ไลฟ์สไตล์

มหาเจดีย์มุนีภิรมย์วัดไทรน้อยปณิธานบุญใหญ่พระครูไพบูลย์อาทร

มหาเจดีย์มุนีภิรมย์วัดไทรน้อยปณิธานบุญใหญ่พระครูไพบูลย์อาทร

21 มิ.ย. 2559

มหาเจดีย์มุนีภิรมย์วัดไทรน้อยปณิธานบุญใหญ่'พระครูไพบูลย์อาทร' : เรื่อง ไตรเทพ ไกรงู ภาพ กฤชนันท์ ธรรมไชย

            วัดไทรน้อย ตั้งอยู่เลขที่ ๔๐ หมู่ ๑ ถนนสายบางกรวย-ไทรน้อย ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ติดคลองพระพิมล โดยเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๐ กลุ่มมอญจากมหาชัยบ้านบางกระเจ้า บ้านไร่ และบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เข้ามาหักร้างถางป่า ซึ่งแต่เดิมเป็นชายป่ากระทุ่มมืดติดต่อกับป่าหนองเพรางาย เพื่อทำนา พระราชาภิมณฑ์ดำเนินการขุดคลองพระราชาพิมลจากคลองบางบัวทองมาทางทิศตะวันตก จนถึงป่ากระทุ่มมืดใกล้รางกระทุ่ม จึงมีคนมอญมาจับจองที่ดินริมคลองพระราชาพิมลมากขึ้น จนเป็นชุมชนเล็กๆ

            พ.ศ.๒๔๓๗ คนมอญเหล่านี้สร้างวัดในชุมชนขึ้นชื่อ วัดสาลีมุนีภิรมย์ หมายถึง บริเวณที่ตั้งวัดเป็นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณธัญญาหารโดยเฉพาะข้าว และเป็นที่พำนักอันรื่นรมย์ของผู้ทรงศีล ซึ่ง มะธุ หรือตาธุ ได้บริจาคที่ดินจำนวน ๔๒ ไร่ ๒ งาน ใช้เป็นที่สร้างวัด ชาวบ้านได้ช่วยตัดต้นไม้ใหญ่ที่มีในพื้นที่มาเลื่อยทำเสา ทำกระดานและไม้สำหรับใช้สร้างที่พักสงฆ์

            การสร้างวัดมีการพัฒนาตามลำดับ ภายในอุโบสถมีพระประธานประจำอุโบสถ ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๕๙ นิ้ว สูง ๗๒ นิ้ว ตั้งชื่อวัดตามหมู่บ้านว่า วัดไทรน้อย มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม สอนนักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ปัจจุบันมีพระครูไพบูลย์อาทร หรือ หลวงพ่อแพะ เป็นเจ้าอาวาส

            พระครูไพบูลย์อาทรกิจ บอกว่า หลวงพ่อประสิทธิ์ สิทธิกาโร หรือ ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อวัดไทรน้อย อดีตเจ้าอาวาส เป็นพระเกจิที่มีชื่อดังด้านตะกรุดโทน ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันทั่วไป จนสร้างวัด สร้างโรงเรียน วัดไทรน้อยได้สวยงาม พ.ศ.๒๕๐๐ ได้สร้างหอปริยัติธรรม ศาลาการเปรียญ กุฏิ และพ.ศ.๒๕๒๒ อุโบสถชำรุด จึงสั่งรื้อแล้วได้สร้างอุโบสถหลังใหม่โดยใช้เวลาสร้างประมาณ ๕ ปี เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๗ จึงได้จัดงานฝังลูกนิมิต ได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ มาทรงเป็นประธานในพิธีตัดลูกนิมิตอุโบสถหลังใหม่

            ส่วนโครงที่กำลังดำเนินการอยู่ คือ สร้างมหาเจดีย์มุนีภิรมย์ เพื่อฉลองพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งเพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม มีขนาดกว้าง ๔๐.๕๐ เมตร ยาว ๔๐.๕๐ เมตร ความสูง ๔๙ เมตร มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงนครปฐม ทั้งนี้ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๕ โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร่วมวางศิลาฤกษ์ งบประมาณการก่อสร้างประมาณ ๔๙ ล้านบาท ขณะนี้ดำเนินการก่อสร้างกำลังแล้วเสร็จประมาณ ๘๐% นอกจากนี้ยังมีโครงการหล่อประพุทธรูปประจำวันเกิด เพื่อประดิษฐานไว้ในพระมหาเจดีย์มุนีภิรมย์ ในวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๙ จำนวน ๘ องค์

