
'เสื้อแส่ว' ผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม มรดกภูมิปัญญาแห่งบ้านทุ่งไชย
27 พ.ค. 2559
ทำมาหากิน : 'เสื้อแส่ว' ผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม มรดกภูมิปัญญาแห่งบ้านทุ่งไชย : โดย...สุรัตน์ อัตตะ
“เสื้อแส่ว” บ้านทุ่งไชยคือหนึ่งในผลิตภัณฑ์เด่นของ จ.ศรีสะเกษ ที่เป็นมรดกทางภูมิปัญญาได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษนับร้อยปี ปัจจุบันมีการรวมกลุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์มีหลากสีหลากสไตล์สอดรับกับสมัยนิยม ภายใต้กลุ่มผลิตเสื้อแส่วบ้านทุ่งไชย ต.ทุ่งไชย อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ โดยมี “อรพิน ศรีบาง” รั้งตำแหน่งประธานกลุ่มคนปัจจุบัน
อรพิน บอกว่า คำว่า “แส่ว” มาจากภาษากุยหรือส่วยดั้งเดิมของบ้านทุ่งไชยแปลว่าการสอยหรือถักลาย แต่ไม่มีใครให้ความชัดเจนว่าใครเป็นผู้ริเริ่มผลิตเสื้อแส่วเป็นครั้แรก แต่มีการสันนิษฐานว่าน่าจะเรียกเสื้อนี้เป็นเสื้อแส่วหรือแส่วเสื้อ เพราะต้องผ่านกระบวนการที่มีภูมิปัญญาชาวบ้านคือการตัดจากผ้าไหมหรือผ้าฝ้ายที่ชาวบ้านทอขึ้นเอง โดยนิยมทอเป็นลายลูกแก้ว ซึ่งมีทั้งลายเล็กและลายใหญ่หรือภาษาถิ่นบ้านทุ่งไชยเรียกว่าผ้าเหยียบ เมื่อทอได้ตามที่ต้องการแล้วก็จะนำผ้ามาตัดรูปเสื้อแขนยาวตามขนาดที่ต้องการแล้วเย็บด้วยมือ ส่วนสีที่ใช้ก็จะเป็นสีดำจากการย้อมมะเกลือเท่านั้น
“พอย้อมจนดำสนิทเป็นที่พอใจจากนั้นก็นำมาคลุกดินโคลนแล้วล้างออกให้สะอาด นำเสื้อไปนึ่งด้วยไอน้ำและอบสมุนไพรประเภทเครื่องหอมก็จะทำให้เสื้อหนาและนิ่ม ดำสนิทมันวาวมีกลิ่นหอมของสมนุไพรที่เป็นเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนสามารถสัมผัสถึงความแตกต่างกับเสื้อที่ย้อมด้วยสีเคมีอย่างชัดเจน”
ประธานกลุ่มอธิบายต่อว่า หลังจากผ่านกระบวนการย้อมสีแล้วก็จะนำไปแส่วหรือถักลวดลายตามที่ต้องการด้วยเส้นด้ายที่เตรียมไว้ ซึ่งเป็นไหมที่ผ่านการควั่นมาแล้ว 2-3 เส้น โดยจะถักเพื่อต่อแขนและขึ้นลายที่คอและสาบทั้งสองข้างตามด้วยชายด้านล่างของเสื้อ ซึ่งแต่เดิมเน้นลวดลายไขว้ แต่ปัจจุบันจะเป็นลวดลายดอกไม้และลายอื่นตามที่ผู้แส่วจะคิดสร้างสรรค์หรือตามที่ลูกค้าต้องการแล้วเย็บด้ายปล่อยไว้เป็นการผูกแทนกระดุม ซึ่งแต่เดิมจะนิยมมัดเงินก้อนเป็นกระดุมทำให้สามารถแสดงฐานะคนสวมใส่ได้เป็นอย่างดี
สำหรับการพัฒนานวัตกรรมการผลิตในการย้อมสีมะเกลือให้ดำติดทนนาน ติดดำเร็วกว่าเดิมนั้น เริ่มจากขั้นตอนตำมะเกลือโดยเพิ่มปริมาณผงถ่าน จากนั้นนำแป้งข้าวเหนียวผสมน้ำ ระบายลงผ้าไหมเพื่อกันสีไม่ให้เข้าไปในเนื้อผ้าก็จะกลายเป็นผ้าบาติกจากลายลูกแก้วที่สวยงามเพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ต่อไป
"จุดเด่นของผลิตภัณฑ์คือนอกจากจะได้ผ้าไหมลายลูกแก้วสำหรับตัดเป็นเสื้อแส่วเพียงอย่างเดียวแล้ว เราจะได้ผ้ามัดย้อมหรือผ้าบาติกผสมมะเกลือ โดยการย้อมจะใช้เวลาน้อยลงจาก 20 ครั้งเหลือเพียง 2 ครั้งเท่านั้นแต่คุณภาพยังเท่าเดิม จากนั้นก็นำผลิตภัณฑ์ไปใช้ประโยชน์แปรรูปเป็นเสื้อแส่ว กระเป๋าแฟชั่น ผ้าสไบ ผ้าคลุมไหล่และอีกมากมาย” อรพินอธิบาย
ว่าที่ ร.ท.เรืองศักดิ์ บุญโนนแต้ ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติศรีสะเกษ กล่าวเสริมว่า ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมเสื้อแส่วบ้านทุ่งไชยเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เด่นของจังหวัดอยู่ภายใต้โครงการหมู่บ้านไหมไทยเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งได้รับการส่งเสริมและการพัฒนาแบบครบวงจร เริ่มตั้งแต่การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต การฟอกย้อมสีเส้นไหม การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการส่งเสริมการตลาดให้แก่กลุ่มเกษตรกรโดยการสร้างอัตลักษณ์ด้านหม่อนไหมประจำหมู่บ้านด้วย
ด้านธวัช สุระบาล ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าวระหว่างนำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมกระบวนการทอผ้าไหมและผลิตภัณฑ์จากไหมโดยระบุว่า ผลิตภัณจากไหมเป็นหนึ่งในของดี จ.ศรีสะเกษ ที่เป็นภูมิปัญญาได้รับมรดกตกทอดมาจากบรรพชน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คนรุ่นหลังควรจะอนุรักษ์ไว้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ผ้าไหมซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนที่อื่น ทั้งกระบวนการทอ การออกแบบลวดลาย ตลอดจนการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายพอสมควร
เสื้อแส่ว ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผ้าไหมแห่งบ้านทุ่งไชย นับเป็นอีกผลิตภัณฑ์เด่นของจังหวัดที่นำมาจัดแสดงในงานเทศกาลเงาะ ทุเรียนและของดีศรีสะเกษ จัดขึ่้นระหว่างวันที่ 10-19 มิถุนายนนี้ ณ ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ สนใจผลิตภัณฑ์เสื้อแส่วย้อมสีมะเกลือบ้านทุ่งไชย หรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โทร.09-3417-9055 ประธานกลุ่มยินดีให้ข้อมูลอย่างเต็มที่
---------------------
(ทำมาหากิน : 'เสื้อแส่ว' ผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม มรดกภูมิปัญญาแห่งบ้านทุ่งไชย : โดย...สุรัตน์ อัตตะ)