
10เหตุผลที่'สวนสุนันทา'ไม่ควรออกนอกระบบ
10เหตุผลที่'สวนสุนันทา'ไม่ควรออกนอกระบบ : อาจารย์ประพจน์ ณ บางช้าง มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา(มร.สส.) ก่อตั้งมาจนเกือบจะครบ 80 ปีแล้ว มหาวิทยาลัยของเราเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านวิกฤติการณ์ทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองมาหลายยุคหลายสมัย แต่เราก็ยังเป็นสถาบันการศึกษาที่ได้รับการยอมรับจากสังคม ดังผลตอบรับที่มีจำนวนนักศึกษาสมัครเข้าเรียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บัณฑิตที่จบการศึกษาออกไปต่างรักและภูมิใจที่ได้เป็น “ลูกพระนาง” ศึกษาอยู่ในรั้วกำแพงแดงแห่งนี้ เราพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาจนได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏอันดับ 1 และอยู่ในอันดับที่ 17 ของประเทศในปัจจุบัน ผมขอชื่นชมท่านอธิการบดีและคณะผู้บริหาร รวมทั้งบุคลากรของมหาวิทยาลัยทุกท่านที่ได้ช่วยนำพา “มร.สส.” ของเรามาถึงจุดนี้
แต่สถานการณ์ตอนนี้ เป็นช่วงที่พวกเราทุกคนต้องคิด ต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ ว่าสวนสุนันทาควรจะเปลี่ยนสถานภาพจากมหาวิทยาลัยของรัฐ(ม.รัฐ) ไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ(ม.นอกระบบ)ดีหรือไม่ และน่ายินดีที่ท่านอธิการบดีมีนโยบายเปิดโอกาสให้พวกเราได้เลือกอนาคตของพวกเราและมหาวิทยาลัยด้วยตนเอง ตรงนี้ผมขอขอบคุณท่านอธิการบดีอีกครั้ง ที่มิได้ตั้งธงว่า สวนสุนันทาต้องออกไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับเท่านั้น โดยท่านได้ย้ำอย่างหนักแน่นในทุกๆ เวทีว่า ขอให้เป็นการตัดสินใจของประชาคมในการเลือกอนาคต ท่านเพียงช่วยสร้าง "บ้านที่มิอาจจะเยี่ยมเยือน”
ผมในฐานะของตัวแทนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยต่อการนำ “สวนสุนันทา” เปลี่ยนสถานภาพไปเป็น ม.นอกระบบ ด้วยเหตุผล 10 ประการดังนี้ 1.สวนสุนันทาเป็นม.รัฐที่เป็นที่พึ่งของชนชั้นกลาง ไปจนถึงชนชั้นรากหญ้า เราไม่ควรเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตักศิลาไปเป็นธุรกิจการศึกษา เพียงแค่ข้ออ้างเรื่องความคล่องตัวในการบริหารจัดการ ถ้าทุกมหาวิทยาลัยมุ่งเน้นแต่ผลกำไร เราจะลดโอกาสของคนรายได้น้อยลงไปเรื่อยๆ
2.ความสามารถทางการแข่งขันเรื่องหารายได้ของสวนสุนันทา ยังไม่พร้อมเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ ที่ออกนอกระบบไปก่อนหน้านี้ อาทิ ม.มหิดล, ม.ธรรมศาสตร์, ม.เกษตรศาสตร์ โดยเฉพาะจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เฉพาะงบประมาณแผ่นดินมากกว่าสวนสุนันทาเกือบ 10 เท่า แถมยังมีแหล่งรายได้จาก ค่าเช่าสถานที่ ทั้งสยามสแควร์ มาบุญครอง สามย่าน ซึ่งเป็นย่านธุรกิจชั้นนำของประเทศ แต่สวนสุนันทานอกจากค่าเทอมและค่าธรรมเนียม เรามีโรงแรมแก้วเจ้าจอม เบเกอรี่ น้ำดื่ม โรงอาหาร ร้านค้า จะสู้กับมหาวิทยาลัยอื่นได้อย่างไร
3.ความพร้อมในเรื่องคุณภาพการจัดการศึกษา สวนสุนันทาแม้ว่ามีนักศึกษาจำนวนมาก แต่ก็เป็นเด็กหัวปานกลาง เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ เราต้องเอาใจใส่มากกว่าเด็กหัวดี เราต้องใช้เวลาในการพัฒนาเด็กเพื่อให้เขาจบออกไปและแข่งขันกับนักศึกษาที่หัวดีจากสถาบันชั้นนำ ถ้าเราต้องให้บุคลากรทางการศึกษาเน้นหารายได้ เวลาที่จะใส่ใจพัฒนาเด็กๆ ก็จะน้อยลงเรื่อยๆ
4.ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ที่ผู้บริหารทั้งสองชุดเสนอแนวคิดนำสวนสุนันทาออกนอกระบบ ไม่เคยมีการนำเสนอแผนการจัดหารายได้เลี้ยงตนเองในอนาคตเลย มุ่งมั่นจะเอาออกไว้ก่อน แล้วค่อยไปตายเอาดาบหน้า อย่าลืมนะครับว่า ในอนาคตไม่สามารถหารายได้ได้เพียงพอ ก็จะนำมาซึ่งปัญหาต่างๆ ทั้ง เพิ่มค่าเทอม ค่าธรรมเนียม เมื่อนักศึกษาลดลงเพราะค่าเล่าเรียนแพง ก็ต้องลดจำนวนบุคลากร บุคลากรที่มีอยู่ก็ต้องทำงานมากขึ้นแทนคนที่ถูกออกไป เมื่องานโหลดเยอะ คนเก่งๆ ก็จะลาออกไป ถึงเวลานั้นสวนสุนันทาจะเดินไปอย่างไร เราจึงควรวางแผนอนาคตอย่างรอบคอบ ผ่านการเห็นชอบจากประชาคมก่อนจะดีหรือไม่
5.การผลักดัน ม.ออกนอกระบบ ที่ผ่านมามุ่งเน้นแต่จัดทำกฎหมายแม่คือตัวพระราชบัญญัติ แต่ความสำคัญจริงๆ อยู่ที่กฎหมายลูก ที่บุคลากรจะใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจว่าชีวิตจะเปลี่ยนไปอย่างไร กลับไม่มีการพูดถึงการเตรียมการหรือนำเสนอให้ประชาคมรับรู้ การสร้างกฎหมายต้องคำนึงถึงวัฒนธรรมองค์กรของสวนสุนันทา ไม่ใช่เอาง่ายไว้ก่อน ไปก็อบปี้กฎหมายของมหาวิทยาลัยอื่นมาใช้ เพียงเพราะอยากให้ผ่านเร็วๆ สิ่งนี้จึงมองไม่เห็นความพร้อมในเรื่องการเตรียมการใดๆ เลย
6.ทุกครั้งที่มีการจัดเสวนา เพื่อให้ความรู้และประชาสัมพันธ์การนำ ม.ออกนอกระบบ คณะทำงานจะเชิญวิทยากรมาให้ความรู้ด้านบวกเพียงด้านเดียวทุกครั้ง เหรียญมีสองด้านเสมอครับ การที่จะให้ประชาคมตัดสินใจอะไรควรให้ข้อมูลอย่างรอบด้านเป็นธรรม มิใช่มุ่งเน้นโฆษณาชวนเชื่อ
7.ก่อนเปลี่ยนสถานภาพควรทบทวนว่ามีอะไรบ้างที่ไม่ดีในสวนสุนันทา มีอะไรบ้างที่เป็นปัญหา มีอะไรบ้างที่สถานภาพในปัจจุบันแก้ไขไม่ได้ และที่เป็นอยู่เราพัฒนามหาวิทยาลัยให้เจริญก้าวหน้าต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ หรือ ปัจจุบันอันดับของเราเพิ่มขึ้น เงินเดือนเพิ่มขึ้น คนเพิ่มขึ้น นักศึกษาเพิ่มขึ้น เงินคงคลังเพิ่มขึ้น รายได้เข้ามหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้น เรามีศูนย์ให้การศึกษาเพิ่มขึ้น
8.ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบไปแล้ว 20 แห่ง แต่ยังไม่มีข้อพิสูจน์อะไรเลยว่ามหาวิทยาลัยเหล่านั้น มีการเรียนการสอนที่มีคุณภาพมากขึ้นกว่าก่อนออกนอกระบบ เราเคยได้ยินมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบไปแรกๆ สร้างชื่อเสียงโดดเด่นกว่ามหาวิทยาลัยของรัฐในเรื่องใดบ้าง มีนักศึกษาที่น่าจะจบการศึกษามาเกือบ 20 รุ่น สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติโดดเด่นด้านใดบ้าง บอกตรงๆ ครับผมยังไม่เห็นความโดดเด่นที่แตกต่างในคุณภาพทางการศึกษา
9.การออกนอกระบบ ทำลายระบบคุณธรรม มุ่งเน้นประสิทธิภาพในการหารายได้จนนำมาซึ่งการกำจัดคนที่มีประสิทธิภาพน้อย หรือคนที่ไม่ใช่พวกของตนเอง โดยอาศัยสัญญาจ้างเป็นอาวุธ บุคลากรหลายคนอายุมาก เงินเดือนสูง แต่ความสามารถด้านเทคโนโลยีหรือภาษามีน้อย และพัฒนายาก ก็จะค่อยๆ ถูกกำจัดออกไป ทั้งๆ ที่บุคลากรเหล่านั้นอาจจะเป็นครูที่ทุ่มเทเอาใจใส่ลูกศิษย์ สาขาวิชาที่มีคนเรียนน้อยก็จะถูกปิดเพราะไม่สร้างผลกำไร บุคลากรสาขาวิชาเหล่านั้นก็อาจถูกเลิกจ้าง
10.สวนสุนันทา ควรเลือกเป็นมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นสร้างคนเพื่อออกไปพัฒนาชาติ มากกว่าสร้างรายได้ให้สวนสุนันทามั่งคั่ง สร้างคน ที่เก่งและดี แม้ไม่มีกำไรเป็นเงินทอง แต่สร้างความภาคภูมิ และเกียรติยศแก่สวนสุนันทา
จากเหตุผล 10 ประการ ผมไม่ได้คัดค้านการออกนอกระบบอย่าง “หัวชนฝา” ถ้าวันข้างหน้า “สวนสุนันทา” ต้องเปลี่ยนสถานภาพ ก็อยากให้เปลี่ยนอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีการวางแผนอย่างครอบคลุมทุกด้าน ศึกษาทั้งข้อดีข้อเสียอย่างน้อย 10 ปี จากมหาวิทยาลัยนอกระบบอย่างจริงจัง ว่าประสบความสำเร็จด้านคุณภาพการศึกษาหรือไม่ ถ้าเรามีข้อมูลที่พร้อม จัดเตรียมทุกอย่างพร้อม ประชาคมพร้อม เราก็จะได้ปรับเปลี่ยนสถานภาพอย่างมั่นคงและแข็งแรง สามารถยืนหยัดในสังคมไทยได้อย่างภาคภูมิ