
'ปฏิบัติธรรม'รักษาโรคเวรโรคกรรมกับพ่อท่านเกียรติ
'ปฏิบัติธรรม'รักษาโรคเวรโรคกรรมณ บ้านปฏิบัติธรรมสวรรค์บนดิน กับ พ่อท่านเกียรติ วาจาสิทธิ์ : เรื่องไตรเทพ ไกรงู ภาพ กฤชนันท์ ธรรมไชย
พระพุทธเจ้าทรงนิยาม “ความมีสุขภาพดี” (อัปปาพาธตา หรือ อโยคยะ) ไว้ในทีฆนิกาย ปาฏิกวรรคว่า “มีความเจ็บป่วยน้อย มีโรคน้อย มีระบบย่อยอาหารดี มีอุณหภูมิไม่เย็นนัก ไม่ร้อนนัก พอกลางๆ”
พระพุทธองค์ทรงเห็นว่าความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ และเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการปฏิบัติธรรม ดังความในพระธรรมบท พระคาถาที่ ๒๐๔ ว่า “ความไม่มีโรคเป็นลาภอย่างยิ่ง” (อาโรคฺยาปรมา ลาภา)
ทั้งนี้มีคติความเชื่อในหมู่ชาวพุทธตั้งสมัยโบราณถึงปัจจุบันว่า “โรคบางอย่างเกิดจากกรรมเก่าที่เราเคยได้ทำไว้” ซึ่งกรรมไม่ดีที่เราเคยทำไว้กำลังส่งผล ทำให้เราเป็นทุกข์ เป็นโรคต่างๆ ตลอดทั้งนายเวรยังจองเวร ไม่ยอมอโหสิกรรม เราจึงต้องอุทิศผลบุญให้แก่นายเวรและเชื้อโรคทั้งหลายเพื่อให้เขาได้รับผลบุญแล้วเลิกจองเวรและอโหสิกรรมให้เรา ตลอดทั้งอุทิศผลบุญให้แก่เทวดาประจำตัวที่คอยดูแลช่วยเหลือและคุ้มครองเรา รวมทั้งเทวดาที่รักษาโรคให้เราด้วย ดังพุทธสุภาษิตที่ว่า “กรรมในปัจจุบันเป็นผลมาจากการกระทำในอดีตและกรรมที่ก่อไว้ในปัจจุบันเป็นเหตุที่จะส่งผลสืบเนื่องต่อไปยังอนาคต”
สำหรับความพยายามในการรักษาโรคบางอย่างเกิดจากกรรมเก่านั้นมีหลายวิธี แต่มีวิธีหนึ่งที่เป็นที่นิยมรวมทั้งเป็นที่ยอมรับว่าสามารถรักษาได้จริง คือ รักษาโรคเวรโรคกรรมด้วยปฏิบัติธรรม อย่างกรณีของ อ.เกียรติ สุธรรมรัตนกูล หรือ “พ่อท่านเกียรติ วาจาสิทธิ์” เข้าของ “บ้านปฏิบัติธรรมสวรรค์บนดิน” เปิดบ้านเป็นสถานปฏิบัติธรรมมาเป็นเวลากว่า ๑๒ ปีแล้ว
อ.เกียรติ บอกว่า เห็นแล้วเชื่อหรือไม่เชื่อทันที คือ ขาดปัญญา ต้องพิจารณาพิสูจน์ด้วยการศึกษาและปฏิบัติ ความเชื่อเป็นเรื่องนานาจิตตัง โดยเฉพาะเรื่องโรคที่เกิดจากกรรมอธิบายให้คนที่ไม่เชื่อให้เข้าใจและยอมรับนั้นเป็นเรื่องยาก ใครที่มาเพื่อให้รักษาโรคที่เกิดจากกรรมนั้น ก่อนอื่นต้องเชื่อก่อนว่าโรคที่เกิดจากกรรมในอดีตชาติและชาติปัจจุบันนั้นมีอยู่จริง เมื่อมีความเชื่อแล้วจึงจะช่วยได้ เมื่อช่วยหายคนก็จะชอบ จากนั้นก็จะชวนคนมาให้ช่วยต่อๆ ไป
โรคที่เกิดจากกรรมนั้น หากมองกันแต่ในสาเหตุปัจจุบันด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ก็พอ จะมองเห็นกันได้ชัดเจนตามความรู้ความสามารถของแพทย์สมัยใหม่ แต่อย่างไรก็ตามโรคธรรมดาๆ เหล่านี้หลายโรคกลายเป็นโรคที่ต้องเจ็บป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยต้องทนทุกข์ทรมานมากรักษาอย่างไรก็ไม่หาย ซึ่งการแพทย์ก็วินิจฉัยไม่ได้มีอยู่หลายโรค เช่น โรคที่เกิดจากการทำกรรมกับพ่อแม่ ผู้มีพระคุณ บุคคลเหล่านี้จะเป็นโรคร้ายแรงที่รักษาไม่หาย
