‘หลวงปู่สนั่น จิณณธัมโม’ อายุ ๙๓ ปีศิษย์เอก‘ท่านพ่อลี’

ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม เป็นศิษย์ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่มีผู้เคารพศรัทธาเลื่อมใสทั่วประเทศ ในอดีต ท่านพ่อลี ชอบพาญาติโยมสร้างศาสนสถาน บำเพ็ญบุญ งานการกุศลต่างๆ รวมทั้งสร้าง พระเครื่อง เป็นจำนวนมาก ทุกวันนี้เป็นที่นิยมสะสมกันอย่างกว้างขวาง เคยมีพระผู้ใหญ่ถาม ท่านพ่อลี ทำนองว่า...เป็นศิษย์พระอาจารย์มั่น แต่ทำไมไม่เน้นภาวนา ชอบพาญาติโยมจัดงานบุญงานกุศล สร้างพระเครื่องอยู่เป็นประจำ              

ท่านพ่อลี ตอบอย่างน่าฟังว่า “เกล้ากระผม ทำนาไม่ได้เอาข้าวอย่างเดียว แกลบผมก็เอา รำผมก็เอา ฟางผมก็เอา” จึงไม่แปลกที่ท่านพ่อลี เป็นลูกศิษย์ พระอาจารย์มั่น ที่สร้างพระเครื่อง พระพิมพ์ต่างๆ ไว้เป็นจำนวนมาก ไว้สงเคราะห์ญาติโยมและไว้สืบทอดพระศาสนา   

           

หลวงปู่สนั่น จิณณธัมโม อายุ ๙๓ ปี ท่านเป็นพระมหาเถระ ศิษย์รูปสำคัญของ ท่านพ่อลี และครูบาอาจารย์อีกหลายรูป อาทิหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท, หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ฯลฯ

              อุปนิสัยของ หลวงปู่สนั่น เรียบง่าย ไม่ยึดติดสถานที่และสิ่งใดๆ ท่านมักเที่ยวธุดงค์ไปเรื่อยๆ แม้ในวัยชรา ท่านก็ยังคงเปลี่ยนสถานที่จำพรรษา เพื่อประพฤติปฏิบัติธรรม สงเคราะห์วัดวาอาราม และลูกศิษย์ลูกหาไปเรื่อยๆ              

หลวงปู่ชอบความสันโดษ สงบ ชอบเดินทางคนเดียว แม้ท่านจะเป็นพระมหาเถระผู้ทรงอายุพรรษาสูงแล้ว แต่ท่านยังชอบเดินทางไปมาสถานที่ต่างๆ ด้วย รถเมล์ โดยสารเพียงรูปเดียว โดยไม่มีผู้ติดตามใดๆ จะมีเพียงภายหลังที่ท่านอนุโลมให้ลูกศิษย์รับใช้ขับรถถวายบ้าง เนื่องจากสายตาท่านมีปัญหาตามความชราภาพ              

ความรักสันโดษของหลวงปู่ทำให้เวลาไปร่วมงานพิธีต่างๆ ท่านมักไปนั่งรวมกับพระหนุ่มเณรน้อย และพักในกุฏิเล็กๆ ไม่เคยแสดงตนเป็นพระเถระแต่อย่างไร จึงไม่แปลกที่อาจจะมีหลายคนซึ่งยังไม่รู้จักท่าน จึงมองผ่านท่าน หรือไม่เคยเห็นท่านมาก่อนเลย              

กล่าวถึงการปฏิบัติธรรมภาวนาของ หลวงปู่สนั่น สมัยเมื่อจำพรรษาร่วมกับ ท่านพ่อลี เป็นการฝึกตนอย่างเข้มข้น ท่านเล่าให้ฟังว่า การนั่งภาวนากับท่านพ่อลีนั้น ท่านพ่อลีจะให้นั่งบนแคร่ไม้ไผ่ หากนั่งแล้วสัปหงกไม้ไผ่จะขยับและเกิดเสียงดัง เมื่อนั่งแล้วยังสัปหงกอยู่ หลวงปู่สนั่นจึงตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวไปนั่งริมหน้าผา ตั้งใจว่า หากวันนี้ยังนั่งภาวนาแล้วสัปหงกจิตไม่สงบ ก็จะถือว่าวันนี้จะเป็นวันตายของท่าน              

การปฏิบัติธรรมของท่านตลอดทั้งชีวิตที่ผ่านมา ท่านเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า มีแต่จะมุ่งให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความก้าวหน้า ท่านจึงได้ผลการปฏิบัติเป็นที่น่าพอใจ              

แต่ด้วยพระวินัยของพระสงฆ์ข้อหนึ่งที่ว่า “ห้ามบอกอุตริมนุสธรรมที่มีในตน” หลวงปู่สนั่น จึงเก็บความรู้ความเห็นพิเศษของท่านไว้อย่างเงียบๆ หากแต่ผู้รับใช้ใกล้ชิดท่านก็มักได้ประสบพบเห็นอยู่เสมอๆ              

ในด้านวัตถุมงคล หลวงปู่สนั่น มักสร้างพระพิมพ์ เช่นเดียวกับท่านพ่อลี ผู้เป็นอาจารย์ เพื่อบรรจุสถานที่สำคัญและแจกจ่ายให้ลูกศิษย์เพื่อสืบทอดพระศาสนา ด้วยหลักการเดียวกับ ท่านพ่อลี คือ ทำนา ไม่ได้เอาแต่ข้าว แกลบก็เอา ฟางก็เอา บางคนสงเคราะห์ด้วยธรรมะได้ บางคนต้องสงเคราะห์ด้วยวัตถุไปก่อน              

ในโอกาสที่ หลวงปู่สนั่น เจริญอายุครบ ๙๓ ปี เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๙ คณะศิษย์จึงขออนุญาตจัดสร้าง ล็อกเกตหลวงปู่สนั่น รุ่น “มหาลาภ” เพื่อมอบให้แก่ผู้บริจาคทรัพย์แด่หลวงปู่ เพื่อใช้ในสาธารณกุศลต่างๆ              

ประกอบด้วย ๑.ล็อกเกตใหญ่ หลังเหรียญพระปัจเจกโพธิ์พระพุทธเจ้า เนื้อทองคำ, เนื้อเงิน, เนื้อนวโลหะ และเนื้อดีบุก ๒.ล็อกเกตเล็ก หลังเรียบนูน เนื้อทองคำ, เนื้อเงิน และเนื้อนวโลหะ โดยผ่านการแผ่เมตตาอธิษฐานจิตถึง ๓ วาระ คือ ในงานมุทิตาจิต หลวงปู่ท่อน จ.เลย, พระอาจารย์กฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน ซึ่งท่านเคารพหลวงปู่สนั่นมาก อธิษฐานจิต และจารล็อกเกตทุกอัน ก่อนบรรจุมวลสารมงคลมากมาย และหลวงปู่สนั่นอธิษฐานจิตปิดท้าย ล็อกเกตรุ่นนี้เป็นที่ต้องการของบรรดาศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก และหมดลงอย่างรวดเร็ว              

ปัจจุบัน หลวงปู่สนั่น เดินทางไปมาระหว่าง วัดธารเกษม จ.สระบุรี, วัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี และบ้านบางสระเก้า อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี บ้านเกิดของท่าน ซึ่งท่านยกให้เป็นสมบัติของศาสนาไปแล้ว             

ศรัทธาสาธุชนท่านใดหากมีเวลาและโอกาสเอื้ออำนวย ขอแนะนำให้ไปกราบสักการะ หลวงปู่สนั่น สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตสืบไป