ไลฟ์สไตล์

จากเด็กร้อยพวงมาลัยสู่เถ้าแก่
 ชีวิตที่ลงตัวของ "อาคม ศิริเวช"

จากเด็กร้อยพวงมาลัยสู่เถ้าแก่ ชีวิตที่ลงตัวของ "อาคม ศิริเวช"

06 ส.ค. 2552

แม้คนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้ แต่หากมีความพยายามและตั้งใจจะประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเอง คนเราสามารถเลือกเดินทางได้ อย่าง "อาคม ศิริเดช" หนุ่มวัย 29 ปี เกิดมาจากครอบครัวชาวนาในชนบท ที่บ้านท่าค้อ ต.ท่าไห อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี แต่พอเดินทางเข้าสู่เมืองกรุง ใช้

 อาคม เล่าว่า ใช้ชีวิตในชนบทมาตั้งแต่เกิด โดยคุณยายเป็นผู้เลี้ยงดู ส่วนพ่อกับแม่ทนอยู่กับสภาพความแห้งแล้งในทุ่งนาไม่ได้ จึงต้องอพยพเข้ากรุงเทพฯ ปักหลักขายส้มตำ ไก่ย่างย่านสุขุมวิทซอย 6 เขตคลองเตย ตั้งแต่ อาคม มีอายุเพียง 8 ขวบ โดยให้คุณยายเป็นคนเลี้ยงมาตลอด กระทั่งอาคมเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มีความตั้งใจจะเรียนระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เพราะจะได้ทำงานหาเงินส่งตัวเองได้

   "ผมเกิดในครอบครัวชาวนา เมื่อครั้งอยู่กับคุณยายต้องช่วยคุณยายทำนาด้วย พอมาอยู่กรุงเทพฯ ใหม่ๆ เรียนรามฯ ปี 1 ผมช่วยคุณแม่ขายส้มตำ กระทั่งมีพี่คนหนึ่งที่เรียนรามฯ ด้วยกันรับงานจัดดอกไม้ตามงานต่างๆ ชวนไปจัดดอกไม้ด้วยกันให้เป็นรายวัน วันละ 500 บาท เห็นว่าเงินดี แต่งานจะมีเป็นช่วงๆ เท่านั้น เริ่มต้นจากเด็ดใบเสีย ตัดกิ่ง แต่งกิ่ง กระทั่งร้อยพวงมาลัย พอทำได้ราว 1 ปี ตอนนั้นเรียนปีที่ 2 แล้ว รุ่นพี่เห็นว่าผมมีความตั้งใจ จึงสอนวิธีจัดดอกไม้ให้" อาคม กล่าว

 เวลาผ่านไป อาคม เริ่มมีความชำนาญในการจัดดอกไม้ จึงไปสมัครงานที่ร้านขายดอกไม้ย่านห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ รามคำแหง จนมั่นใจในฝีมือ จึงรวมกับเพื่อนลงทุน 5 หมื่นบาท ไปเซ้งร้านในตลาดกลางแฮปปี้แลนด์ เปิดร้านรับจ้างจัดดอกไม้และขายดอกไม้ในปี 2544 ทำได้ไม่นาน เขาต้องไปเกณฑ์ทหารอีก 2 ปี โดยให้เพื่อนดูแลร้านแทน ส่วนเขาจะมาช่วยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ จนครบ 2 ปี ปลดเป็นทหารกองเกิน จึงมาพัฒนาร้านอีกครั้ง พร้อมกันนั้นได้เช่าตึกแถว 2 ชั้น ย่านใกล้เคียงกัน เปิดเป็นสาขาที่ 2 โดยใช้พื้นที่ด้านในของตึกเปิดเป็นโรงเรียนสอนทำดอกไม้ 12 แบบ คิดค่าเล่าเรียนคนละ 6,000 บาท ปีนี้เปิดสอนมาเป็นปีที่ 2 แล้ว

 ในแต่ละวัน อาคม บอกว่า รายได้จากการขายดอกไม้ทั้ง 2 สาขา หากเป็นวันปกติจะขายได้ประมาณวันละ 5,000 บาท ถ้าเป็นช่วงเทศกาล อาทิ ช่วงรับปริญญา วันแห่งความรัก จะเพิ่มเป็นเท่าตัว นอกจากนี้ยังรับงานภายนอกอีกด้วย ส่วนรายได้จากการสอนนักเรียนเฉลี่ยแล้วตกอยู่เดือนละ 10 คน รายได้ราว 5 หมื่นบาท หักค่าใช้จ่ายแล้ว เขาบอกว่าสามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างสบาย ขณะนี้เงินที่ได้จากกิจการจัดและจำหน่ายดอกไม้ส่วนหนึ่งไปสร้างบ้านที่บ้านเกิดแล้ว 1 หลัง

 กระนั้น อาคม บอกว่า แม้จะมีรายได้ค่อนข้างดี แต่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ การใช้เงินจะต้องรอบคอบด้วย

"ดลมนัส กาเจ"