ไลฟ์สไตล์

เปิดผลสอบเอแบคเคลียร์ชัดไร้ทุจริตทุกกรณี

เปิดผลสอบเอแบคเคลียร์ชัดไร้ทุจริตทุกกรณี

10 ส.ค. 2559

เผยเอแบคไร้ทุจริตทุกกรณี แจงเหตุบกพร่องในหน้าที่ของผู้บริหาร ชี้เอแบคโพล ผอ.ขอขมา ลาออก พร้อมเสนอรายชื่อนายก-กรรมการสภาต่อ รมว.ศธ.คาดได้อธิการฯใหม่กลางเดือนส.ค.

เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ(เอแบค) วิทยาเขตหัวหมาก ดร.ธนู กุลชล  ปฎิบัติหน้าที่อธิการบดีม.เอแบค กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการได้มีคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่สกอ.1098/2559 เรื่อง เลิกการควบคุมมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.นั้น  ส่งผลให้คณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยต้องยุติบทบาทลง แต่เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศทางคณะกรรมการควบคุมฯ ได้ให้ผู้ปฎิบัติหน้าที่อธิการบดีและรองอธิการบดีปฎิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีอธิการบดีคนใหม่ ซึ่งสภาเอแบคชุดใหม่ต้องเป็นผู้สรรหาอธิการบดี โดยขณะนี้ รมว.ศึกษาธิการได้มีคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสภาฯตามมาตรา 28 (4) ของพ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546  ตามบัญชีรายชื่อของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) มาแล้ว ดังนี้ นางนวลพรรณ ล่ำซำ อดีตรองเลขาธิการหอการค้าไทย ,รศ.วิทวัส รุ่งเรืองผล อาจารย์คณะพาณิชย์และการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ และ ศ.จตุรนต์  ถิระวัฒน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์  

ดร.ธนู กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรรมการสภาฯ ที่เหลือทางภราดาสุรสิทธิ์  สุขชัย ประธานมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย และผู้รับใบอนุมัติจัดตั้งเอแบคได้เสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่จะมาเป็นกรรมการสภาฯ ตามมาตรา 28(3) ของพ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2546 ไปทั้งหมด 13 คน ได้แก่ ภราดาสุรสิทธิ์ เป็นนายกสภามหาวิทยาลัย และกรรมการสภาเอแบค ผู้ทรงคุณวุฒิ อีกจำนวน 12 คน คือ ภราดา ผศ. ดร. วินัย วิริยวิทยาวงศ์  ผอ.รร.เซนต์คาเบรียล ,ภราดา ดร. เดชาชัย ศรีพิจารณ์ ผอ.รร.อัสสัมชัญ ,ภราดา ดร. ชำนาญ เหล่ารักผล ผอ.โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา, ภราดา ดร. พิสูตร วาปีโส ผอ.โรงเรียนอัสสัมชัญหลักสูตรภาษาอังกฤษ ,ภราดา ดร. วีรยุทธ บุญพราหมณ์ ผอ.โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ,ภราดา ดร. อาจิณ เต่งตระกูล ผู้ตรวจสอบภายใน เอแบค ,ภราดา ดร. มณฑล ประทุมราช ผอ.โรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา,ภราดา ดร. ทินรัตน์ คมกฤส อาจารย์อาวุโสของบัณฑิตวิทยาลัย เอแบค,ภราดา ดร. อำนวยยุ่นประยงค์ (ผู้แทนคณาจารย์ประจำ) รองอธิการบดีฝ่ายการศึกษา พัฒนาจริยธรรม เอแบค ,ภราดา ดร. ศิริชัย ฟอนซีกา (ผู้แทนคณาจารย์ประจำ) รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา เอแบค, นายอภิมุข  สุขประสิทธิ์ (ด้านกฎหมาย), นายสมชาย วงศ์ทรัพย์สิน (ด้านบัญชี)อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัยเอแบค ซึ่งกำลังรอให้รมว.ศึกษาธิการลงนามแต่งตั้ง จากนั้นเมื่อได้คณะกรรมการสภาฯ ครบชุดจะเร่งสรรหาอธิการบดีต่อไป โดยดำเนินการตามข้อบังคับใหม่ ทั้งนี้ เชื่อว่าจะได้อธิการบดีคนใหม่ ก่อนวันอัสสัมชัญเดย์ ในวันที่ 15 ส.ค.นี้ 

