ไลฟ์สไตล์

กินไหม?นมแมลงสาป แหล่งอาหารชั้นดี

กินไหม?นมแมลงสาป แหล่งอาหารชั้นดี

01 ส.ค. 2559

กลุ่มนักวิทยาศาสตร์นานาชาติกำลังศึกษาผลึกโปรตีนของแมลงสาปที่ใช้ป้อนลูกน้อย เพื่อหาว่าจะใช้เป็นอาหารทดแทนในยามโลกขาดแคลนพื้นที่เพาะปลูกได้หรือไม่

  ในกลุ่มสัตว์รบกวนน่ารังเกียจของมนุษย์นั้นคงมีชื่อของ “แมลงสาป” ติดเป็นอันดับต้นๆอย่างแน่นอน แต่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์นานาชาติกลับมองข้ามความชังของแมลงชนิดนี้ไป และ กำลังศึกษาวิธีการสร้างโปรตีนธรรมชาติความเข้มข้นสูงจากแมลงสาป เพื่อใช้เป็นแหล่งอาหารให้กับมนุษยชาติรุ่นใหม่ในอนาคต

 นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ ประกอบไปด้วยหัวกะทิจากสถาบันชีวิวทยาเซลล์ต้นกำเนิดและเวชศาสตร์กำเนิดใหม่ (อินสเต็ม) สถาบันศาสตร์แห่งการประยุกต์ระดับก้าวหน้า สถาบันสุขภาพ ในสหรัฐอเมริกา ศูนย์วิจัยโครงสร้างชีววิทยา องค์การวิจัยพลังงานการเร่ง ในญี่ปุ่น ศูนย์แพลทฟอร์มเซลล์ และ โมเลกุล (ซี-แคมพ์) ในอินเดีย คณะเซลล์และระบบชีววิทยา มหาวิทยาลัยโตรอนโต ในแคนาดา มหาวิทยาลัยไอโอวา ในสหรัฐอเมริกา และ แผนกทดลอง แห่งศุนย์ซิงโครตรอน โซลเอล ในฝรั่งเศส ร่วมทำโครงการวิจัยในการหาแหล่งอาหารความเข้มข้นสูงให้กับมนุษย์

กินไหม?นมแมลงสาป แหล่งอาหารชั้นดี

  จุดเริ่มต้นของงานวิจัยมาจากการสังเกตพฤติกรรมของแมลงสาปวิวิปาเราส์ (ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Diploptera punctata) ที่ให้กำเนิดลูกเป็นตัว แทนที่จะวางไข่เช่นเดียวกับแมลงสาปสายพันธุ์อื่น ซึ่งภายในตัวของแมลงสาปตัวแม่จะมีผลึกโปรตีนหน้าตาคล้ายก้อนนมเป็นแหล่งพลังงานให้กับลูกน้อย

  นักวิจัยพบว่าผลึกโปรตีนนี้มีพลังงานสูงมาก เมื่อเทียบกับพลังงานในปริมาณเดียวกันกับนมควายแล้ว นมแมลงสาปจะมีพลังงานมากกว่ากันถึง 3 เท่า ทั้งยังอธิบายลักษณะของแหล่งพลังงานแมลงสาปนี้ว่าเป็นรูปทรงคล้ายผลึก ประกอบไปด้วยสารอาหารแทบทุกชนิิดตั้งแต่โปรตีน ไขมัน และ น้ำตาล และเมื่อเจาะลึกลงไปยังส่วนของโปรตีนแล้วจะเห็นด้วยว่ามีสารสกัดกรดอะมิโนเป็นจำนวนมาก

  ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อโปรตีนที่บรรจุอยู่ภายในผลึกนี้ถูกย่อยออกไปหมดแล้ว ตัวผลึกเองก็จะปล่อยโปรตีนออกมาในปริมาณเดียวกันกับที่บรรจุอยู่ภายในตัวมันเอง เปรียบได้กับแหล่งอาหารที่มีการตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้า
กินไหม?นมแมลงสาป แหล่งอาหารชั้นดี

  ดังนั้นนักวิจัยจึงพยายามสร้างผลึกโปรตีนที่มีสายของโปรตีนในลักษณะเดียวกันกับแมลงสาปวิวิปาเราส์ขึ้นมาโดยอาศัยยีสท์ ในการสังเคราะห์ และต่อยอดเป็นการผลิตในเชิงปริมาณ ซึ่งถ้าทำได้สำเร็จก็จะเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเลิศของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆต่อไป

  แต่การทำให้นมแมลงสาป กลายเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่คนทั่วไปยอมรับนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ดูเหมือนจะเป็นงานเข็นครกขึ้นยอดเขาหิมาลัยของบรรดานักการตลาด และ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เพราะว่าการลบภาพของหนวดยึกๆยือๆ กับแมลงกลิ่นเหม็นๆที่คลานยั๊วเยี๊ยะอยู่ตามกองขยะไปจากจิตใจ และปรับเปลี่ยนทัศนคติให้คนเหล่านั้นหันมาบริโภคอาหารที่มีความเกี่ยวข้องกับแมลงสาป นั้นเป็นงาน “หิน” กว่าการวิจัยผลิตโปรตีนจากผลึกนมแมลงสาปหลายร้อยเท่า