พระเทพสิทธิญาณรังษี วิ. วิสัยทัศน์กว้างไกล‘พระแท้ชาวบางปะกง | คมชัดลึก

 

       วัดโสธรวรารามวรวิหาร เดิมชื่อว่า วัดหงษ์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของฉะเชิงเทรา ฝีมือช่างล้านช้าง ปัจจุบันมี พระเทพสิทธิญาณรังษี วิ. เป็นเจ้าอาวาส

 

       ย้อนไปเมื่อครา พ.ศ.๒๕๕๒ พระพรหมสุธี หรือท่านเจ้าคุณเสนาะ อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม อดีตเจ้าคณะภาค ๑๒ อดีตประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ และอดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ มีดำริแต่งตั้ง พระเทพสิทธิญาณรังษี วิ. เป็นเจ้าอาวาสวัดโสธร ด้วยมุมมองและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของพระพรหมสุธี ชี้ชัดถึงความเหมาะสม ด้วยเหตุผล หลากหลายประการ ถึงแม้ พระเทพสิทธิญาณรังษี วิ. จะมีอายุมากแล้วก็ตาม

 

       แต่ด้วยสุขภาพที่แข็งแรง สมอง สติ ปัญญา บริบูรณ์ดีเยี่ยมเกินกว่าพระสงฆ์ในวัยเดียวกัน อีกทั้งประสบการณ์ที่มากมายโชกโชน เหลือเฟือของท่าน การันตีความสามารถว่า ต้องปกครองวัดโสธรแห่งนี้ได้อย่างดีเยี่ยมแน่นอน ประเด็นมิได้อยู่ที่ท่านอาวุโส แต่ท่านเป็นพระนักปกครอง ที่ผ่านประสบการณ์มาแล้วอย่างโชกโชน โดยเฉพาะในตำแหน่งสำคัญๆ เฉกเช่น เจ้าคณะอำเภอบางปะกง ที่ยืนยงยืนหยัดจัดเจนในการปกครองหมู่คณะสงฆ์ ให้ดำรงตนเคร่งครัดในพระธรรมวินัยดีเยี่ยม เรียบร้อยเป็นระเบียบ อย่างหาที่ติมิได้

 

       ด้วยเหตุผลประการต่อมา เมื่อคราที่ท่านดำรงในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าสะอ้าน ท่านรังสรรค์วัดวาอาราม ถาวรวัตถุ ด้วยการไปขายที่ดิน ขายสมบัติที่มีอยู่ทั้งหมดมาสร้างวัด ให้สำเร็จเป็นรูปธรรม จวบจนเกิดเป็นถาวรวัตถุที่มั่นคงถาวร เพื่อลูกหลานในอนาคตกาล ภายภาคหน้าท่านรังสรรค์ด้วยสติปัญญาแห่งความเสียสละ เพื่อบวรพระพุทธศาสนาอย่างถ่องแท้ ใจเด็ด ใจเข้มแข็ง ใจนักเลง ไม่เกรงกลัวใคร แม้หน้าอินทร์หน้าพรหม ด้วยจุดประสงค์เดียวคือจะสร้างคุณงามความดี เพื่อประดับไว้ในบวรพระพุทธศาสนา

 

       ในครั้งนั้น พระพรหมสุธี จึงไม่มีรีรอที่จะนำเรื่องดังกล่าวนี้ไปปรึกษา ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในครานั้น ท่านจึงตัดสินใจเลือกพระเทพสิทธิญาณรังษี วิ. เป็นเจ้าอาวาสวัดโสธร จวบจนวันนี้ครบ ๗ ปีบริบูรณ์

 

       พระเทพสิทธิญาณรังษี วิ. มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง ท่านได้กำหนดกฎระเบียบเข้มไว้ด้วยวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทำให้ท่านมีชื่อเสียงอยู่ในศรัทธาของญาติโยมชาวบางปะกงอย่างรวดเร็ว ในแต่ละวันมีญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบนมัสการรับฟังธรรมจากท่านอย่างล้นหลาม ปัจจัยที่ได้รับการบริจาคจากญาติโยมได้นำมาพัฒนาวัดแห่งนี้ อาทิ ประตู กุฏิ ศาลาการเปรียญ เป็นต้น

 

