ไลฟ์สไตล์

'ธรรมกาย'ยัน'ธัมมชโย'เดินทางตายแน่

'ธรรมกาย'ยัน'ธัมมชโย'เดินทางตายแน่

22 พ.ค. 2559

'ไพบูลย์' ปัดสั่งลุย-ล้อมจับ 'ธรรมกาย' แจง 6 ข้อ อ้างวงจรปิดถ่ายทอดสด 'ธัมมชโย' ไม่ได้หนี ยันอาพาธหนักเดินทางมรณภาพแน่ พร้อมให้ดีเอสไอแจ้งข้อหา 25 พ.ค.นี้ที่วัด

 
                    22 พ.ค. 59  เมื่อเวลา 15.30 น. นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้พาคณะสื่อมวลชนเดินทางมารับทราบพร้อมยืนยันว่า พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) หรือ พระธัมมชโย ยังคงรักษาตัวอยู่ที่วัด พร้อมแถลงข่าวของคณะศิษยานุศิษย์และหมอผู้เชี่ยวชาญ เกี่ยวกับเรื่องการอาพาธของพระธัมมชโย และใบรับรองแพทย์ โดยเจ้าหน้าที่ของสำนักสื่อสารองค์กรได้เชิญสื่อมวลชนลงทะเบียนและสวมปลอกแขนเพื่อเข้ารับฟังการแถลงข่าวที่สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
 
 
\'ธรรมกาย\'ยัน\'ธัมมชโย\'เดินทางตายแน่
 
 
\'ธรรมกาย\'ยัน\'ธัมมชโย\'เดินทางตายแน่
 
 
                    หลังจากนั้นทางคณะเจ้าหน้าที่สำนักสื่อสารองค์กรได้เชิญคณะสื่อมวลชนขึ้นรถพ่วงที่เตรียมไว้พาสื่อไปยังสถานที่พักรักษาตัวของพระธัมมชโย พร้อมชี้แจงว่าพระธัมมชโยนอนพักรักษาตัวอยู่ที่นี่ ซึ่งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ไม่สามารถให้สื่อเข้าไปบันทึกภาพภายในห้องรักษาได้ เพราะเกรงว่าพระธัมมชโยจะติดเชื้อ และต้องการให้การพักรักษาของพระธัมมชโยเป็นการส่วนตัวมากกว่า ประกอบกับการอาพาธของพระธัมมชโยอยู่ในขั้นวิกฤต โดยมีการถ่ายทอดภาพซึ่งอ้างว่ามาจากกล้องวงจรปิดให้สื่อมวลชนได้เห็นการรักษาการอาพาธของพระธัมมชโย พร้อมกันนี้นายองอาจ ได้ให้สื่อมวลชนจำนวน 5 คน เขียนข้อความลงกระดาษเพื่อนำไปในห้องยืนยันว่าได้เดินทางไปในห้องที่พักของพระธัมมชโยจริง พร้อมเปิดแผลที่เท้าเพื่อให้สื่อมวลชนได้เห็นพร้อมกัน โดยใช้ระยะเวลาทั้งหมด 20 นาที ต่อจากนั้นได้พาคณะสื่อมวลชนกลับมาที่สำนักสื่อสารองค์กร เพื่อเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ
 
 
\'ธรรมกาย\'ยัน\'ธัมมชโย\'เดินทางตายแน่
 
 
                    นายองอาจ กล่าวหลังจากพาคณะสื่อมวลชนไปชมภาพถ่ายทอดสดที่หน้ากุฏิดาวดึงส์ ซึ่งเป็นที่พักของพระธัมมชโย ว่า อาพาธหนักของพระธัมมชโย มีอาการ 8 อาการ ได้แก่ อาการป่วยเดิม 4 อาการ คือ เบาหวาน เส้นเลือดอุดตันที่ขาซ้าย แผลติดเชื้อ ภูมิแพ้ และอาการป่วยที่ทำให้ไปต้องพักรักษาตัว 4 อาการ ได้แก่ บ้านหมุนรุนแรงเฉียบพลัน , มีปัญหาในการทรงตัว , มีอาการปวดหลัง , ปวดขาซ้ายจากกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง โดยคณะแพทย์ลงความเห็นว่า ท่านต้องพักรักษาตัว งดปฏิบัติศาสนอย่างน้อย 2 เดือน จึงไม่สามารถเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนได้
 