“เคล็ดวิธีการรักษาโรคเวรโรคกรรมนี้เป็นเคล็ดวิธีโบราณที่ได้รับการถ่ายทอดมาและได้ช่วยคนเป็นจำนวนมากให้คลายทุกข์ ที่สำคัญที่สุดก็คือ คนที่เป็นโรคนั้นต้องเป็นผู้มีบุญและรู้จักการสร้างบุญบารมีที่ถูกต้องและต้องอุทิศบุญนั้นไปให้เจ้ากรรมนายเวรทุกครั้ง และอย่าสร้างกรรมชั่วใหม่มาทับซ้อนกรรมเก่าอีก กรรมแก้ได้ถ้ารู้จริงและรู้วิถี แต่ที่สุดแล้วต้องยกผลบุญให้เจ้ากรรมนายเวรให้อโหสิกรรม” อ.เกียรติ กล่าว
“บ้านปฏิบัติธรรมสวรรค์บนดิน” ตั้งอยู่บ้านเลขที่ ๓๘๕ พัฒนาการ ๖๑ หมู่บ้านเมืองทอง ๒/๒ ซอย ๒๓ ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ โดยเปิดบ้านให้มีการปฏิบัติธรรมเมตตาธรรมปัญญา ทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ ที่สองของทุกๆ เดือน และมีการสวดมนต์ไหว้พระ บรรยายธรรมทุกๆ วันอาทิตย์เวลา ๑๓.๐๐-๑๘.๐๐ น. โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ในการมาปฏิบัติธรรมที่บ้านสวรรค์บนดิน มีคติความเชื่อในหมู่ลูกศิษย์ และผู้ปฏิบัติธรรมว่า “สามารถรักษาโรคที่ทางการแพทย์รักษาไม่ได้ หรือที่เรียกว่า โรคที่เกิดจากกรรม ให้ทำเลา เบาบาง แลหายขาดได้ในที่สุด” สำหรับผู้สนใจปฏิบัติ เข้าดูรายละเอียดได้ที่ “www.sawanbondin.exteen.com”
โรคที่เกิดจากรรมในพระไตรปิฎก
ในพระไตรปิฎก กล่าวถึงโรคที่เกิดจากกรรมไว้หลายครา ยกตัวอย่างในบุคคลสมัยพุทธกาลผู้หนึ่งที่ชื่อ พระนางโรหิณี ซึ่งเป็นน้องสาวของพระอนุรุธะเถระในหนึ่งเอตทัคคะสาวกของพระพุทธเจ้า ผู้เป็นเอกในด้านการมีทิพยจักษุ พระนางโรหิณี ทรงป่วยเป็นโรคผิวหนังอย่างรุนแรง รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ต้องอยู่ด้วยความอับอายจนไม่อาจจะออกมาพบกับผู้ใดได้เลย
เมื่อพระอนุรุทธะเถระมาถึงเมืองกบิลพัสดุ์เพื่อมาโปรดพระญาติ พวกพระญาติต่างก็มาชุมนุมกัน เพื่อต้อนรับ เว้นแต่พระนางโรหิณี เพียงคนเดียวพระอนุรุทธะจึงถามหาน้องสาว ก็ทราบความว่าพระนางเป็นโรคผิวหนังขั้นรุนแรงรักษาไม่ได้
พระอนุรุทธะเถระเป็นผู้มีทิพยจักษุเป็นเลิศ มองเห็นกรรมในอดีตของพระน้องนาง จึงให้ไปเชิญพระนางออกมาแล้วทรงแนะนำให้ทำบุญโดยให้ขายเครื่องประดับต่างๆ เท่าที่มีอยู่ แล้วนำทรัพย์มาสร้างศาลาโรงฉัน โดยขอแรงพระญาติที่เป็นชายให้ช่วยกันสร้างโรงฉันให้เรียบร้อย
