
สคช.-18 สถาบันนำร่องประเมินคุณวุฒิวิชาชีพ 7 สาขา
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมมือสถาอุดมศึกษา-อาชีวะ 18 แห่ง นำร่องประเมินสมรรถนะเพื่อรับรองคุณวุซิใน 7 สาขา เริ่มประเมินสิ้นเทอม 2 ปีการศึกษา 2559
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค กรุงเทพฯ นายวีระชัย ศรีขจร ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) กล่าวในพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาศักยภาพสมรรถนะของนัก ศึกษาเพื่อการก้าวเข้าสู่โลกของการทำงาน ตอนหนึ่งว่า จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อนุมัติให้ สคช.ดำเนินการประเมินสมรรถนะบุคคลให้มีคุณภาพวิชาชีพ (Competitive Workforce) ให้ได้ 310,000 คน ภายในปีระยะเวลา 5 ปี (ปี 2559-2563) สคช.จึงได้ร่วมกับสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษา ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จำนวน 18 แห่ง ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.), มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.), มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.)ล้านนา, มทร.ธัญบุรี, ม.ศรีปทุม, ม.สยาม, ม.แม่ฟ้าหลวง, มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย, วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (สยามเทค), วิทยาลัยดุสิตธานี, สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์, วิทยาลัยเทคนิค (วท.)อุบลราชธานี,วท.สัตหีบ,วท.มีนบุรี, วิทยาลัยอาชีวศึกษา (วอศ.)เชียงราย, วอศ.สงขลา, วอศ.ภูเก็ต, และ วอศ.เชียงใหม่ ดำเนินการประเมินสมรรถนะของนักเรียน และนักศึกษา ตามมาตรฐานอาชีพเพื่อให้ได้รับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพและหนังสือรับรองมาตรฐานอาชีพ
ผอ.สคช.กล่าวต่อว่า เบื้องต้นจะนำร่องประเมินสมรรถนะ 7 สาขา ได้แก่ 1. สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและดิจิตอลคอนเทนต์ 2.สาขาโลจิสติกส์ 3.สาขาแมคคาทรอนิกส์ 4.สาขารถไฟความเร็วสูงและระบบราง 5.สาขาบริการยานยนต์ 6.สาขาการบิน และ 7.สาขาการท่องเที่ยว การโรงแรม ภัตตาคาร และร้านอาหาร โดยตั้งเป้าว่าสิ้นสุดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จะมีนักเรียน และนักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาและสถานศึกษาอาชีวศึกษา จากทั้ง 18 แห่งเข้าสู่กระบวนการประเมินสมรรถนะเพื่อรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ ทั้ง 7 สาขาไม่น้อยกว่าระดับละ 50% และในปีการศึกษา 2560 จะมีผู้เข้ารับการประเมินสมรรถนะ 100%
“ปัจจุบัน สคช.ได้ดำเนินการพัฒนามาตรฐานอาชีพได้แล้ว 40 สาขาจาก 72 สาขาและมีองค์กรที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยประเมินสมรรถนะและรับรองคุณวุฒิ ประมาณ 90 แห่ง ที่ผ่านมามีคนทำงานมาเข้ารับการประเมินสมรรถนะเพื่อรับรองคุณวุฒิแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ สคช.ต้องการให้นักเรียน นักศึกษาได้เข้ามาสู่กระบวนการดังกล่าวนี้ด้วย เพราะฉะนั้น การจับมือร่วมกับสถานศึกษาครั้งนี้ จะการเป็นอีกหนึ่งนำมาตรฐานสมรรถนะปรับเข้าสู่กระบวนการเรียนการสอน ร่วมกันพัฒนาและส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาระบบคุณวุฒิวิชาชีพของประเทศไทย อีกทั้ง ยังเป็นการเตรียมพร้อมใน การก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ด้วย”ผอ.สคช.กล่าว



