ไลฟ์สไตล์

 อินเด็กซ์ แบรนด์ไทยบุกตลาดดูไบ

อินเด็กซ์ แบรนด์ไทยบุกตลาดดูไบ

15 ส.ค. 2552

เมื่อวันที่ 4-8 สิงหาคมที่ผ่านมา ผมและทีมงานอยู่สบายได้เดินทางไปเมืองดูไบ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรสต์ พร้อมผู้สื่อข่าวหลายสำนักตามคำเชิญของ “Index Living Mall” ในการเปิดศูนย์แห่งใหม่ในต่างประเทศเป็นครั้งแรกของ “Index Living Mall”

 หลังจากเปิดสาขาในเมืองไทยไปแล้ว 17 สาขา ถือเป็นการบุกเบิกสู่ตลาดตะวันออกกลางอย่างสำเร็จและปักธงสู่ความเป็นอินเตอร์ในฐานะบริษัทสัญชาติไทยที่นำรสนิยมในการตกแต่ง การจัดรูปแบบบรรยากาศห้องต่างๆ การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงการผลิตจากประเทศไทย

 นับเป็นการสวนกระแสเศรษฐกิจครั้งสำคัญและเป็นข่าวดี สำหรับประเทศไทยที่คนอาหรับก็ให้การยอมรับแบรนด์ไทย ผมและ อ.กฤษณพงศ์ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ Mr.Sanveer Gill (Director of Retail is Detail) ชาวสิงคโปร์เชื้อสายอินเดีย นักธุรกิจที่บุกเบิกธุรกิจในดูไบมาแล้วหลายบริษัท ผู้ซื้อ แฟรนไชส์อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ แล้วเลือก “ดูไบมอลล์” ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของโลกเป็นสาขาแรกในการตั้งโครงการด้วยความมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จเทิร์นโอเวอร์ไม่เกิน 12 เดือน และมีแนวโน้มจะขยายศูนย์ทั่วตะวันออกกลางในไม่กี่ปีนี้  และได้เปิดเผยว่าการตัดสินใจเลือก อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์  เพราะชื่นชมกับวิธีการจัดวางของตกแต่งบรรยากาศและสินค้าที่หลากหลาย โดยมองว่าตลาดในดูไบยังสามารถเติบโตได้อีกมาก จากจำนวนอาคารที่ยังก่อสร้างมากขึ้นโดยตลอด ถึงแม้เศรษฐกิจโลกจะกระทบอยู่บ้าง แต่การขยายเมืองยังคงเติบโตขึ้น

 จากบรรยากาศภาพรวมของดูไบยังสะท้อนให้เห็นถึงความคึกคักในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีเพียงแค่ผู้ซื้อสินค้าตกแต่งรายย่อยเท่านั้น โครงการมูลค่ามหาศาลหลายหมื่นยูนิตก็มีความต้องการด้วยเช่นกัน

 คุณกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ ในฐานะตัวแทนธุรกิจต่างประเทศของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ได้เปิดเผยหลังจากเปิดศูนย์ ณ ดูไบมอลล์  เพียง 1 วัน ว่าลูกค้าให้การตอบรับมหาศาลและถือว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และในช่วงวัน 2 วันที่ผ่านมามีเจ้าของโครงการยักษ์ใหญ่ติดต่อให้ตกแต่งมากมายเช่นกัน

 “EMAAR GROUP”  คือ เจ้าของดูไบมอลล์และโครงการยักษ์ใหญ่ในดูไบหลายโครงการ วิสัยทัศน์ของเขาที่มาพร้อมกับวิสัยทัศน์ของดูไบก็คือ การสร้างสิ่งที่ดีที่สุด หรือสุดๆ เป็นจุดขาย แหล่งข่าวเปิดเผยว่าอีกไม่เกิน 60 ปี น้ำมันของดูไบจะหมด การสร้างจุดขายทดแทนธุรกิจน้ำมันและเพื่อให้เกิดกระแสลงทุนโดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์ทุกอย่างที่สุดๆ จะต้องเกิดที่นี่ทุกอย่างที่ท้าทายการก่อสร้าง, วิศวกรรมจะต้องเกิดขึ้นที่นี่ แม่เหล็กในความมหัศจรรย์ของสิ่งที่มนุษย์สร้างก็จะต้องเกิดขึ้นที่นี่เช่นกัน

 จากการขยายตัวอย่างมากมายในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา จึงทำให้ดูไบเป็นสนามการประลองการออกแบบสถาปัตยกรรมอีกทั้งเป็นแหล่งขุดทองทางเศรษฐกิจจากคนทั้งโลกที่เข้ามาลงทุนในช่วงนี้

