
สายตรวจระวังภัย วันที่ 22 ส.ค.59
“สายตรวจไฮเทค” ติดกล้องเชื่อมระบบออนไลน์ เพิ่มศักยภาพบันทึกข้อมูลล่าโจร โดย กรกมล อักษรเดช
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีสมัยใหม่กลายเป็น “อาวุธลับ” ของการทำงานด้านต่างๆ ในทุกสาขาอาชีพ เนื่องจากทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและแม่นยำ โดยเฉพาะระบบรักษาความปลอดภัยตามที่ต่างๆ จะต้องมีเรื่องของกล้องวงจรปิด ถึงแม้กล้องจะไม่ได้ทำหน้าที่จับหรือป้องกันคนร้ายไม่ได้โดยตรง แต่ก็ทำหน้าที่บันทึกภาพบุคคลต้องสงสัยและเหตุการณ์นั้นๆ อันเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ นำทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปสู่การจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้
ด้วยเหตุนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้เล็งเห็นความสำคัญและประสิทธิภาพของเทคโนโลยียุคปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้เสริมศักยภาพการทำหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้ดียิ่งขึ้น โดย พล.ต.อ.วินัย ทองสอง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ผบช.สทส.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.สทส. และ พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา ผบก.สทส. จึงได้ร่วมกันเปิด “โครงการพัฒนาการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในรถยนต์สายตรวจ”
“ในส่วนของการบริหารจัดการให้ห้องปฏิบัติการ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการบริหารจัดการข้อมูล และอีกส่วนเรียกว่าการควบคุมสั่งการแบบเรียลไทม์ โดยในส่วนแรกจะให้ตำรวจในโครงการได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ เมื่อประสบปัญหา ต้องการที่จะให้ฝ่ายดูแลระบบปรับปรุงเรื่องใดก็สามารถที่จะแจ้งประกาศให้ผู้ดูแลระบบได้ทันที ส่วนที่สอง การควบคุมรถสายตรวจแบบเรียลไทม์ สามารถที่จะตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์สายตรวจ ณ ปัจจุบันได้ อีกทั้งยังสามารถพูดคุยสนทนาตอบโต้กับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ณ เวลาจริงได้ทันที” พล.ต.ต.ศิริพงษ์ กล่าว
นอกเหนือจากอาวุธประจำกายแล้ว สายตรวจไฮเทคที่เน้นเพิ่มศักยภาพในเรื่องของเทคโนโลยี ก็เสมือนอาวุธอีกชิ้นหนึ่งของสายตรวจที่ใช้ได้จริง หากพบรถหรือบุคคลต้องสงสัย จะสามารถตรวจสอบได้ทันที