ไลฟ์สไตล์

เปิดโลกยานยนต์ของหนู ที่โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่

เปิดโลกยานยนต์ของหนู ที่โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่

17 พ.ค. 2559

เปิดโลกยานยนต์ของหนู ที่โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่

           “ขับ ขับ ขับ รถยนต์ไป ขับ ขับ ขับ รถยนต์กัน ทางจะใกล้จะไกลไม่สำคัญ มันอยู่ที่เป็นของเรา”

           เสียงเพลงที่ขับร้องประสานเสียงกันแจ้วๆ ของเด็กๆ แว่วมาจากห้องนิทรรศการ Project Approach เรื่อง “รถยนต์” ของน้องๆ ชั้นอนุบาลปีที่ 3/2 โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เด็กๆ กำลังช่วยกันร้องเพลงที่ร่วมกันคิดและแต่งขึ้นคนละประโยคและนำมาเรียบเรียงใหม่ และทำท่าทางตามจังหวะของตัวโน้ต เพื่อส่งเสริมทักษะให้เด็กๆ ในด้านของดนตรีและภาษาไทยได้อย่างกลมกลืนโดยให้คุณครูช่วยนำทำนองเพลง “ปั่นจักรยาน Bike for dad” มาใส่ทำนองให้และร่วมร้องกันอย่างสนุกสนาน

           ไปตามติดบรรยากาศภายให้ห้องเรียนของน้องๆ อนุบาลปีที่ 3/2 ที่ถูกจัดให้เป็นนิทรรศการ เรื่อง “รถยนต์” ขนาดย่อม ที่น้องๆ ใช้เวลาการเรียนรู้กันทั้งหมด 7 สัปดาห์ โดยเริ่มจากเด็กทุกคนในชั้นเรียนช่วยกันคิดหัวข้อเรื่องที่สนใจอยากเรียนรู้ และสรุปเสียงโหวตได้ว่าเรื่อง รถยนต์ คือเรื่องที่เด็กๆ สนใจอยากเรียนรู้มากที่สุด

            ซึ่ง ครูนงชนก หมั่นเฮง หรือ "ครูอึ่ง” ครูประจำชั้นของเด็กๆ อ.3/2 เล่าว่า หลังจากที่เด็กๆ ได้พูดคุยถึงสิ่งที่เด็กสงสัยกันแล้ว คุณครูจะให้เด็กๆ ได้เลือกทำกิจกรรมที่แสดงออกถึงประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับ “รถยนต์” ผ่านกิจกรรมวาดภาพด้วยสีไม้ สีเทียน สีเมจิ สีน้ำ และประดิษฐ์เศษวัสดุตกแต่งตามใจชอบ เด็กๆ ได้สังเกต สำรวจและสัมผัส อุปกรณ์ต่างๆ ที่นำมาประดิษฐ์เป็นรถยนต์ อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองใจดี ธารทิพย์ ปิยะสมบัติกุล ที่ได้นำรถยนต์มาให้เด็กๆ ได้สังเกต สำรวจและสัมผัส อุปกรณ์ต่างๆ จากของจริง ซึ่งเป็นการสร้างเสริมทักษะด้านศิลปะและวิทยาศาสตร์ให้แก่นักสำรวจตัวน้อยๆ กันเลยทีเดียว

           สาวน้อยช่างพูด "น้องคะนิ้ง" ด.ญ.ปุณยาภา หวังเจริญรุ่ง เล่าประวัติความเป็นมาของรถยนต์ ว่า คาร์ล เบนซ์ ผู้ประดิษฐ์รถยนต์คันแรกของโลก วิศวกรชาวเยอรมัน ความสำเร็จแรกของเขาก็คือ เขาสามารถผลิตเครื่องยนต์ที่ทำงานสองจังหวะได้สำเร็จ ต่อมาก็ผลิตเครื่องยนต์สี่จังหวะได้สำเร็จ และได้นำไปติดตั้งกับรถสามล้อ และใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์ จึงนับได้ว่ารถสามล้อคันนี้ เป็นรถยนต์คันแรกของโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ และตั้งชื่อว่า “มอเตอร์วาเก้น”