            “มหาเจดีย์มุนีภิรมย์เมื่อสร้างแล้วเสร็จจะอัญเชิญพระสารีริกธาตุ ที่ได้รับประทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มาประดิษฐาน นอกจากจะเป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวทางจิตใจพุทธศาสนิกชนใน จ.นนทบุรี และจังหวัดใกล้เคียงแล้ว ยังจะใช้เป็นศูนย์อบรมและปฏิบัติธรรมสำหรับประชาชนทั่วไป” พระครูไพบูลย์อาทรกิจ กล่าว

            เนื่องจากการก่อสร้างพระมหาเจดีย์มุนีภิรมย์ต้องใช้ปัจจัยในการก่อสร้างเป็นจำนวนมาก วัดไทรน้อยจึงขอบอกบุญถึงผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ร่วมบุญร่วมกุศลใหญ่ในการกุศลครั้งนี้ ผู้ที่ร่วมกุศลสร้างมหาเจดีย์มุนีภิรมย์จะได้รับตะกรุดโทนกลางปลุกเสกเดี่ยว โดยหลวงพ่อประสิทธิ์ ตลอดไตรมาส ระหว่าง พ.ศ.๒๕๔๗-๒๕๕๐ และบรรจุลงกรุใน พ.ศ.๒๕๕๐ จนถึงปัจจุบัน ได้เปิดให้บูชาเพื่อนำเงินสมทบทุนสร้างมหาเจดีย์มุนีภิรมย์ สอบถามรายละเอียด โทร.๐-๒๙๒๓-๙๕๙๔ และ ๐๘-๖๕๐๔-๙๗๕๐

 
พระครูไพบูลย์อาทรเป็นพระนักเผยแผ่
 
            พระที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างวัดแรกเริ่ม คือ หลวงตาโจ๊ก พระมอญ ดำเนินการก่อสร้างจนเป็นวัด มีพระสงฆ์มาอยู่จำพรรษาที่วัดสร้างใหม่แห่งนี้ หลวงตาโจ๊กอยู่จำพรรษาที่วัดนี้และช่วยเหลือในการก่อสร้างเสนาสนะ สิ่งก่อสร้างภายในวัดอยู่นาน เวลาต่อมาชาวบ้านนิมนต์พระอาจารย์เกร็บ พระมอญจากวัดปรมัยยิกาวาส ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัด ต่อมาชาวบ้านวัดบึงลาดสวาย นิมนต์พระอาจารย์เกร็บไปเป็นเจ้าอาวาสวัดบึงลาดสวาย อ.บางเลน จ.นครปฐม

            พ.ศ.๒๔๙๕ เปลี่ยนชื่อวัดจากวัดสาลีมุนีภิรมย์ เป็นวัดไทรน้อย สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย พ.ศ.๒๔๙๙ พระอธิการเผื่อน เจ้าอาวาสวัดไทรน้อยรูปแรกในขณะนั้นมรณภาพ จึงได้นิมนต์ให้พระครูนนทสิทธิการ หรือหลวงพ่อประสิทธิ์ สิทธิกาโร มาเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ ๒ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๔๙๙ พร้อมทั้งบูรณปฏิสังขรณ์วัดไทรน้อย เมื่อออกพรรษาในปีเดียวกัน จึงฝังลูกนิมิตอุโบสถหลังเก่า ในปี พ.ศ.๒๕๕๕ หลวงพ่อประสิทธิ์มรณภาพ จึงได้แต่งตั้งพระครูไพบูลย์อาทรกิจ

            พระครูไพบูลย์อาทรเป็นพระนักเผยแผ่และพระนักพัฒนาศูนย์ ทั้งนี้ท่านได้จัดโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนมากว่า ๒๐ ปีแล้ว จัดให้นักเรียนมาสวดมนต์ทุกๆ วันศุกร์ รวมทั้งสอนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดไทรน้อย เปิดสอนครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๐ มีคณะกรรมการบริหาร ประกอบด้วย ๑.ผู้อำนวยการ พระครูไพบูลย์อาทรกิจ เจ้าอาวาสวัดไทรน้อย ๒.รองผู้อำนวยการ ผอ.สุเทพ วิมลจริยาบูลย์ ๓.เลขานุการ พระสมศักดิ์ สุจิตฺโต และ ๔.ผู้ช่วยเลขานุการ ครูอรพิน นวลคำ


