
ท่องไปในแดนธรรม - วัดบรมวงศ์ฯ วัดแห่งราชสกุล...มาลากุล
06 ก.พ. 2552
วัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เดิมเป็นวัดราษฎร์ มีนามว่า วัดทะเลหญ้า เพราะตั้งอยู่กลางทุ่งหญ้า พอถึงฤดูน้ำหลากน้ำก็ท่วมตลอดบริเวณวัดทั้งปี และคำว่าทะเลหญ้านี้ สันนิษฐานว่า อาจมาจากคำว่า ทำเลหญ้า ก็ได้
เป็นวัดที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี แต่ได้แปรสภาพเป็นวัดร้างมาเป็นเวลานาน สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ ทรงเห็นว่า วัดร้างแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่บริเวณเงียบสงัด สมควรเป็นที่อยู่จำพรรษาของพระภิกษุสงฆ์ และสามเณร จึงได้เริ่มบูรณปฏิสังขรณ์วัดทะเลหญ้า ในสมัยรัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มาเสร็จสิ้นสมบูรณ์เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๑๘ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ และได้ถวายเป็นพระอารามหลวง โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า วัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ ทรงเป็นพระโอรสใน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี เริ่มแรกเข้ารับราชการในกรมวัง ในรัชกาลที่ ๓ ครั้นถึงรัชกาลที่ ๔ พระราชทานนามว่า เจ้าฟ้ามหามาลา และทรงสถาปนาเป็น กรมหมื่นปราบปรปักษ์ ต่อมาทรงเลื่อนกรมขึ้นเป็น กรมขุนบำราบปรปักษ์ โปรดเกล้าฯ ให้ว่าการกรมวังกรมพระคชบาล และกรมสังฆการีธรรมการ
ในรัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯ เลื่อนกรมขึ้นเป็น กรมพระบำราบปรปักษ์ ครั้นถึงปีพุทธศักราช ๒๔๒๘ ได้โปรดเกล้าฯ เลื่อนกรมขึ้นสูงสุดเป็น สมเด็จกรมพระยา
เมื่อมีการประชุมพระราชวงศานุวงศ์ และข้าราชการผู้ใหญ่ พร้อมกันสมมุตให้เป็นผู้สำเร็จราชการในพระราชสำนัก และว่าการพระคลังทั้งปวง
ต่อมา ได้ทรงว่าการกระทรวงมหาดไทย อีกกระทรวงหนึ่ง ทรงสิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๕ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๒๙ พระชนมพรรษา ๖๗ ปี พระองค์ท่านทรงเป็นต้นสกุล "มาลากุล"
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงมีพระราชศรัทธา และทรงสนพระราชหฤทัยด้วยเป็นอย่างมาก ได้ทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ สมทบการก่อสร้างเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังทรงสร้างกุฏิถวายสงฆ์เป็นส่วนของพระองค์ด้วยหลังหนึ่ง เมื่อถึงเทศกาลกฐิน ก็ได้เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคจากกรุงเทพฯ ไปถวายผ้าพระกฐิน เป็นพิธีหลวง
ต่อมาเมื่อถึงคราวงานพิธีฝังลูกนิมิต และสมโภชพระอาราม ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานประกอบพระราชพิธี
ส่วนมูลเหตุที่ว่า สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์ ทรงสร้างวัดบรมวงศ์ฯ ขึ้นนี้ โดยที่พระองค์ท่านได้ทรงศึกษาคชกรรมศาสตร์จาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงเทพยพลภักดิ์ (พระนามเดิม พระองค์เจ้าอภัยทัต) พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้ทรงเป็นพระหมอเฒ่า และพระอาจารย์ต้นตำรับศิลปะศาสตร์เรื่องช้าง ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ และได้ทรงว่า กรมพระคชบาล ในรัชกาลที่ ๒ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๓ เมื่อ พ.ศ.๒๓๘๐
มีคำกล่าวว่า สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์ ทรงสร้างวัดทะเลหญ้าขึ้นเสร็จแล้ว ได้ทรงตั้งนามวัดนี้ใหม่ว่า วัดติณวัลย์ หรือ วัดติณวัน
ต่อมา เมื่อถวายให้เป็นพระอารามหลวง จึงได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่ว่า วัดบรมวงศ์อิศรวราราม แต่ไม่พบหลักฐานการเปลี่ยนชื่อวัดทะเลหญ้าเป็นวัด วัดติณวัลย์ หรือ วัดติณวัน เป็นรูปคำบาลี ก่อนหน้าได้พระราชทานนาม
อย่างไรก็ตาม การที่สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์ ทรงสถาปนาวัดทะเลหญ้าขึ้นเป็นวัดบรมวงศ์อิศรวราราม มิใช่เพียงแต่เป็นการบูรณปฏิสังขรณ์เท่านั้น แต่ได้ทรงสร้างวัดขึ้นใหม่ในวัดเก่าที่ร้างทั้งหมดอย่างครบถ้วนบริบูรณ์
พร้อมด้วย พระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ พระสถูปเจดีย์ กุฏิ เสนาสนะสงฆ์ และถาวรวัตถุอื่นๆ อย่างประณีตถาวร ก่ออิฐโบกปูน ปูพื้นด้วยหินอ่อน ประกอบด้วยลวดลายศิลปะ เป็นรูปพระมหามาลา และภาพจิตกรรมต่างๆ อย่างงดงาม นับว่าเป็นวัดที่งดงามวัดหนึ่งในสมัยนั้น
ขณะเดียวกัน วัดตั้งอยู่กลางทุ่งใกล้ฝั่งแม่น้ำ จึงเพิ่มความงดงามเด่นขึ้นผู้ที่สัญจรทั้งทางน้ำทางบกจะสามารถมองเห็นความสง่างามของวัดน้ำแต่ไกล
กุฏิ เสนาสนะสงฆ์ และถาวรวัตถุ ที่ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์ ที่ทรงสร้างไว้ เช่น พระอุโบสถถาวรก่ออิฐถือปูน พระวิหารตรีมุข พระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ศาลาการเปรียญ กำแพงแก้วชั้นใน กำแพงแก้วชั้นนอก กุฏิแบบสถาปัตยกรรมไทย
พระเทพวรเวที (วิน) ฉายา โฆสิโต เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดบรมวงศ์ฯ บอกว่า นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ที่ภายหลังต่อมา ถาวรวัตถุและปูชนียสถานที่เคยงดงามในอดีต ต้องประสบกับความเสื่อมโทรม และบางอย่างก็พังทลายหมดสภาพไป
เพื่อเป็นการบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะต่างๆ และกุฏิวัดบรมวงศ์ฯ ทางวัดจึงได้จัดสร้าง กำไล รวย เพิ่ม พูน ประกอบพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ณ พระอุโบสถวัดบรมวงศ์ฯ โดยได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ดังแห่งเมืองกรุงเก่า อาทิ หลวงพ่อรวย วัดตะโก, หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว, หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน, หลวงปู่ทิม วัดพระขาว และ หลวงปู่สวัสดิ์ วัดศาลาปูน นั่งอธิษฐานจิตปลุกเสก กำไล รวย เพิ่ม พูน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่ครอบครอง ในช่วงที่เศรษฐกิจย่ำแย่ ขณะนี้วัตถุมงคลเหลือน้อยแล้ว ติดต่อขอบูชาได้ที่ วัดบรมวงศ์ฯโทร.๐-๓๕๓๒-๘๕๕๐, ๐๘-๑๙๒๖-๓๘๖๔
เรื่อง / ภาพ... "ไตรเทพ ไกรงู"