 
\'ธรรมกาย\'ยัน\'ธัมมชโย\'เดินทางตายแน่
 
 
                    กรณีใบรับรองแพทย์โรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี คุณหมอได้มาตรวจหลวงพ่อที่วัด โดยการร้องขอจากคณะแพทย์ที่ทำการรักษา เพราะเห็นว่ามีความเชี่ยวชาญเรื่องดังกล่าว ซึ่งตามความเห็นแพทย์ด้วยกันเห็นว่า ใบความเห็นแพทย์ท่านนั้นไม่ได้เป็นเท็จ การออกใบความเห็นแพทย์ให้กับผู้ป่วยที่แพทย์ไปตรวจนอกสถานพยาบาลสามารถทำได้
 
 
\'ธรรมกาย\'ยัน\'ธัมมชโย\'เดินทางตายแน่
 
 
                    นายองอาจ ได้กล่าวถึงจุดยืนวัดพระธรรมกายกรณีหมายจับของดีเอสไอว่า ตามที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ขอออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี วัดพระธรรมกายขอเรียนชี้แจง ดังนี้
 
                    1. พระเทพญาณมหามุนี (พระธัมมชโย) เคารพกระบวนการยุติธรรมและยินดีปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
 
                    2. ขณะนี้พระเทพญาณมหามุนี ท่านอาพาธต้องนอนพักฟื้นอยู่ที่วัดพระธรรมกาย ไม่ได้หลบหนีไปที่ใดทั้งสิ้น โดยอายุและภาวะสุขภาพของท่านซึ่งอ่อนแอมากก็ไม่สามารถเดินทางไกลได้ ท่านจึงไม่เคยเดินทางออกจากวัดมาเป็นเวลา 8 ปีแล้ว ไม่ใช่มาแกล้งป่วยในช่วงนี้ ถ้าไม่ใช่อาพาธมากจริงๆ คงไม่มีใครไม่เดินทางออกนอกวัดเลยถึง 8 ปีอย่างนี้ ที่มีบางท่านปล่อยข่าวว่าท่านจะหลบหนีไปต่างประเทศนั้นจึงไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง เพราะถ้าฝืนเดินทางไปอย่างนั้น ท่านก็คงมรณภาพกลางทางไม่มีประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น
 
                    3. อาการหลอดเลือดดำอุดตันทั้งสายหลักและสายรองที่ขาซ้ายของท่านเป็นมาก จนกระทั่งเมื่อลุกขึ้นนั่งเพียงเวลาสั้นๆ 3 - 4 นาที ขาก็จะบวมมากขึ้นตามลำดับและปวดมาก เพราะเมื่ออยู่ในท่านั่งหลอดเลือดดำบริเวณขาหนีบก็จะถูกกดทับเพิ่มขึ้นไปอีก ทำให้เลือดไหลกลับสู่หัวใจได้ยากขึ้น ต้องนอนยกขาสูงกว่าระดับหัวใจเพื่อประคับประคองอาการ ขนาดเส้นรอบวงของโคนขาซ้าย = 86 ซม. โคนขาขวา = 46 ซม. ใหญ่กว่ากันเกือบ 2 เท่า
 
                    4. วัดพระธรรมกายไม่มีนโยบายจะใช้พลังมวลชนมาต่อต้านกระบวนการทางกฎหมาย ดังจะเห็นได้จากขณะที่มีการออกหมายจับ มีผู้นำอุบาสิกาแก้วจำนวน 50,000 กว่าคนมาปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดพระธรรมกาย ทุกคนก็สวดมนต์นั่งสมาธิตามปกติ เมื่อเสร็จงานวันวิสาขบูชา ต่างก็เดินทางกลับภูมิลำเนาตามกำหนดการ
 