พระนางโรหิณีทรงเชื่อและปฏิบัติตาม เมื่อสร้างโรงฉัน ๒ ชั้นเสร็จแล้วก็ทรงปัดกวาดเอง ทรงตั้งน้ำใช้น้ำฉันสำหรับพระภิกษุสงฆ์เอง ถวายทานด้วยน้ำสะอาดและอาหารอันประณีตแก่ภิกษุสงฆ์เป็นประจำทุกวัน นอกจากนี้ยังทรงรักษาศีลอุโบสถอย่างเคร่งครัด ทำให้โรคผิวหนังของพระนางค่อยๆ หายไปทีละน้อยจนผิวเกลี้ยงเกลาในที่สุด
การที่พระนางโรหิณีต้องป่วยเป็นโรคนี้เป็นโรคที่เกิดแต่กรรม ต้องเอาบุญมาช่วยรักษา ลดอิทธิพลแห่งกรรมจนไม่มีอานุภาพในการให้ผลอีกต่อไปเหมือนคนกินยาเข้าไปปราบเชื้อโรคได้สำเร็จสร้างความประหลาดใจและความตื่นตะลึงในเดชอานุภาพในการสร้างบุญบารมีครั้งนี้มากมาย
ปฏิบัติและเข้าถึงธรรมด้วยตัวเอง
กิจกรรมและโครงการของบ้านสวรรค์บนดิน เช่น จัดให้มีการปฏิบัติธรรม-ปัญญา เพื่อการศึกษาให้รู้แจ้งเห็นจริงในธรรมชาติแห่งปัญญา โดยการพิสูจน์ด้วยตัวเอง จัดให้มีการประชุม อบรมธรรม บรรยายธรรม สนทนาธรรม และมองต่างมุม ตอบปัญหาธรรมเป็นประจำทุกเดือน ชี้แนะการปฏิบัติธรรม ตามคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า
โดยเน้นเรื่องการสร้างทานบารมีด้วยจิตเมตตา จัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ สาธารณกุศล เช่น แจกอาหารสิ่งของ เครื่องใช้แก่คนชรา เด็กอ่อน เด็กพิการ ผู้ยากไร้ตามสถานสงเคราะห์คนชรา สถานศึกษาในชนบทจัดกิจกรรมตามประเพณีทางพุทธศาสนา รวมทั้งศึกษาค้นคว้าเรื่องพลังงานพิเศษ การปฏิบัติดี-ปฏิบัติชอบ เพื่อลดละกรรมให้แก่ตนเอง
ทั้งนี้ อ.เกียรติ ได้ตั้งกฎไว้ง่ายๆ คือ ไม่เน้นปริมาณหรือจำนวนลูกศิษย์ แต่จะเน้นคุณภาพเป็นหลัก ในระหว่างการศึกษาธรรมไม่ควรพูดคุยกัน ระหว่างบรรยายธรรมไม่สูบบุหรี่ในสถานธรรม ผู้ปฏิบัติธรรมควรแต่งกายด้วยชุดขาว เสื้อผ้าที่สวมใส่ไม่ควรโปร่งบางมีลายฉลุ หรือลูกไม้ ไม่ควรสวมกางเกงยืด ที่สำคัญคือ วันมาปฏิบัติธรรมไม่ควรแต่งหน้าทาปาก หรือสิ่งอื่นใดที่เป็นโลกีวิสัย ส่วนการปฏิบัตินั้นจะเน้นเรื่อง “การลด ละ และเลิกทำกรรมชั่ว ทั้งหลายทั้งปวง” รวมทั้งเน้นเรื่อง “อริยสัจ ๔ ยึดหลักในความเป็นจริง โดยสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง”
“อิทธิฤทธิ์แพ้บุญ บุญฤทธิ์แพ้กรรม เพราะไม่มีใครใหญ่เกินกรรม ผู้ใดทำบาปไว้แล้ว ละได้ด้วยการทำความดี คนหนึ่งรู้อีกคนหนึ่งไม่รู้ใช่ว่าสิ่งนั้นไม่มี คนหนึ่งทำได้อีกคนหนึ่งทำไม่ได้ใช่ว่าสิ่งนั้นเป็นไปไม่ได้ กรรมต่างๆ นั้นสามารถแก้ได้ถ้ารู้จริง กรรมต่างนั้นๆ แก้ได้ถ้ารู้วิธี พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า กรรมนั้นแก้ได้ด้วยการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และยกความดีความชอบทั้งหมดนั้นให้เป็นอโหสิกรรม” อ.เกียรติ กล่าว