ปฎิบัติหน้าที่อธิการบดีม.เอแบค  กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นปัญหาที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบ ทั้ง 3 เรื่อง ได้ข้อสรุปดังนี้ 1. กรณีการจัดซื้ออุปกรณ์โครงการเครื่องบินฝึกจำลองเสมือนจริง แบบแอร์บัส เอ 320  ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า โครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาใช้ในการศึกษา  ไม่ปรากฎมีผู้ใดพฤติการทุจริต แต่ในฐานะอธิการบดีต้องรับผิดชอบ เพราะมีการขาดทุนไปทั้งหมด 11.18 ล้านบาท  เนื่องจากเป็นการลดค่าอัตราแลกเปลี่ยน และเป็นความบกพร่องของฝ่ายบริหารในการควบคุมดูแล โดยในครั้งนี้เป็นการดำเนินการก่อนที่จะมาอนุมัติจากสภาฯในภายหลัง ซึ่งทำเนียบปฎิบัติของเอแบคทำได้  แต่เมื่อสภาฯอนุมัติแล้วกลับไม่ได้แจ้งต่อคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) เพราะตามพ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 กำหนดว่า ถ้ามหาวิทยาลัยเอกชนไปลงทุนร่วมกับบริษัทอื่นในการทำกิจการ หรือใช้เงินลงทุนเกินกว่า 10 % ของกำไรของมหาวิทยาลัยในปีที่ผ่านมา ต้องขออนุมัติจาก กกอ. ดังนั้น จึงถือว่าดำเนินการไม่ถูกต้องตามขั้นตอน ต้องถูกปรับเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการควบคุมฯ ก็จะเสนอให้ปรับเงินมหาวิทยาลัยต่อไป

            2.กรณีการบริหารงานของเอแบคโพล  จากการตรวจสอบ ไม่พบการทุจริตของอธิการบดี แต่เป็นการบกพร่องในเรื่องการปฎิบัติหน้าที่ คือ การอนุมัติงบประมาณให้สำนักวิจัยเอแบคโพล ดำเนินการแล้ว ไม่มีระบบการติดตาม ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณที่ชัดเจน เป็นเรื่องความไว้วางใจที่มอบให้แก่ผู้อำนวยการเอแบบโพล มีอิสระ วินิจฉัยและปล่อยมือในการบริหารมากเกินไป ต้องการให้มีออกระเบียบกฎเกณฑ์ที่รัดกุมในการบริหารงาน  ทั้งนี้ ในเรื่องของการจ่ายเงินให้แก่นักข่าวนั้น จากการตรวจสอบย้อนหลังไป 5 ปี ประมาณ 4.4 ล้านบาท พบว่า มีการจ่ายเงินให้นักข่าวจริง โดยมีการจ่ายให้เป็นรายเดือน 1-2 คน ซึ่งเป็น กระบวนการทำงานขององค์กร ซึ่งหากไม่หลอกตัวเอง หลายองค์กรก็ทำเพื่อให้มีข่าวออกสู่สาธารณะ เป็นค่าตอบแทนสื่อ หรือให้ในกรณีอำนวยความสะดวกในการทำข่าว เช่น เป็นค่าเดินทาง ค่าสินน้ำใจ แต่เป็นปัญหาในเรื่องจรรยาบรรณ เห็นว่าต่อไปไม่ควรมีการจ่ายเงินให้นักข่าวอีก อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ผอ.เอแบคโพล ได้มีขอขมาและลาออกไปแล้ว  และ 3.กรณีการจัดทำงบการเงินและทรัพย์สิน ซึ่งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่พบการทุจริตเช่นกัน

“คณะกรรมการควบคุมฯ ได้สรุปผลการสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการกลางทั้ง 3 ชุด ต่อรมว.ศึกษาธิการแล้ว  โดยถือว่าไม่มีการทุจริต ส่วนการปฎิบัติงานบกพร่องนั้น พระให้อภัย อย่างไรก็ตาม หลังจากให้ข้อเสนอแนะต่างๆ ไปแล้ว สภามหาวิทยาลัยชุดใหม่ก็จะต้องไปพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนจะให้ภราดาบัญชา กลับมาดำรงตำแหน่งอธิการบดีหรือไม่นั้น ก็เป็นการพิจารณาของสภามหาวิทยาลัย แต่โดยส่วนตัวคิดว่าภราดาบัญชา ไม่อยากกลับมาเป็นอธิการบดีแล้ว”ดร.ธนู กล่าว

 นอกจากนั้น การพิจารณาปรับปรุง กฎระเบียบข้อบังคับต่างๆของมหาวิทยาลัยให้มีประสิทธิ์มากขึ้นขณะนี้ได้มีการแก้ไขร่าง โดยเพิ่มเติม 4 ข้อบังคับสำคัญ ซึ่งจากเดิมไม่ได้กำหนดไว้ ดังนี้  1.การได้มาซึ่งนายกสภาฯ 2. การได้มาและสิ้นสุดสภาพของกรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิ 3.การได้มาซึ่งอธิการบดี โดยกำหนดคุณสมบัติชัดเจนว่าผู้ที่จะมาเป็นอธิการบดีควรเป็นนักบวช หรือต้องเป็นผู้ที่ซาบซึ้งและเห็นด้วยกับเจตนารมณ์มูลนิธิเซนต์คาเบรียล โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี แต่ไม่กำหนดว่าเป็นต่อได้กี่วาระ หากเป็นคนนอก ต้องผ่านกระบวนการกลั่นกรองอย่างดี และ4.ข้อบังคับว่าด้วยการประชุมสภามหาวิทยาลัย