                    5. เพื่อให้กระบวนการทางกฎหมายสามารถดำเนินไปได้ด้วยความเรียบร้อย พระเทพญาณมหามุนี จะได้มีหนังสือแจ้งไปทางราชการว่า ท่านได้รับทราบเรื่องหมายจับแล้ว และขณะนี้ท่านพักรักษาตัวอยู่ที่วัดพระธรรมกาย จึงแจ้งมายังเจ้าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้เดินทางมาแจ้งข้อกล่าวหาได้ในวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 โดยไม่ต้องรอถึงเส้นตายวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ตามที่ดีเอสไอได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้ ทางวัดจะอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่ ทั้งพนักงานสอบสวน อัยการที่ปรึกษา และคณะสื่อมวลชนที่จะมาทำข่าว โดยไม่มีมวลชนมาขัดขวางใดๆ ทั้งสิ้น
 
                    6. เมื่อพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว กระบวนการยุติธรรมก็จะได้ดำเนินไปตามลำดับอีกหลายขั้นตอน ทั้งดีเอสไอ อัยการ ศาล ซึ่งพระเทพญาณมหามุนีมั่นใจในความบริสุทธิ์ของท่านว่าจะได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรมในที่สุด
 
 
\'ธรรมกาย\'ยัน\'ธัมมชโย\'เดินทางตายแน่
 
 
\'ธรรมกาย\'ยัน\'ธัมมชโย\'เดินทางตายแน่
 
 
\'ธรรมกาย\'ยัน\'ธัมมชโย\'เดินทางตายแน่
 
 
 
'บิ๊กต๊อก' ปัดสั่งลุย - ล้อมจับ
 
 
                    พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการดำเนินการตามหมายจับ พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่า เมื่อถึงกำหนดตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นัดเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วพระธัมมชโยไม่มาตามนัด เจ้าหน้าที่ต้องนำหมายจับเข้าไปที่วัดพระธรรมกาย โดยเป็นการปฏิบัติเหมือนกับการจับกุมบุคคลตามหมายจับทั่วไป ไม่มีอะไรพิสดาร สังคมอาจกังวลกันไปล่วงหน้าว่าอาจจะมีม็อบขัดขวางเจ้าหน้าที่ ซึ่งการคาดเดาดังกล่าวอาจไม่เป็นธรรมกับฝ่ายพระ ขณะนี้ตนยังมั่นใจว่าพระจะให้ความร่วมมือและจะไม่เกิดเหตุกระทบกระทั่ง เพราะวัดเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและสถานที่ถือศีล ไม่ควรเกิดเหตุหรือมีพฤติกรรมร้ายแรงอื่นๆ เกิดขึ้น  
 
                    พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันได้ว่า จะไม่ดำเนินการในลักษณะดันทุรังหรือทำให้เกิดความเสียหาย ไม่จำเป็นต้องจัดปฏิบัติการล้อมจับเพราะไม่ใช่คดียาเสพติด หากเข้าไปแล้วพบพฤติการณ์บ่งบอกถึงความไม่ร่วมมือก็ลงบันทึกและถ่ายรูปเป็นหลักฐานแล้วเดินทางกลับ ท้ายที่สุดเมื่อไม่ได้ตัวผู้ต้องหาก็สามารถสรุปสำนวนสั่งฟ้องคดี เพื่อให้ศาลพิจารณาไปตามกระบวนการยุติธรรม    
 
                    "ที่ผ่านมาพูดหลายครั้งว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีอะไรต้องหนักใจ เพราะดำเนินการตามกฎหมายเป็นขั้นตอน แม้จะมีหมายจับแต่ก็ยังให้เวลาโดยกำหนดวันเวลาให้เข้ามอบตัวชัดเจน พนักงานสอบสวนต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ เมื่อมีหมายจับก็ต้องไปดำเนินการตามหมาย ไม่ได้บอกให้ไปลุย ถึงไปแล้วเข้าไม่ได้ก็กลับ เพราะไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินการให้เกิดความเสียหาย เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ไม่มีอะไรเสียหาย ส่วนใครจะเสียหายก็ว่ากันไปตามท้องเรื่อง"
 
 
 
'ดีเอสไอ' นัดถกปมใบรับรองแพทย์ 23 พ.ค.
 
