
'เขาหลัก' ยอดสูงเมืองลุง แบ่งเขตเมืองตรัง
15 พ.ค. 2559
ชวนเที่ยว : 'เขาหลัก' ยอดสูงเมืองลุง แบ่งเขตเมืองตรัง : เรื่อง / ภาพ ... นพพร วิจิตร์วงษ์
เอ่ยชื่อ “เขาหลัก” ส่วนใหญ่เกือบจะร้อยทั้งร้อย รู้ว่าอยู่จ.พังงา แต่รู้มั้ยว่าจ.พัทลุง ที่ททท.จัดชั้นให้เป็นเมืองต้องห้ามพลาด พลัส ก็มี เขาหลัก ด้วยเหมือนกัน
เขาหลัก ที่ว่านี้ เป็นยอดเขาสูงในเทือกเขาบรรทัด และสูงสุดในจ.พัทลุง มีระดับความสูง 1,355 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งเทือกเขาบรรทัด เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ที่ครอบคลุมพื้นที่หลายอำเภอ ของ 3 จังหวัด คือ พัทลุง ตรัง และสตูล และหลายจุดที่เป็นพื้นที่คาบเกี่ยวกันบนเทือกเขาแห่งนี้ที่เคยเป็นแหล่งซ่องสุมของคอมนิวนิสต์ โดยมีร่องรอยการเข้าอยู่อาศัย ทั้งถ้ำ หลุมขวาก หลุมเพาะ กระทั่งการใช้น้ำตกเป็นแหล่งปั่นกระแสไฟใช้ในค่าย อันเป็นฐานที่ตั้งต่อสู้กับทางการมาเนิ่นนาน ก่อนที่นโยบาย 66/23 จะช่วยดึงพวกเขาเหล่านั้นกลับสู่เมือง
ยอดเขาหลักที่ว่านี้ อยู่ในเขตต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ ก็เป็นหนึ่งในสมรภูมิที่ดี เพราะถ้าวันที่อากาศดีๆ ถ้าขึ้นไปอยู่บนยอด จะมองเห็นตัวเมืองพัทลุงได้อย่างชัดเจน
สมัยก่อน อ.ศรีนครินทร์ เป็นส่วนหนึ่งของอ.เมือง ก่อนจะมีการจัดแบ่งใหม่ได้ชื่อชั้นเป็นกิ่งอ.ชุมพล ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นกิ่งอ.ศรีนครินทร์ เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงมีพระเมตตาเสด็จเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ ซึ่งสมัยก่อนเป็นถิ่นทุรกันดาร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชานุญาตให้เชิญพระนามาภิไธยของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเป็นชื่อกิ่งอำเภอ และต่อมาได้รับการยกฐานะเป็นอ.ศรีนครินทร์ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2550 เป็นต้นมา
และชื่อของเขาหลัก ก็ปรากฏอยู่ในคำขวัญของอำเภอศรีนครินทร์ด้วย "ศรีนครินทร์ ... ถิ่นยางพารา งามตา, น้ำตก มรดกถ้ำสวย, หลากด้วย ไม้ผล, น่ายล เขาหลัก"
สำหรับฉันแล้ว ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งในหลายๆ ครั้งของการเดินทางมาพัทลุง เพื่อเยี่ยมยลความสวยงามของผืนป่าเทือกเขาบรรทัด ในจุดต่างๆ ที่คาบเกี่ยวกับจ.ตรัง ตั้งแต่ยอดเขาสระ ไล่มาถึงเขาล่อน เขาเจ็ดยอด กระทั่งครั้งล่าสุดนี้ ที่เขาหลัก
คราวนี้ฉันเลือกเดินทางด้วยรถไฟ เส้นทางที่ไม่ว่าจะซื้อตั๋วถูก หรือแพง หรือนั่งฟรี ก็ไปถึงสถานีพัทลุงในเวลาเดียวกัน เพียงแต่ความสบายผิดกัน และน่าจะเป็นอีกครั้งที่รถไฟเลทเวลาไปไม่มากอย่างที่คิด เช้าตรู่ ก็ไปนั่งจิบกาแฟอยู่หลังสถานี รอรถคนนำทางมารับ ตามที่นัดหมายกันแล้ว