           เพื่อฝึกการใช้งานคอมพิวเตอร์และส่งเสริมให้เด็กใช้เทคโนโลยีในการค้นหาข้อมูล เด็กๆ จึงใช้อินเทอร์เน็ตหาข้อมูลในกูเกิลและพิมพ์คำที่ต้องการ เกี่ยวกับส่วนประกอบต่างๆ ของรถยนต์ ซึ่ง "น้องธาม" ด.ช.ธนกฤต วิทยนันท์ ได้นำรถยนต์จำลองมาเล่าถึงส่วนประกอบของรถยนต์ที่ได้ไปสืบค้นมา “ส่วนประกอบภายนอกของรถจะมีกระจกมองข้าง มีล้อ 4 ล้อ มีประตูหน้าไว้เปิดปิด มีป้ายทะเบียน ด้านหน้าและด้านหลัง มีไฟใหญ่หน้า มีไฟข้างมองเห็นรถที่วิ่งด้านหลัง มีที่ปัดน้ำฝนให้เรามองเห็นถนนเวลาฝนตก มีกระจกบังลมหน้า ด้านหลังมีไฟท้ายให้รถคันหลังเห็นรถของเรา ด้านในของรถมีคันเร่งไว้เหยียบให้รถเดินหน้า มีหน้าปัดบอกความเร็ว มีเข็มขัดคาดไว้เพื่อให้คนปลอดภัย มีเบาะให้นั่ง และมีพวงมาลัยไว้ให้ขับรถเคลื่อนที่ไปได้

            "น้องณัฐ" ด.ช.คุณัชญ์ ไทรงาม บอกว่า คีมเอาไว้ซ่อมรถ ป้ายทะเบียนรถสีแดงจะเป็นป้ายรถใหม่ ขับได้ 45 วัน จะเปลี่ยนเป็นสีขาว รถยนต์เติมน้ำมันได้ 2 ประเภท คือ น้ำมันดีเซลกับเบนซิน  เครื่องยนต์เบนซินคาร์ลเบนซ์เป็นคนสร้าง ใช้หัวเทียนก่อนที่จะใช้น้ำมันเบนซิน รถใช้เครื่องจักรไอน้ำก่อนและเครื่องยนต์ดีเซลใช้หัวฉีด น้ำมันเบนซินใช้กับรถยนต์ รถแท็กซี่ ส่วนน้ำมันดีเซลใช้กับรถบรรทุก รถกระบะและรถบัส

           การทำโครงงานเรื่อง “รถยนต์” เด็กๆ ได้ร่วมกันทบทวนความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ โดย "น้องคูน" ด.ช.ธัชชัย อภินัยนาถ ได้สรุปการค้นคว้าว่า รถยนต์หมายถึงยานพาหนะทางบกที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ไฟฟ้า น้ำมันและพลังงานอื่นๆ กว่าจะมาเป็นรถยนต์ในปัจจุบันได้ต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ ตอนแรกเครื่องยนต์เป็น 2 จังหวะ และพัฒนาเป็น 4 จังหวะ ต่อมาก็เป็นดีเซลที่ใช้ในปัจจุบัน ยี่ห้อรถยนต์มีโตโยต้า บีเอ็มดับเบิลยู อีซูซุ ฮอนด้า มาสด้า เป็นต้น น้องคูนยังเล่าต่อให้เราฟังถึงขั้นตอนการผลิตรถยนต์ว่า การผลิตรถยนต์คือ 1.ออกแบบทำรถยนต์จำลองขึ้นมาในขนาดเท่ากับของจริง 2.สร้างรถยนต์จำลองขึ้นมาเท่ากับขนาดของจริง 3.ทดสอบโดยการผลิตรถยนต์ขึ้นมาทดสอบการชน 4.ผลิตรถยนต์ในโรงงานเท่ากับของที่จำลองไว้ และ 5.นำรถยนต์ไปจำหน่ายในโชว์รูม