
แม่ป่วยเป็นมะเร็ง ควรบอกหรือไม่
แม่ป่วยเป็นมะเร็ง ควรบอกหรือไม่ : ปุจฉา-วิสัชนากับพระไพศาล วิสาโล
ปุจฉา : กราบนมัสการพระอาจารย์ไพศาล ดิฉันอยากถามท่านว่า เมื่อรู้ว่าแม่ป่วยเป็นมะเร็ง
แต่ดิฉันและพี่ๆ ลงความเห็นที่จะไม่รักษาแม่ตามที่หมอแนะนำ และได้ปกปิดเรื่องที่แม่เป็นมะเร็ง ซึ่งดิฉันรักษาแม่โดยแพทย์ทางเลือก การรักษาก็ต้องทำแบบปกปิด ทุกๆ ครั้ง ซึ่งตัวดิฉันเองเป็นคนที่ดูแลและใกล้ชิดท่านที่สุด มีความอึดอัดใจที่ทุกครั้งที่แม่ถามเกี่ยวกับยาว่า
ทำไมต้องกินยา หรือทุกๆ อย่างในการรักษา จะรู้สึกว่าตัวเองบาปที่โกหกท่าน เพื่อที่จะได้เห็นท่านไม่ต้องเจ็บปวดกับการรักษาแพทย์แผนปัจจุบัน
วิสัชนา : การปกปิดความจริงแก่ผู้ป่วยนั้นมักทำได้ไม่นาน ในที่สุดผู้ป่วยก็ย่อมระแคระคาย หรือเกิดความสงสัย เพราะสังเกตได้จากสีหน้าท่าทางของคนใกล้ชิดที่แปรเปลี่ยนไป อาจทำให้ผู้ป่วยคิดไปต่างๆ นานา ซึ่งส่วนใหญ่มักจะวาดภาพเลวร้ายกว่าความเป็นจริงด้วยซ้ำ ส่วนผู้ใกล้ชิดก็คงไม่สบายใจที่ปกปิดความจริง
ดังนั้น หากเป็นไปได้ควรบอกความจริงแก่ผู้ป่วยว่าตนเป็นโรคอะไร แต่ก็ควรมีวิธีบอกที่แยบคาย เช่น ค่อยๆ บอกข้อเท็จจริงทีละนิดละหน่อย ขณะเดียวกันก็ประเมินไปด้วยว่าผู้ป่วยยอมรับได้ไหม ถ้ายอมรับได้ ก็ค่อยๆ “หยอด” เพิ่มอีกทีละนิดๆ การบอกความจริงนั้นมีประโยชน์แก่ผู้ป่วยตรงที่ช่วยให้ผู้ป่วยวางแผนชีวิตได้ถูกต้องตามความเป็นจริง อะไรที่ยังไม่ได้ทำ จะได้รีบทำให้เสร็จ อยากสั่งเสียลูกหลานหรือขอขมาใคร ก็จะได้ทำให้แล้วใจ ไม่รู้สึกติดค้างอีกต่อไป
นอกจากนั้นยังช่วยให้การรักษาผู้ป่วยทำได้สะดวกขึ้น เพราะไม่ต้องคอยปกปิดผู้ป่วยอีกต่อไป เมื่อผู้ป่วยรู้ความจริงแล้ว จะรักษาด้วยวิธีใด ก็น่าจะคุยกันได้ง่ายขึ้น หากลูกๆ
คิดว่าการรักษาแผนปัจจุบันสร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วย จะใช้วิธีการอื่นก็ไม่น่ามีปัญหาอย่างไร
อย่างไรก็ตาม หากคิดว่าผู้ป่วยยังยอมรับความจริงไม่ได้ บอกแล้วจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดีต่อผู้ป่วย ก็น่าจะบอกความจริงบางส่วนเท่าที่คิดว่าผู้ป่วยจะรับได้ ไม่ต้องถึงกับโกหก
สายด่วนให้คำปรึกษาทางจิตใจผู้ป่วยระยะสุดท้าย “เตรียมตัวก่อนสู่วาระสุดท้ายของชีวิต จะทำอย่างไรดี” ปรึกษาได้ที่โทร. ๐๘-๖๐๐๒-๒๓๐๒