ไลฟ์สไตล์

เจ๊าะแจ๊ะวิทยาศาสตร์-ดอกกระเจียวน่ารู้

เจ๊าะแจ๊ะวิทยาศาสตร์-ดอกกระเจียวน่ารู้

10 ส.ค. 2552

"พี่ขวัญ" น้องใหม่มารายงานตัวจร้า ไม่ลืมพกพาเรื่องดีๆ มาฝากกัน เมื่อไม่นานมานี้ มีโอกาสได้แวะเวียนไปจ.ชัยภูมิ แน่นอนว่าไม่พลาดเก็บเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาฝากน้องๆ ด้วย ร่วมเรียนรู้เรื่องราวเจ้าดอกกระเจียวไปพร้อมๆ

กันเลยดีกว่า ดอกกระเจียว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า : Cercuma alismatifolia Gagnep  ชื่อไทย : กระเจียว, ปทุมมา, บัวสวรรค์   ชื่อสามัญ : Siam Tulip, Patumma ลักษณะดอกสีชมพูอมม่วง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด มีหัวอยู่ใต้ขึ้นได้ดีในสภาพดินร่วนระบายน้ำ จะผลิดอกบานสวยช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมของทุกปี ด้วยชุ่มฉ่ำสายฝนเรียกได้ว่าเป็นหน้าของดอกกระเจียวก็ว่าได้

 "กระเจียว" ไม่เพียงแต่สวย ชาวบ้านในท้องถิ่นจ.ชัยภูมินิยมเก็บ “ดอกกระเจียว” ที่ขึ้นมากในหัวไร่ปลายนา ทั้ง สีขาวชมพู เหลือง และแดง มาลวกจิ้มกับน้ำพริกปลาร้า ป่นปลาทู บางบ้านก็ใส่ดอกกระเจียวในแกงส้ม หรือจะกิน ดอกสด ก็ได้ หรือไม่ก็นำมานึ่งรวมกับปลาเพื่อดับกลิ่นคาว ที่สำคัญควรล้างดอกกระจียวก่อนนำมาปรุงหรือกินทุกครั้ง เพราะชั้นในของ กลีบดอก สะสมซ่อนดินไว้เป็นอย่างดี ต้องดึงเอากลีบนอกและดอกบานเต็มที่ออกก่อน เพราะเหนียวไม่อร่อย 

 หน่อกระเจียว ก็เช่นกัน ต้องลอกเอากาบด้านนอกออกด้วยถึงครบสูตรความพร้อมลงหม้อประกอบอาหาร หากสังเกตให้ดีจะเห็นความต่างระหว่างดอกและต้นของกระเจียวพื้นบ้านจะเล็กเตี้ยกว่าดอกกระเจียว (พันธุ์บัวสวรรค์) พันธุ์นี้กินไม่ได้นะจ๊ะ แต่ว่าสีสันของดอกชมพูสดออกปนม่วงนิดๆ รวมถึงกิ่ง ก้าน ใบ ดูกลมกลืนเข้าด้วยกันไปเสียหมดเลย ยิ่งอยู่ร่วมเป็นทุ่งด้วยแล้วสวยอย่าบอกใครเชียว

 ต้นกระเจียวหนึ่งต้น กินได้ตั้งแต่หัวใต้ดิน รสชาติมันเฟื่อนเล็กน้อย ยอดอ่อนหวานมัน ส่วนอร่อยสุดเห็นจะเป็นดอกที่กำลังดอกตูม แม้มีหลายสีสันแต่ความอร่อยไม่ต่างกันเลย แถมบำรุงสุขภาพ ด้วยกระเจียวมีเส้นใยสูง รสเผ็ดร้อนของกระเจียวจึงมี สรรพคุณทางยาช่วยขับลม และเป็นยาระบายได้ดี แก้ท้องอืดเฟ้อ แก้มดลูกอักเสบสำหรับสตรีหลังคลอด ได้อีกต่างหาก สนนราคาผักกระเจียว ตามตลาดชานเมืองขายกันในช่วงต้นฤดูฝนกำละไม่ถึง 5 บาท ถูกมากและคุณภาพดีกินได้ทั้งครอบครัวเชียวนะน้องๆ แต่ต้องรีบๆ หน่อยแล้วล่ะ ใกล้หมดช่วงดอกกระเจียวแล้วสิ กลับมาพบกับเกร็ดความรู้บำรุงสมองได้ใหม่ในฉบับหน้า