ไลฟ์สไตล์

ไตวายเฉียบพลัน

ไตวายเฉียบพลัน

13 พ.ค. 2559

ไขปัญหาสุขภาพแผนจีน : ไตวายเฉียบพลัน : โดย...หมอไพร

 
       ผู้ป่วยชาย อายุ 30 ปี เป็นพนักงานในรัฐวิสาหกิจ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ได้เข้ามารักษาที่คลินิก เขาเล่าว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน ตื่นเช้าขึ้นมารู้สึกเวียนศีรษะ อาเจียน กินข้าวไม่ลง กินอะไรก็อาเจียน ที่ลิ้นห้อเลือดอย่างชัดเจน ตอนบ่ายไปโรงพยาบาล ตรวจเลือดพบว่า ค่าคริตินิน 1.45(ปกติ0.5-1.5) ค่า อีจีเอฟอาร์ 53 (ปกติ 90 ขึ้นไป) หมอให้น้ำเกลือซองมาชงกิน ให้ยาแก้อาเจียน แก้อักเสบ แก้เวียนศีรษะ ให้กลับบ้าน แต่อาการต่างๆ ยังไม่หาย ยังกินอะไรไม่ได้
 
       รุ่งขึ้นวันที่ 25 อาการต่างๆ ไม่เพียงไม่หาย กลับหนักยิ่งขึ้น จึงไปโรงพยาบาลอีก ตรวจเลือดพบว่า คริตินินขึ้นเป็น 1.9 อีจีเอฟอาร์ลงเป็น 50 หมอว่าเป็น “ไตวายเฉียบพลัน” นอนโรงพยาบาล ให้น้ำเกลือ ให้ดื่มน้ำมากๆ หลังจากนั้นตรวจเลือด ค่าคริตินิน 1.7
 
       รุ่งขึ้นวันที่ 26 คริตินิน 1.6 อีจีเอฟอาร์ 90
 
       วันที่ 30 คริตินินเหลือ 1.06 อีจีเอฟอาร์ 90 กว่า หมอให้ออกโรงพยาบาล วันรุ่นขึ้น (1 พ.ค) เกรงว่าจะไม่หายขาด กลายเป็นไตวายเรื้อรัง จึงมาที่คลินิกเพื่อว่าจะทำอะไรได้บ้างที่ช่วยฟื้นฟูไต ไม่ให้ลามไปเป็นไตวายเรื้อรัง ตอนนี้ยังรู้สึกเพลีย มึนศีรษะ ไม่สบายตัว ไม่สดชื่น
 
       ผู้เขียนสงสัยว่า ผู้ป่วยอายุแค่ 30 อยู่ๆ จะเป็นไตวายเฉียบพลันได้อย่างไร ต้องมีสาเหตุที่ผิดปกติแน่ๆ จึงถามไปว่า ก่อนที่จะมีอาการเช่นนี้ไปทำอะไรมา เขาบอกว่า ออกกำลังกายนานจนเหงื่อออกมาก หลังออกกำลังกายแล้วเข้าอบเซาน่าต่อ หลังเซาน่าก็ไม่ดื่มน้ำ หลังจากนั้นก็มีอาการอย่างที่กล่าวมา
อันตรายมาก นี่ยังดีว่า ปัสสาวะยังไม่เป็นสีน้ำซีอิ๊วขาว ยังปัสสาวะได้ตามปกติ ถ้าถึงขนาดนั้นคงยาก เพราะจะทำให้ปัสสาวะไม่ออก ไตวายเฉียบพลันที่สุดจะเยียวยาได้ เป็นข้อเตือนใจแก่ผู้ที่ออกกำลังกายจนเกินกำลัง ให้เหงื่อออกมากๆ แล้วไม่เติมน้ำให้แก่ร่างกาย อย่าคิดว่าลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้แล้วจะไม่อันตราย เพราะการออกกำลังกาย กล้ามเนื้อลาย(คือกล้ามเนื้อที่อยู่ติดกับกระดูก)จะขับสารชนิดหนึ่งออกมา สารชนิดนี้เป็นของเสียที่ต้องขับออกทางไต เวลาเราออกกำลังกายกล้ามเนื้อลายจะทำงาน ถ้าไม่เกินกำลังไตก็จะขับออกได้ตามปกติ แต่ถ้าออกกำลังกายเกินกำลังกล้ามเนื้อทำงานมากเกินไป สารชนิดนี้มีมาก ปัสสาวะจะเป็นสีชาเข้ม หนักเข้าจะเป็นสีซีอิ๊วขาว ถ้าถึงขั้นนี้จะอุดกั้นท่อกรองไต ทำให้ปัสสาวะไม่ออก จะอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้น การออกกำลังกายต้องทำแต่พอดี เมื่อเสียเหงื่อมากจึงต้องดื่มน้ำให้มาก เพื่อเติมน้ำให้แก่ร่างกาย เมื่อน้ำมากจะช่วยให้ขับสารชนิดนี้ออกได้ง่าย
 
       ผู้ป่วยท่านนี้มีประวัติน้ำหนักตัวมาก ไตรกลีเซอไรด์สูง ไขมันพอกตับ ค่าเอ็นไซด์ตับสูง เคยมารับยาจีนไปกิน แต่ไม่ต่อเนื่อง เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะมาจากต้องการลดน้ำหนัก ลดไขมันในเลือด แต่ขาดความเฉลียวใจไปหน่อย
 
       เมื่อรักษาค่าไตกลับมาปกติแล้ว ตัวผู้ป่วยและทางครอบครัวเกรงว่าจะไม่หายขาด กลัวลามไปเป็นไตวายเรื้อรัง จึงมาตรวจรักษาด้วยแผนจีน ต้องการฟื้นฟูไต เพราะยังมีอาการมึนศีรษะ ยังเพลีย ไม่สดชื่น ไม่มีแรง เนื่องจากเป็นคนนอนดึก ใช้สมองมาก เครียดกับการงาน จึงตรวจพบว่าตับและม้ามของเขาทำงานไม่ค่อยสมบูรณ์ดีด้วย จึงให้ยาต้มทั้งลดตับร้อน ปรับชี่ตับอั้น บำรุงม้าม ไปพร้อมกับการบำรุงไต ไป 3 ห่อ
 
       หลังกินยา 3 ห่อแล้ว อาการเพลีย มึนศีรษะหายไป ตับร้อนลดลง จึงให้กินยาเดิมต่อ เพื่อปรับสมดุลทั้งตับ ม้าม ไต ยาหมดแล้วค่อยมาตรวจอีกทีว่าจะกินยาอย่างไรต่อไป