จากตัวเมืองพัทลุง ไป อ.ศรีนครินทร์ ใช้เวลาราวๆ ครึ่งชั่วโมงถึงบ้านหลังสวยของ “นุ” ภัทรชัย จันทร์อินทร์ หนุ่มพัทลุงที่กลับมาอยู่บ้านเกิด พลิกฟื้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เส้นทางเขาหลักขึ้นมาใหม่ ใช้เวลากันพอประมาณ เตรียมข้าวของ แบ่งเสบียง ก็ขึ้นรถปิกอัพไปยังจุดเริ่มต้นเดินเท้า ไม่ไกลจากน้ำตกเขาคราม ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า ในเขต ต.บ้านนา จากทางลาดยาง เข้าสู่ถนนแคบๆ เลาะไปตามสวนยางพารา และไปสุดทางที่ไร่จำปาดะ ที่จะต้องขึ้นเป้เดินเท้ากันต่อนับจากจุดนี้
แสงแดดยามสายแผดเผา จนรู้สึกได้ถึงความแสบของผิวที่ไม่ได้บอบบางนัก พัทลุงได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มี 2 ฤดู คือ ร้อนกับฝน จังหวะนี้ของฉันมันคือ ร้อนชัดๆ เลยพ้นไร่จำปาดะ ขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ท่ามกลางแสงแดด จนร่างกายเกือบจะฮีต ก็พอดีได้เลาะเข้าใต้ร่มไม้ใหญ่ ถึงธารน้ำแรกของชายป่า ให้ได้นั่งพักขา ล้างเหงื่อไคล แล้วก็ค่อยไปพักนานๆ ตอนจัดการมื้อเที่ยง ริมธารน้ำเชิงเขา ซึ่งที่ผ่านมา นุบอกว่านี่แค่เริ่มต้น แต่หลังจากมื้อเที่ยง เราจะขึ้นเขากันจริงๆ ซะที เขาที่นี่ มีแต่ขึ้นกับขึ้น จนกว่าจะถึงสันเขาด้านบนนู่นเลย
ฉันมันสิงห์ทางชัน แต่ชันแบบเกียร์หนึ่ง ลากขึ้นไปเรื่อยๆ มีลูกหาบกับเพื่อนร่วมทางสายป่าที่ห่างหายกันไปนาน มาร่วมเดินปิดท้ายด้วยกัน จากเดินต่อเนื่อง ค่อยๆ กลายเป็นเดินห้า-พักสิบ ที่ชอบหัวเราะขำๆ กับเพื่อนร่วมทางว่า มันคือเดิน 5 ก้าว พัก 10 นาที แต่เอาเข้าจริง กะดูเวลาแล้วก็เดินมากกว่าห้าก้าว พักไม่ถึงสิบ แต่ก็พักบ่อยๆ หาเรื่องถ่ายรูปไปเรื่อยเพื่อไม่ให้รู้สึกว่าเหนื่อยเกินไปนัก ระหว่างทางเจอต้นไม้ใหญ่ขนาดหลายคนโอบอยู่ทั่วไป จนรู้สึกดีใจกับป่าผืนนี้
เวลาผ่านไปเร็ว แต่ขาฉันก้าวไปช้าๆ กว่าจะเจอต้นแลน ต้นไม้สูงที่มีเปลือกแปลกไปจากต้นอื่นๆ คือ เป็นปีกทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ ขึ้นไป เจ้าต้นนี้เอง ที่ “มะขวิด” หนุ่มลูกหาบพลังอึด บอกว่า ถึงต้นนี้ ก็เท่ากับถึงครึ่งทางของการขึ้นเขาแล้ว ได้ยินแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะมีกำลังใจหรือเปล่า เพราะทุกครั้งของการเดินขึ้น พอแหงนหน้าเห็นขอบเขา ราวกับจะถึงสัน ก็เป็นอันต้องหักเลี้ยวขึ้นสูงไปเรื่อยๆ บางช่วงชันขนาดว่าฉันรักทั้งกิ่งก้านต้น และรากไม้ที่โผล่พ้นดี ทั้งจับ ทั้งกอด เพื่อดึงตัวเองขึ้นไป
บางจังหวะของความเหนื่อย แอบนั่งพักกันนานๆ เม้าท์เรื่องสัพเพเหระ ก่อนจะลุกขึ้นเดินกันต่อ ราวๆ 4 โมงเย็น ก็ทะลุถึงสันเขา มีกองหินใหญ่ ให้ปีนขึ้นชมวิว จากจุดนี้เอง จะมองเห็นสันเขาสวยๆ อีกด้าน ที่มีกองหิน 3 ก้อน (มองจากด้านล่างขึ้นมา) แต่ถ้ามองด้านบนก็จะเห็น 5 ก้อน เราเรียกมันว่า “ห้าสหาย” เป็นสันเขาที่นุบอกว่า เป็นต้นน้ำของน้ำตกเขาคราม ที่น่าจะมีเส้นทางเดินขึ้นเขาหลักได้เช่นกัน