 คุณพิศิษฐ์ ปัทมสัตยาสนธิ ประธานกรรมการบริหาร อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าการเปิดศูนย์ลิฟวิ่งมอลล์ในดูไบ เปรียบเสมือนการส่งมนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์ ถือเป็นการบุกเบิกครั้งยิ่งใหญ่ที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคปัญหาต่างๆ มากมาย ความอดทนกับปัญหาและแรงผลักดันของเป้าหมาย เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สำเร็จ  ความกล้ามองทะลุปัญหาและอุปสรรคได้ทะลุ  มีความรอบคอบในการวางแผนทุกก้าวไม่ท้อถอยเมื่อเจอปัญหา ไม่มองอุปสรรคเป็นเรื่องเลวร้าย เป็นเคล็ดลับของความสำเร็จในโครงการนี้

 จากการเปิดเผยของนักธุรกิจดูไบและชาวต่างชาติหลายๆ ราย ได้บอกถึงเสน่ห์ของธุรกิจร้านค้าของคนไทยว่ารอยยิ้ม  ความจริงใจ และการให้บริการที่ดีเลิศ เป็นจุดขายของร้านแบรนด์ไทย โดย Index Living Mall สาขาดูไบมอลล์ มีคนไทยทั้งนักออกแบบ, สไตลิสต์, พนักงานขายจำนวน 37 ชีวิต ต่างได้รับการชมเชยเป็นเสียงเดียวกันว่า บุคลิกลักษณะความน่ารักของคนไทยเป็นเสมือนจุดดึงดูดของร้านได้มากที่สุด

 ข้อดีของไทยเรายังมีอีกมากครับ ถ้าเรารู้จักนำมาเป็นจุดขาย เช่น การให้บริการที่ดีเลิศ การทำราคาให้สามารถแข่งขันได้ บุคลิกของผู้ขายและการให้บริการที่ดูจริงใจเป็นมิตร ความละเอียดอ่อนประณีตของสินค้า รสนิยมทางด้านศิลปะ คือตัวอย่างของ Index Living Mall ที่ทำให้ผมเชื่อว่าจะขยาย นำชื่อเสียงมาให้ประเทศไทยได้อีกมากมายในอนาคตอย่างแน่นอน

 ภาครัฐก็ควรให้การสนับสนุนร่วมแรง ร่วมใจ ร่วมบุกเบิกไปกับเอกชน ร่วมลำบาก ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับเอกชนตั้งแต่ต้นไม่ใช่เพียงแค่รับอานิสงส์ความดี ความชอบจากความสำเร็จที่เอกชนทำ และเสนอหน้าอวดความสำเร็จในวันสุดท้าย หรือเฉพาะวันที่สำเร็จ ยังมีนักธุรกิจที่ต้องการความช่วยเหลืออีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม SME กลุ่มร้านค้าขนาดเล็กที่ไม่ใหญ่ไม่โต ไม่มีเส้นสาย ที่ต้องทนทุกข์ทนความลำบากด้วยตัวเองอย่างสุจริต ความคุ้มค่าที่ทุกคนขยัน และจ่ายภาษีเต็มที่ก็ควรจะได้รับความสะดวกจากภาครัฐมากกว่าที่เป็น ไม่ใช่เอาใจแต่เพียงยักษ์ใหญ่ที่เขาเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว

 สำหรับนักธุรกิจที่ต้องการไอเดียใหม่ๆ ที่คนไทยถนัดสามารถเข้ามาร่วม ในงานสัมมนาพิเศษ ในวันที่ 12-13 กันยายน 2552 นี้ ในหัวข้อ “พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสด้วยการออกแบบ” ตอน โรงแรมและรีสอร์ทขนาดเล็กแนวใหม่ ร่วมกับ เนชั่นแชนแนล, TTF และเนชั่นบุ๊คส์ ณ ห้อง Multi Purpose รอยัล พารากอน ฮอลล์  ชั้น 5 สยามพารากอน ในงาน Interior in Trend’09 ราคาบัตร 1,888 บาท โดยทุกท่านจะได้รับหนังสืออยู่สบายฉบับพิเศษพร้อมรับ VCD “Hotel Design” ท่านสามารถสำรองที่นั่งได้ที่โทร. 0-2984-0091-2  แล้วพบกันนะครับ

 อ. เอกพงษ์   ตรีตรง
www.ideal1group.com