ไลฟ์สไตล์

ปลูกฝ้าย-คามผลิตผ้าสีธรรมชาติ
ย้อนยุคหัตถกรรมริ่มฝั่งแม่โขง

ปลูกฝ้าย-คามผลิตผ้าสีธรรมชาติ ย้อนยุคหัตถกรรมริ่มฝั่งแม่โขง

08 ส.ค. 2552

ในยามภาวะเศรษฐกิจกำลังวิกฤตือย่างปัจจุบัน ทำให้มีผู้หันมากอบอาชีพโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ เพื่อประคองกิจกรรมให้อยู่ได้ อย่างกลุ่มแม่บ้านคันพะลาน ต.นาตาล อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่แนวตะเข็บชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขง

  ไพมณี มานะกิจ ประธานกลุ่มทอผ้าจุบคามวัย 51 ปี บอกว่า ในหมู่บ้านคันพะลานถือเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง เป็นชาวอีสานพันธุ์แท้ ซึ่งเดิมทีใช้ชีวิตที่เรียบง่ายมีอาชีพทำไร่ ทำนา แต่แทบทุกบ้านมีฝีมือในการทอผ้ามาใช้เองในลักษณะที่ต่างคนต่างทำ ส่งผลให้ ไพมณี หลังเดือนธันวาคมของทุกปีซึ่งเป็นฤดูหลังเก็บเกี่ยวข้าวในนา บรรดาแม่บ้านทั้งหลายต่างก็ไม่มีงานทำ คงเป็นหน้าที่ของบรรดาพ่อบ้านทั้งหลายออกไปรับจ้างทำงานจุนเจือครัวเรือน

 ตรงนี้เองที่ไพมณีมองว่า น่าจะให้แม่บ้านเหล่านี้หาอาชีพเสริม จึงคิดได้ว่าในหมู่บ้านมีหัตถกรรมพื้นบ้านอีสานอย่างหนึ่งที่พอจะนำมาประกอบอาชีพมาสู้กับวิกฤติเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันได้ นั่นคือการทอผ้าฝ้ายซึ่งเป็นหัตถกรรมที่มาจากบรรพบุรุษ แต่เพื่อให้ต้นทุนต่ำควรนำผ้าฝ้ายที่ย้อมด้วยพืชธรรมชาติจากต้นคาม ตัดทำเป็นเสื้อม่อฮ่อมจุบคาม (คำว่าจุบ ภาษาอีสานแปลว่าย้อม) ที่หน่วยงานและตลอดทั้งองค์กรต่างๆ เริ่มให้ความสนใจกันมากขึ้น ในขณะที่ผ้าย้อมด้วยคามกำลังจะถูกลืมเลือนไปแล้ว
 
 หลังจากนั้นได้รวบรวมแม่บ้านได้ 20 คนตั้งกลุ่มขึ้นมาในปี 2545 พร้อมพากันปลูกฝ้ายปลูกคามกันตามริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งจะปลูกฝ้ายได้ในฤดูกาลที่น้ำโขงเริ่มลดลงเท่านั้น คือช่วงเดือนตุลาคม แล้วจะเก็บฝ้ายประมาณเดือนกุมภาพันธ์ (4 เดือน) ส่วนต้นคามจะเริ่มหว่านเมล็ดพันธุ์ในเดือนพฤษภาคม เพียง 3 เดือนก็ตัดต้นคามมาแช่ได้แล้ว
 
 เพียง 7 ปีผ่านไป ไพมะณี บอกว่า ผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายที่ย้อมด้วยคาม ปรากฏว่า ตลาดรองรับเป็นอย่างดี มีหลายหน่วยงานและหลายองค์กรที่สั่งจองกัน และอีกจำนวนไม่น้อยที่เดินทางรับซื้อด้วยตัวเอง เพราะปัจจุบันราคาผ้าจะอยู่ที่เมตรละ 70 บาท หากตัดเป็นเสื้อผ้าแล้ว เสื้อแขนยาวขายตัวละ 250 บาท แขนสั้นตัวละ 220 บาท ขณะเดียวกันกลุ่มยังรับจ้างย้อมเสื้อผ้าด้วยคามอีกด้วย

