คู่ครองอยากทิ้งครอบครัวไปทำตามความฝัน ควรทำอย่างไร

ปุจฉา : กราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ ดิฉันแต่งงานมาร่วมยี่สิบปี มีลูกชายสองคน ยังอยู่ในวัยเรียน ในช่วงที่ผ่านมาสามีเครียดและเบื่อความวุ่นวายของชีวิต เบื่อสังคมรอบข้าง เขารู้สึกเหมือนมีภาระมากมาย ในระยะหลังมีความคิดที่อยากจะแยกตัวออกไปอยู่คนเดียวเพื่อให้มีอิสระ อยากทำอะไรจะได้ทำตามใจตัวเอง ไม่ต้องคอยห่วงคนรอบข้างเหมือนที่ผ่านมา

     เวลาที่อ่านข้อความ หรือดูหนังที่เกี่ยวกับเรื่องชีวิตหนึ่งเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว จงกล้าหาญทำในสิ่งที่ฝัน หรือใช้เวลาที่เหลือทำตามความฝัน เขาก็จะตีความไปในทางเข้าข้างตัวเอง คือ จะทิ้งครอบครัวไปอยู่ลำพัง ดิฉันจึงอยากจะขอคำชี้นำจากพระอาจารย์ว่า ควรจะทำอย่างไรเพื่อให้เขาเข้าใจว่า การทำตามฝันนั้น ควรพิจารณาปัจจัยรอบข้างด้วย กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ค่ะ

วิสัชนา : ในฐานะที่เป็นคู่ชีวิต เป็นกัลยาณมิตรของสามี คุณควรตั้งจิตปรารถนาดี อยากช่วยเหลือเขา เช่น ช่วยเขาคิดหาทางออกจากความเครียดและความเบื่อหน่าย หากเขาอยากทำตามความฝันก็ช่วยเขาคิดว่าความฝันของเขาคืออะไร มันมาจากเสียงเรียกร้องในส่วนลึกของจิตใจหรือไม่ หรือว่าเป็นแค่ความต้องการอยากจะหนีความเครียดและความเบื่อหน่ายจำเจ โดยมีความฝันเป็นข้ออ้าง หากว่ามันเป็นความใฝ่ฝันที่เขาโหยหาอย่างแท้จริง คุณก็ช่วยเขาคิดว่าจะทำให้เป็นจริงได้อย่างไร ประการหลังนี้หมายความว่า เขาต้องคำนึงถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดในความเป็นจริงด้วย หนึ่งในนั้นก็คือความรับผิดชอบต่อครอบครัว

หากเขาคิดว่ามันเป็นความใฝ่ฝันที่เขาปรารถนามาเนิ่นนาน ในฐานะที่คุณเป็นคู่ชีวิตของเขา อะไรที่ช่วยให้เขามีความสุขก็ควรเกื้อกูลเขา อย่างไรก็ตามคุณควรช่วยเขาคิดต่อด้วยว่า เขาจะจัดการอย่างไรกับพันธะครอบครัวที่มีอยู่ อาจมีข้อตกลงร่วมกันว่า เขาจะดูแลรับผิดชอบครอบครัวอีกสักระยะหนึ่ง หลังจากนั้นก็ให้โอกาสเขาทำตามความใฝ่ฝัน

อาตมาคิดว่าหากมีความเห็นพ้องต้องกันแบบนี้เขาก็จะคงสบายใจที่ได้ทำตามความฝันของตน โดยคนในครอบครัวยอมรับและสนับสนุน มิใช่เป็นการทำตามอำเภอใจฝ่ายเดียว ส่วนคุณเองก็น่าจะพอใจที่เขาได้สะสางภารกิจของครอบครัวก่อนที่จะออกไปทำตามความใฝ่ฝัน อีกทั้งความใฝ่ฝันของเขาคุณก็มีส่วนรับรู้และช่วยคิดด้วย

อยากมีคู่ชีวิต ครอบครัวอบอุ่น ควรทำอย่างไร

ปุจฉา : อยากมีคู่ชีวิต ครอบครัวอบอุ่นต้องทำยังไงคะ

วิสัชนา : พระพุทธเจ้าได้ให้คำแนะนำสำหรับการมีชีวิตคู่เพื่อให้คู่สมรสมีชีวิตกลมกลืนกัน อยู่ด้วยกันอย่างยั่งยืน คำแนะนำดังกล่าวเรียกว่า สมชีวิธรรม ซึ่งมี ๔ ประการ ได้แก่

๑.สมสัทธา คือ มีศรัทธาสอดคล้องกัน เช่น นับถือหรือเชื่อมั่นในพระรัตนตรัยเหมือนกัน

๒.สมสีลา คือ มีศีลเสมอกัน

๓.สมจาคา คือ มีจาคะหรือความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เหมือนกัน

๔.สมปัญญา คือ มีปัญญาเสมอกันหรือสอดคล้องกัน

คุณควรนำหลักธรรมดังกล่าวมาใคร่ครวญและนำไปปฏิบัติ หากทั้งคุณและคู่ครองปฏิบัติด้วยกันและสอดคล้องกันก็จะมีความผาสุกและอยู่ด้วยกันได้อย่างยั่งยืน

ล้อมกรอบ

สายด่วนให้คำปรึกษาทางจิตใจผู้ป่วยระยะสุดท้าย “เตรียมตัวก่อนสู่วาระสุดท้ายของชีวิต จะทำอย่างไรดี” ปรึกษาได้ที่ โทร. ๐๘-๖๐๐๒-๒๓๐๒