       ทุกวันนี้ แม้ พระเทพสิทธิญาณรังษี วิ. วัยสูงถึง ๙๑ ปี แต่วิถีแห่งการทำงานปกครองคณะสงฆ์ภายในวัดโสธรวรารามวรวิหาร พระอารามหลวง ได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด บริสุทธิ์ผุดผ่อง ซื่อสัตย์สุจริต ระเบียบปฏิบัติ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ท่านทำวัตรสวดมนต์เช้าเย็นไม่เคยขาด ท่านพร่ำสอนให้ญาติโยมยึดคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ให้หมั่นประกอบแต่กรรมดี และให้รู้จักการทำบุญให้ทาน อย่าเห็นแก่ตัว ตายไปแล้วทรัพย์สินใดๆ ก็เอาติดตัวไปไม่ได้ ขอให้ยึดหลักความพอเพียง ชีวิตตนเองและครอบครัวจะประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง

 

       นี่คือภาพลักษณ์ของพระแท้ที่เป็นแบบอย่าง ของความงดงามทั้งภายนอกและภายใน สมเป็นพระแท้ที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจอย่างแท้จริง

 

 

 

       “ประยงค์ วรรณประดิษฐ์” เป็นชื่อและนามสกุลเดิมของ “พระเทพสิทธิญาณรังษี วิ.” เกิดเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๔๗๒ ที่หมู่ ๓ ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายดุสดี และ นางกั๊ก วรรณประดิษฐ์ ในช่วงวัยเยาว์จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ ๔ โรงเรียนวัดแสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา แต่อุปนิสัยของท่านเป็นผู้มีจิตใจโน้มเอียงเข้าหาพระธรรม เวลาว่างจากงานได้พยายามศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา รวมทั้งแนวทางปฏิบัติของพระสายกัมมัฏฐาน

 

       กระทั่งอายุ ๓๘ ปี เกิดความเบื่อหน่ายชีวิตทางโลก ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๑๐ ณ วัดท่าสะอ้าน ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา มีพระครูธรรมกิจจานุรักษ์ วัดอุสภาราม ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพระอุปัชฌาย์, พระสมุห์แจ่ม ทันตธัมโม วัดอุสภาราม ต.บางวัว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูบัวโรย สีลเตโช วัดท่าสะอ้าน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ปิยวัณโณ

 

       ที่วัดท่าสะอ้าน ท่านศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย หลังมุมานะศึกษาอยู่หลายปี พ.ศ.๒๕๑๔ สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ที่สำนักเรียนคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา ตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านได้เฝ้าปรนนิบัติรับใช้ดูแลอุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์อย่างใกล้ชิด พร้อมกับได้ฝึกฝนวิปัสสนากัมมัฏฐาน ทำให้ท่านมีความเชี่ยวชาญทั้งพระธรรมวินัยและวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 

       พ.ศ.๒๕๒๑ เป็นรองเจ้าอาวาสวัดท่าสะอ้าน พ.ศ.๒๕๒๘ เป็นเจ้าคณะตำบลบางวัว พ.ศ.๒๕๒๙ เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.๒๕๓๒ เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าสะอ้าน พ.ศ.๒๕๔๖ เป็นเจ้าคณะอำเภอบางปะกง และ พ.ศ.๒๕๕๒ รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดโสธร อย่างเป็นทางการ

 

       ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.๒๕๔๗ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๒ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชมงคลรังษี และล่าสุด เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๖ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพสิทธิญาณรังษี วิ.

 

 

 

       พระพรหมสุธี หรือ เจ้าคุณเสนาะ มีนามเดิมว่า เสนาะ ฝังมุข เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๐ จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๑ ณ พระอุโบสถ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระพรหมคุณาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “ปญฺญาวชิโร” มีความหมายว่า ผู้มีปัญญาอันเฉียบแหลม

 

       หลังจากอุปสมบทก็ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ดูแลงานปกครอง ดูแลด้านการเงิน ในขณะเดียวกันยังเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดสระเกศ เป็นกรรมการตรวจนักธรรมสนามหลวง และกรรมการตรวจบาลีสนามหลวง

 

       เมื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๖ พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร จึงแต่งตั้งพระพรหมสุธีเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดสระเกศ และได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสระเกศในวันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๖

 

       เจ้าคุณเสนาะละสังขารเมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๙ สิริอายุได้ ๕๘ ปี ๓๕๒ วัน และจะครบ ๑๐๐ วัน ในวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๙ โดยในโอกาสนี้ วัดโสธรธรวรารามวรวิหาร พระอารามหลวง จะได้จัดให้มีพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ พระพรหมสุธี ท่านเจ้าคุณเสนาะ ในฐานะบูรพาจารย์ องค์สำคัญอีกองค์หนึ่งของวัดโสธร