 "ถ้าเราใช้สีจากท้องตลาดที่เป็นเคมีราคาจะสูง หากราคาถูกสีจะตก แต่สีคามเราปลูกเองย้อมแล้วคงทน สีไม่ตก ราคาไม่แพง เรารับจ้างย้อมสีในราคาเป็นกันเองตั้งแต่เพียงชุดละ 150 บาท ทั้งนี้แล้วแต่ขนาดความน้อยใหญ่ของเสื้อผ้าด้วย ถ้ามีผู้ที่สนใจอยากได้คามไปย้อมเอง เราก็มีคามขายให้เช่นกัน ในกิโลกรัมละ 40 บาท ทุกวันนี้สมาชิกในกลุ่มสร้างรายได้จากการทอผ้า หรือย้อมผ้าด้วยคามเป็นเงินที่ไม่น้อยนะ ทำให้ครอบของเราเป็นอยู่ดีขึ้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความขยันของแต่ละคนด้วย" ไพมณี กล่าว   

 อย่างไรก็ตาม ประธานกลุ่มทอผ้าจุบคาม ยอมรับว่า สภาพปัจจุบันเป็นการรวมทุนของชาวบ้านด้วยกันเอง ทำให้ติดขัดในด้านเงินหมุนที่จะขยายงาน กลุ่มอยากจะได้เงินสักก้อนหนึ่งจากหน่วยงานของภาครัฐเพื่อจะนำมาบริหารเกี่ยวกับด้านวัสดุ อุปกรณ์ เพราะที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอในการดำเนินการ ขณะที่ตลาดเริ่มมากขึ้น ฝ้ายที่ผลิตกันเองยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในการผลิตผ้าเพื่อท้องตลาด ตลอดทั้งเครื่องไม้เครื่องมือในการทอยังต้องผลัดเปลี่ยนกันทำ

 จึงขอความเมตตาจากหน่วยงานของรัฐช่วยเหลือกลุ่ม ซึ่งพวกเขาพร้อมที่จะกู้ยืมแล้วส่งคืนให้ตามกำหนดเวลา เนื่องจากหากมีทุนพอเพียงแล้ว เชื่อว่าที่บ้านคันพะลานต้องเป็นแหล่งเรียนรู้หัตถกรรมพื้นบ้านอีสานอย่างถาวรและครบวงจร จะส่งผลทำให้บรรดาสมาชิกในกลุ่มมีรายได้เสริมเข้ามาจุนเจือในครัวเรือนอย่างเพียงพอแน่นอน

 นับเป็นกลุ่มอีกกลุ่มหนึ่งที่สามารถรวมตัวพัฒนาอาชีพเพื่อสร้างรายได้เสริม ซึ่งกำลังจะเป็นรายได้หลักในอนาคตอันใกล้นี้ หากมีหน่วยใดหน่วยงานหนึ่งยื่นมือมาช่วยเหลือ


ง่ายกับการย้อมผ้าด้วยคาม
  การผลิตผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติจากคามที่ทำมาตั้งแต่บรรพบุรุษของชาวบ้านคันพะลาน เริ่มหลังจากที่เก็บดอกฝ้ายมาแล้ว จากนั้นนำมาทำให้เป็นเส้น โดยมีขั้นตอนคือ ขั้นแรกก็จะนำดอกฝ้ายมาอิ้ว เพื่อแยกเมล็ดออกแล้วตีฝ้ายให้แตกกระจุยด้วยสายคันธนู นำตากแดดให้แห้ง นำมาเข็นหรือปั่นด้วยเครื่องปั่นฝ้าย (ภาษาอีสานเรียกว่าหลา) ทำเป็นมัดๆ หรือกระจุก

 นำน้ำคามที่ต้มใส่โอ่ง จากนั้นนำฝ้ายที่ทำเป็นมัดๆ หรือกระจุกแช่ลงน้ำคามที่เตรียมไว้แล้วในโอ่งมังกร ใช้มือนวดหรือขยำให้เข้ากันประมาณ 15 นาที แล้วมาผึ่งแดด เมื่อแห้งแล้วก็จะนำเข้าสู่การทอผ้าด้วยเครื่องทอผ้า ก่อนจะเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติจากคาม 

 ผ้าที่ย้อมสีธรรมชาติจากคามที่ว่านี้จะคงทนไม่ตกสี ซึ่งสมัยก่อนบรรพบุรุษของชาวคันพะลานมักนิยมใส่เสื้อผ้าทำงานหนัก ด้วยผ้าฝ้ายย้อมคามกันทั้งนั้น โดยเฉพาะใส่ในการทำนา หรือเกี่ยวข้าว เพราะเป็นสีที่มีความคงทนต่อแดดและฝนได้ดีมากนั่นเอง

"กฤษณะ วิลามาศ "