ตำนานแห่ง“ตะกรุด”อ.ไทรน้อย

            พระครูนนทสิทธิการ หรือ หลวงพ่อประสิทธิ์ เป็นพระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังทาง “ตะกรุด” มาตั้งแต่บวชเรียนใหม่ๆ ที่ใช้ได้ผลทางแคล้วคลาดปลอดภัย มีทั้งตะกรุดโทนเดี่ยว ตะกรุดโทนคู่ ตะกรุดโทน ๒ ชั้นดอกเล็กและดอกใหญ่ ตะกรุดหนังเสือดอกเล็กและดอกใหญ่ ตะกรุดทองแดง ตะกรุดไม้ไผ่ตัน ตะกรุดทองแดง ลงรักปิดทองดอกยาวและดอกสั้น ทั้งหมดนี้ตะกรุดดอกเล็กหรือดอกใหญ่จะมีความแตกต่างกันที่ยันต์ และตะกรุดเหล่านี้หากเขียนอักขระเรียบร้อยแล้วม้วนได้เลยโดยไม่ต้องปลุกเสก

            ในการสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อประสิทธิ์ได้ให้ข้อคิดไว้ว่า “ที่ญาติโยมส่วนใหญ่หันมาพึ่งไสยศาสตร์กันมากก็เพราะว่าโลกเราถึงคราววิบัติ ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ถูกปล้น หรือถูกลอบวางระเบิด ยิ่งสงครามด้วยแล้วทุกคนจะต้องหาเครื่องรางไว้ติดตัวป้องกันอันตรายต่างๆ นั่นเอง หลักการนำเครื่องราง หรือวัตถุมงคลไปใช้ มีอยู่เพียงหลักการเดียวต้องเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ไม่ไปต้มตุ๋นหลอกลวงใคร เป็นคนมีศีลมีธรรมก็ใช้ได้แล้วและที่สำคัญอย่าไปด่าพ่อล้อแม่เขา หรือกินเหล้าเมาทำตัวเกเรอันธพาล หากทำตัวไม่ดี ความขลังก็จะกลายเป็นความเสื่อมได้ทันที”

            ทั้งนี้ มีเรื่องเล่าว่า หลวงพ่อประสิทธิ์ทำตะกรุดครั้งแรกในอุโบสถ แต่ด้วยเป็นคนกลัวผีจึงได้ชวนพระอีกรูปหนึ่งไปเป็นเพื่อนกันด้วย ขณะที่พระเพื่อนบอกว่า หากทำเสร็จแล้วต้องให้ตะกรุด ๑ ดอก เป็นของตอบแทน จำได้ว่ากว่าจะทำตะกรุดเสร็จต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง จนกระทั่งเวลาประมาณตี ๓ อาตมาก็ทำตะกรุดเสร็จ จึงแบ่งให้เพื่อนไป ๑ ดอก ตามสัญญา ต่อมาพระเพื่อนรูปนี้ได้ลาสิกขาออกไป และได้กลายเป็นนักเลง เที่ยวขโมยของสารพัด ถูกชาวบ้านยิงบ้างถูกฟันบ้างก็ไม่เป็นอะไร เพื่อนจึงมั่นใจว่าที่แคล้วคลาดปลอดภัยมาได้นี้ต้องมาจากตะกรุดดอกนี้ ประสบการณ์นี้จึงเป็นที่กล่าวขวัญว่า ตะกรุดของอาตมาสามารถป้องกันภัยอันตรายได้ ทำให้ญาติโยมที่รู้ข่าวต่างเดินทางมาขอตะกรุดกันไม่ขาดสาย

            สำหรับการสร้างพระเครื่องนั้น หลวงพ่อประสิทธิ์สร้างเหรียญรุ่นแรกผูกพัทธสีมา ปี ๒๕๐๐ เป็นเหรียญพระอธิการเผื่อน อดีตเจ้าอาวาสวัดไทรน้อยรูปแรก แต่ถ้าเป็นตัวอาตมาเอง เป็นปี ๒๕๐๘ รุ่นฉลองตราตั้งพระอุปัชฌาย์ เจ้าอาวาสวัดไทรน้อย โดยล่าสุดพระครูไพบูลย์อาทรสร้างเหรียญและพระผงเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ผู้ร่วมบุญสร้างมหาเจดีย์มุนีภิรมย์