จะทนต่อไปได้ เมื่อกินยาหยุดๆ กินๆ ผลจะดีแค่ไหนก็เป็นที่น่าสงสัย แต่ถ้ากินไม่หยุดเลย ร่างกายก็ทนไม่ไหว ด้วยเหตุผลนี้ และด้วยประสบการณ์ที่เคยรักษาลูกสาวมาแล้ว ผู้เขียนจึงให้เขากินยาจีนลดร้อน ยาจีนเสริมฤทธิ์ลดพิษคีโม ยา "คีโมจีน” ตามลำดับ อาการร้อน ตุ่มตามใบหน้าต่างๆลดน้อยลงไปเรื่อยๆ จนตุ่มบนใบหน้าหายไป ไม่หงุดหงิด สงบได้มากขึ้น นอนหลับดีขึ้น และสามารถกินยาคีโมได้อย่างต่อเนื่อง คุณภาพชีวิต จิตใจดีขึ้นเป็นลำดับ

ดีที่ผู้ป่วยเป็นคนคิดบวก ไม่คิดมาก ไม่กังวลจนเกินไป ออกกำลังกายตามสภาพตัวเอง ครอบครัวก็อบอุ่น ดูแลกันเป็นอย่างดี กินอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ ดื่มน้ำปั่นผลไม้ และอาหารเสริมบางอย่าง ทำให้ร่างกายค่อยๆ ฟื้น น้ำหนักค่อยๆ เพิ่มขึ้น

ที่ทำนายกันว่า จะอยู่ได้แค่ ครึ่งปี ตอนนี้อยู่มาได้ปีกว่าแล้ว

การผสมผสานกัน เอาข้อดีของศาสตร์หนึ่งมาช่วยลดข้อเสียของอีกศาสตร์หนึ่ง เป็นการหนุนช่วยกันและกัน ช่วยลดความทรมานให้ผู้ป่วย จะเห็นได้ว่ายาจีนสามารถขจัดผลข้างเคียงที่ร้อนระอุเผาไหม้ไปทั่วให้ลดน้อยลง ทั้งยังช่วยลดพิษเสริมฤทธิ์คีโมได้อีกด้วย ขอให้ใช้ให้ถูก

ความรู้ทางการแพทย์ของแต่ละศาสตร์ จะมีข้อดีข้อด้อยในตัวเอง สิ่งที่เราไม่ได้เรียน จะไม่รู้ สิ่งที่เราไม่รู้ใช่ว่าจะไม่ดี หากใจเราเปิดกว้าง สิ่งดีๆ จึงจะรับเข้าไปได้ ไม่ควรคิดว่าสิ่งที่เรารู้เราเรียนมาเท่านั้นจึงจะดี

ที่ผ่านมา บางคนเป็นมะเร็งรักษาด้วยคีโมอย่างเดียว หาย มีชีวิตอยู่ได้เป็น 10 ปี บางคนรักษาด้วยสมุนไพร อยู่มาได้หลายปี แต่บางคนรักษาทุกอย่าง ก็ไม่หายและเสียชีวิต ยาชนิดนี้วิธีนี้ใช้กับคนนี้ได้ผล แต่กับคนอื่นอาจไม่ได้ผล ต้องขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง พื้นฐานร่างกาย จิตใจ วิถีชีวิต และกำลังใจของคนรอบข้างของผู้ป่วยแต่ละคน จะเหมารวมเหมือนกันหมดไม่ได้ การรักษาหายหรือไม่หายจึงให้ข้อสรุปง่ายๆ ไม่ได้ เหล่านี้ ล้วนเป็นประเด็นให้ผู้ทำงานการแพทย์ในทุกศาสตร์ต้องค้นคว้าหาคำตอบ ร่วมไม้ร่วมมือกัน ให้เกียรติกัน ศึกษาข้อดีของแต่ละศาสตร์มาเติมเต็มให้กันงานการแพทย์บ้านเราจึงจะก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้น