จากตรงนี้ เดินเลาะสันเขาไปเรื่อยๆ ผ่านป่าโบราณบางช่วง ไม่นานก็ถึงจุดที่ตั้งแคมป์ชายป่าโบราณของเขาหลัก
ค่ำคืนนี้เรื่องราวของเขาหลัก ก็ถูกถ่ายทอดออกมาให้ได้ฟัง กับการผละจากเมืองใหญ่ของนุ มาอยู่บ้านเกิด และเริ่มการเดินขึ้นเขาหลักตามความทรงจำสมัยที่เคยขึ้นเมื่อตอนยังเด็ก ซึ่งเขาบอกว่า อยากให้คนมาเที่ยวที่บ้านของเขาบ้าง จะได้ไม่เป็นเพียงเมืองที่ต้องห้ามพลาด กับจุดที่โปรโมทอื่นๆ โดยไม่มีชื่อของเขาหลักติดอยู่ด้วย
วันรุ่งขึ้น หลังจากพักแข้งขา นอนอ่านหนังสือสบายๆ ราวกับอยู่บ้านพักตากอากาศ ตกบ่ายค่อยเดินขึ้นเขาหลัก อันเป็นยอดสูงสุด ด้านบนมีกองหินขนาดใหญ่ สูงราว 6-7 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่มีความสูง 1,355 เมตร ที่มีเรื่องเล่ากันว่า เป็นจุดที่คณะสำรวจของเจ้าเมืองพัทลุงและเจ้าเมืองตรังได้ขึ้นไปจัดทำเส้นแบ่งเขตระหว่างจ.ตรังและจ.พัทลุง โดยได้แกะสลักไว้บนก้อนหินเป็นคำว่า “ป.ส.2478” ด้วย ต่อมาชาวบ้านในพื้นที่ขึ้นมาสำรวจ และพบรอยแกะสลักที่เล่าขานกันนี้ ซึ่งวันที่ฉันขึ้นไปก็ยังเห็นอยู่ แต่กองหินที่มีรอยแยกนี้ แยกมานานหรือยัง ไม่อาจรู้ได้
เวลาเหลือๆ เลยได้ชื่นชมฝั่งที่อยู่ด้านตะวันออกของหลักหินคือ พัทลุง ฝั่งตะวันตก คือ ตรัง จากสันเขานี้ มีเส้นทางลงไปตรังด้วย แต่ดูท่าจะผ่านขุนเขาซับซ้อนกว่า
ขาขึ้นเขาหลัก ใช้เวลา 6 ชั่วโมงกว่า แต่ขาลงใช้เวลาราวๆ 4 ชั่วโมง ก็ไปนั่งแช่แอ่งน้ำอยู่ปลาย น้ำตกเขาคราม หน้าร้านอาหารของนุ ที่อยู่ตอนปลายนอกเขตอุทยาน ทั้งยังติดป้ายห้ามจับปลา รักษาความสะอาด เลยได้เห็นปลาแปลกๆ ตามแอ่งน้ำอยู่เยอะ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่มาเล่นน้ำกันแถวนี้เยอะพอควร และจากตรงนี้ เดินราว 5 นาที ก็ถึงน้ำตกเขาครามแล้ว ชื่อชั้นน้ำตกเขาคราม อาจจะไม่ดังเท่าน้ำตกไพรวัลย์ ใน อ.กงหรา แต่ก็สวยงามไม่น้อยเลยทีเดียว ขนาดว่าหน้าแล้งก็ยังมีแอ่งน้ำ มีสายน้ำตกลงมาให้ดับร้อน โดยเฉพาะชั้นบนที่สายน้ำทอดตัวมาตามลาดผา ความสูงราวๆ 20 เมตร
พัทลุงคราวนี้ของฉัน เลยได้เห็นหน้าค่าตาที่แปลกแตกต่างไปอีกแบบ โดยเฉพาะเขาหลัก สันเขาสูงที่มีป่าโบราณสวยๆ แบ่งสองจังหวัดออกจากกันอย่างฉันมิตร
----------------
ติดต่อ เดินป่าเขาหลัก 09-2924-2718 (นุ-ภัทรชัย) น้ำตกเขาคราม : การเดินทาง จากพัทลุงไปตามทางหลวงหมายเลข 4 ถึงบ้านต้นไทร (25 กม.) เลี้ยวไปตามทางแยกไปบ้านเขาคราม และเข้าไปถึงตัวน้ำตก ระยะอีกประมาณ 6 กม.
----------------
(ชวนเที่ยว : 'เขาหลัก' ยอดสูงเมืองลุง แบ่งเขตเมืองตรัง : เรื่อง / ภาพ ... นพพร วิจิตร์วงษ์)