 
                    พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 พ.ค.นี้ พนักงานสอบสวนคดีสมคบฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร จากการรับเช็คบริจาคซึ่งมีที่มาจากการฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด จะประชุมเพื่อพิจารณาหลักฐานที่ทนายความของวัดพระธรรมกายยื่นแสดงต่อศาลเพื่อเลี่ยงการเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับดีเอสไอ สืบเนื่องจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี ยืนยันมายังดีเอสไอเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วว่า ใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยรอง ผอ.โรงพยาบาล ไม่ถือเป็นเอกสารราชการ ดังนั้น จึงเป็นประเด็นต้องพิจารณาว่าผิดกฎหมายหรือไม่ นอกจากนี้จะพิจารณาถึงเนื้อหาคำพูดที่โฆษกวัดพระธรรมกาย พระสงฆ์ และพิธีกรรายการออกมาระบุพาดพิงถึงการดำเนินคดีของดีเอสไอ และการอนุมัติหมายจับพระธัมมชโยว่าจะมีความผิดฐานหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานและละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 
                    ส่วนกรณีที่วัดพระธรรมกายออกมาแถลงถึงการอาพาธหนักถึง 8 โรคของพระธัมมชโยนั้น อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนทราบดีว่าพระธัมมชโยป่วย และไม่เคยโต้เถียงเรื่องอาการป่วย แต่มีพยานหลักฐานชี้ให้เห็นว่าพระธัมมชโยสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ออกไปรับกิจนิมนต์ในสถานที่ต่างๆ ได้ และเดินได้ตามปกติ เพียงแต่พระธัมมชโยไม่ประสงค์จะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา กระบวนการจึงต้องเดินไปสู่การขออนุมัติหมายจับ เพื่อให้การดำเนินคดีเดินหน้าต่อไปได้ 
 
                    ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่วัดพระธรรมกายพร้อมเปิดวัดให้พนักงานสอบสวนเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหา พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ดีเอสไอจะรอจนครบกำหนดในวันที่ 26 พ.ค.นี้ จึงจะพิจารณาดำเนินการในขั้นตอนต่อไป หากถึงจุดนั้นต้องประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ เนื่องจากภายในวัดมีลูกศิษย์หลายกลุ่ม ซึ่งศิษย์แต่ละกลุ่มมีความคิดไม่เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อความรอบคอบจึงต้องประชุมร่วมกับพนักงานอัยการ และต้องขออนุมัติหมายค้นจากศาลด้วย ทั้งนี้เพื่อปิดช่องไม่ให้มีประเด็นโต้แย้ง เพราะที่ผ่านมาพระธัมมชโยไม่เคยพูดด้วยตนเองว่ายินดีให้พนักงานสอบสวนเข้าไปภายในวัด มีแต่ลูกศิษย์และพระรูปอื่นออกมาพูดผ่านสื่อเท่านั้น 
 
                    "ในส่วนของหลักทรัพย์ประกันตัวหากพระธัมมชโยเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตนเอง ดีเอสไอได้แจ้งให้รับทราบเบื้องต้นแล้วว่า หลักทรัพย์ประกันจะประเมินตามอัตราโทษและมูลค่าความเสียหายในคดี โดยสามารถนำโฉนดที่ดินและหลักทรัพย์เข้าประเมินราคาประกันตัวได้ตามระเบียบของทางราชการ"
 
                    แหล่งข่าวจากดีเอสไอเปิดเผยว่า หากจำเป็นต้องนำกำลังเข้าจับกุมตัวพระธัมมชโย ซึ่งกรณีการจับกุมพระสงฆ์ต้องประสานเจ้าหน้าที่จากสำนักพระพุทธศาสนา (พศ.) และเนื่องจากพระธัมมชโยเป็นพระชั้นเทพ ก่อนและหลังการจับต้องแจ้งให้พระเจ้าคณะปกครองรับทราบด้วย