
ยาน้ำจากสารสกัดใบทองพันช่าง แก้เชื้อราลดระคายเคืองผิวหนัง
24 พ.ค. 2559
ทำมาหากิน : ยาน้ำจากสารสกัดใบทองพันช่าง แก้เชื้อราลดระคายเคืองผิวหนัง : โดย...สุรัตน์ อัตตะ
แม้ยาสมุนไพรจากสารสกัดใบทองพันชั่งจะถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 2554 ในรูปแบบ “ยาทิงเจอร์ทองพันชั่ง” โดยมีสรรพคุณใช้ทารักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา กลากเกลื้อนและน้ำกัดเท้า แต่ทว่ายังไม่มีการกำหนดชนิดและปริมาณตัวยาสำคัญระบุไว้เพียงว่า ตัวยาสำคัญในยาทิงเจอร์ทองพันช่างประกอบด้วยสารสกัดเอทิลแอลกอฮอล์จากใบทองพันช่างสดร้อยละ 10 โดยน้ำหนักต่อปริมาตรเท่านั้น จึงยังเป็นจุดอ่อนในการผลิตยาที่ต้องได้รับการพัฒนาเพื่อให้ได้ยาที่มีตัวยาสำคัญเพียงพอต่อการรักษาและเท่ากันทุกครั้งที่ผลิต อีกทั้งยังก่อให้เกิดการระคายเคืองบริเวณที่ทา โดยเฉพาะในบริเวณเนื้อเยื่ออ่อนหรือบริเวณที่มีแผลเปิดส่งผลให้เกิดอาการแผลแห้งและคันมากขึ้น ทำให้ผู้ที่ใช้ยาไม่ยอมรับในการใช้ครั้งต่อไป
ด้วยเหตุนี้ทีมนักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) นำโดย รศ.ดร.ภก.ภาคภูมิ พาณิชยูปการนันท์ และ Mr.Kanrun Shakya จึงได้ทำการวิจัยและพัฒนาตำรับยาเพื่อลดปริมาณแอลกอฮอล์และเพิ่มสารที่ช่วยทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นเพื่อลดการระคายเคืองผิวหนัง โดยมุ่งเน้นพัฒนากรรมวิธีการเตรียมสารสกัดใบทองพันช่าง โดยใช้ตัวทำละลายและวิธีการสกัดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการเตรียมสารสกัดจากใบทองพันช่างด้วยตัวทำละลายที่มีอยู่ในตำรับยาอยู่แล้วและใช้วิธีการสกัดที่ประหยัดเวลาและพลังงาน รวมถึงลดขั้นตอนในการเตรียมสารสกัดสามารถนำสารสกัดมาใช้เตรียมตำรับยาน้ำได้โดยที่ไม่ต้องระเหยตัวทำละลายออกจากสารสกัดทำให้ช่วยลดต้นทุนการผลิตยาและพัฒนาสูตรตำรับยาน้ำใช้เฉพาะที่โดยกำหนดปริมาณตัวยาสำคัญไรนาแคนธิน-ซีในตำรับยาให้เพียงพอต่อประสิทธิภาพในการรักษา
“ตัวยาสำคัญที่ออกฤทธิ์ในการรักษาโรคนี้คือไรนาแคนธิน-ซี ซึ่งสารดังกล่าวอาจมีปริมาณแปรปรวนได้ในการผลิตยาแต่ละครั้ง เนื่องจากมีปัจจัยมากมายที่ส่งผลต่อปริมาณสารสำคัญในใบทองพันช่าง อย่างเช่นสถานที่เพาะปลูก อายุ ฤดูการเก็บเกี่ยวและกระบวนการหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพของยาทิงเจอร์ทองพันช่างที่ผลิตขึ้นในแต่ละครั้งด้วย”

รศ.ดร.ภก.ภาคภูมิ เผยต่อว่า การพัฒนาตำรับยาดังกล่าวจะสามารถควบคุมปริมาณไรนาแคนธิน-ซีในสารสกัดที่เตรียมการผลิตยาในแต่ละครั้ง โดยการวิเคราะห์ด้วยเทคนิคไฮเพอร์-ฟอร์แมนซ์ ลิควิด โครมาโตกราฟี ทำให้สามารถกำหนดปริมาณที่แน่นอนของสารออกฤทธิ์ไรนาแคนธิน-ซีในสูตรตำรับยาได้ ซึ่งเพียงพอต่อการรักษาโรคเพื่อให้ได้ตำรับยาที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้ยามากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการยกระดับยาสมุนไพรสู่มาตรฐานยาในระดับสากลอีกด้วย ส่วนวิธีการนั้นจะสกัดผงใบทองพันชั่งด้วยสารละลายกลีเซอรินในเอทานอลความเข้มข้นร้อยละ 20 ถึง 30(v2v) ด้วยวิธีการใช้คลื่นไมโครเวฟช่วยในการสกัดสาร ซึ่งสารสกัดที่ได้มีปริมาณของไรนาแคนธิน-ซีไม่น้อยกว่า 2 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ไม่มีสีเขียวของคลอโรฟิลล์และสามารถนำสารสกัดที่ได้มาเตรียมยาน้ำใช้เฉพาะที่ได้ทันทีโดยไม่ต้องมีการระเหยตัวทำละลายออกและได้สูตรตำรับยาน้ำใช้เฉพาะที่มีสารไรนาแคนธิน-ซีร้อยละ 0.1(w/v) สำหรับรักษาโรคผิวหนังหรือโรคผิวหนังอักเสบที่เกิดจากเชื้อราหรือแบคทีเรีย โดยลดการก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผู้ใช้ นอกจากนี้ตำรับยาน้ำนี้มีความคงตัวดีกว่ารูปแบบยาทิงเจอร์มากด้วย
“ผลงานชิ้นนี้ได้ทำการวิจัยอยู่หลายปีจนประสบความสำเร็จ โดยได้รับทุนวิจัยจากทางมหาวิทยาลัย จากนั้นทางกองทัพโดยโรงงานเภสัชกรรมทหารมาต่อยอดสนับสนุนงบการผลิตเพื่อใช้ในกิจการทางทหาร ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายโดยทั่วไปยังไม่มี และนวัตกรรมนี้ก็ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรไปแล้วเมื่อวันที่ 28 มกราคา 2558 ที่ผ่านมา สนใจผลิตภัณฑ์ 08-6692-4572” หัวหน้าทีมวิจัยเผยทิ้งท้าย
สำหรับยาน้ำสารสกัดใบทองพันช่าง ฝีมือทีมนักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ นับเป็นอีกนวัตกรรมเด่นที่ได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ส่งเข้าประกวดจนสามารถคว้า 2 รางวัลยอดเยี่ยมจากต่างแดน ได้แก่ รางวัลเหรียญทอง ในงาน ITEX 2016 ประเทศมาเลเซีย และรางวัลเหรียญเกียรติยศ ในงาน WIIPAT 2016 จากไต้หวัน
-----------------------
(ทำมาหากิน : ยาน้ำจากสารสกัดใบทองพันช่าง แก้เชื้อราลดระคายเคืองผิวหนัง : โดย...สุรัตน์ อัตตะ)