เหรียญปิดตาพังพระกาฬ พ.ศ.๒๕๓๒ | คมชัดลึก

 

        “ปรากฏการณ์จตุคามรามเทพครองเมือง" ที่เกิดขึ้นระหว่าง พ.ศ. ๒๕๔๙-๒๕๕๐ คงไม่ผิดหากจะกล่าวว่ากระแสความนิยมจตุคามรามเทพพุ่งแรงสู่จุดสูงสุดในระดับปรากฏการณ์ อย่างที่วัตถุมงคลอื่นใดไม่สามารถทำได้มาก่อน

 

        หลังพ.ศ.๒๕๕๑ ภาพที่เราได้พบเห็นกันไม่ต่างไปกับภาพท้องทะเลที่ดูเวิ้งว้างราบรื่น แทบจะไม่ได้ทิ้งร่องรอยอดีตแห่งคลื่นลมใดๆ ไว้เลย จนจะแทบไม่มีใครพูดถึงองค์พ่อจตุคามฯ นอกเสียจากผู้ที่กำลังเดินทางเพื่อไปกราบไหว้สักการะ หรือได้พบเห็นวัตถุมงคลของท่านผ่านเข้าตา จึงจะพึงระลึกนึกถึงองค์ท่าน เทพผู้เปี่ยมไปด้วยความเมตตาและอนุเคราะห์ผู้คนทุกหมู่เหล่า ที่เอ่ยปากบนบานร้องขอ

 

        นอกจากวัตถุมงคลของท่านจะจางหายไปจากตู้วัตถุมงคลทั่วไปแล้ว ตามแผงหนังสือพระที่ปรากฏกันจนมากมายในทุกวันนี้ แทบจะไม่มีคอลัมน์ใดมีการเขียนถึงองค์พ่อเทพผู้มีแต่ให้องค์นี้เลย แม้แต่ประสบการณ์ที่เคยมีกันอยู่อย่างดาษดื่นในยุคแห่งกระแสแห่งองค์ท่าน ก็กลับพลันเงียบหายเข้ากลีบเมฆอย่างเสมือนว่าท่านไร้ซึ่งอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์กันแล้วก็ไม่ปาน จนในหมู่นักนิยมสะสมบางท่านถึงกับเคยเอ่ยปากถึงการปลุกกระแสถึงความศรัทธาในองค์ท่าน เพื่อให้กลับคืนมาอีกครั้ง และก็ยังเฝ้าเพียรติดตามกระแสขององค์ท่าน

 

        นายธนเดช รักษ์ชูชีพ สุดยอดแฟนพันธุ์แท้จตุคามรามเทพ รายการแฟนพันธุ์แท้ในปี ๒๐๐๗ หรือ “ธณเดช จตุคามฯ” บอกว่า ในความเงียบงันของวัตถุมงคลสายจตุคามรามเทพ กับปรากฏการณ์คลื่นใต้น้ำที่เซียนพระหรือคนวงในสายจตุคามฯ ต่างก็ทราบกันดีว่า กับราคาวัตถุมงคลในยุคแรกๆ ของศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช เหรียญปิดตาพังพระกาฬ พ.ศ.๒๕๓๐ และ ๒๕๔๓ ที่กำลังค่อยๆทอแสง กับราคาที่ค่อยๆ คืบคลานขึ้นเรื่อยๆ หากเมื่อจะเทียบกับระยะเวลา ๔-๕ ปี ที่ผ่านมา

 

        ณ เวลาต้นปี ๒๕๕๙ ขึ้นมานี้ ใครที่คิดอยากจะครอบครอง เหรียญปิดตาพังพระกาฬ พ.ศ.๒๕๓๐ สวยๆ อาจจะต้องควักกระเป๋าเงินจ่ายอีกเป็นเท่าตัวหรือมากกว่านั้น กับเหรียญเดียวกันกับค่านิยมที่กำลังจะเปลี่ยนไป ส่วนเหรียญเงินที่มีจำนวนสร้างที่น้อยน่าจะอยู่ที่ประมาณ ๒๐๐ เหรียญ ราคาอาจจะต้องจ่ายกันที่มากกว่า ๓ แสนบาทขึ้นไป เพื่อต้อนรับค่านิยมของเหรียญปิดตาพังพระกาฬ พ.ศ. ๒๕๓๐ ที่กำลังกลับมา

 

        สำหรับภาพพระองค์ครูฉบับนี้เป็น “เหรียญปิดตาพังพระกาฬ พ.ศ.๒๕๓๒” ซึ่งเป็นเหรียญมีจารเหรียญนี้ ได้รับการเสกและจารอีกครั้งจากร่างทรงพ่อ เมื่อคราวพิธีไหว้ครู พ.ศ.๒๕๔๓ ตอนเปิดศาล หลักเมืองในความครอบครองของ "นายวุฒิดนัย ฐิตะกสิกร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือเจ้าของฉายาในวงการพระเครื่องว่า “วุฒิ ทีโอที”

 

        ทั้งนี้ “วุฒิ ทีโอที” เปรียบเทียบให้ฟังว่าการเล่นหุ้น การเล่นทองคำ มีกระแสขึ้นลงเป็นรายวันที่เรามิอาจคาดคะเนใดๆ ได้เลย หุ้นหลายตัวมีการปั่นราคาชนิดที่เรียกว่าแมลงเม่าบินเข้ากองไฟให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง มีการเก็งกำไรที่เกินจริง วันนี้ขายได้กำไร พรุ่งนี้อาจจะขาดทุนไม่เป็นท่า ในขณะที่พระเครื่องโดยเฉพาะพระแท้ที่ขึ้นชื่อว่าสวย “ราคาเพิ่มขึ้นตลอด” ที่สำคัญคือ “เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว”

 

        นอกจากนี้แล้ว “วุฒิ ทีโอที” ยังบอกด้วยว่าพระเครื่องยังมีความพิเศษหนึ่งที่หุ้นและทองคำไม่มี คือ พลังและอำนาจของพุทธคุณที่อยู่ในองค์พระ แม้จะเป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ด้วยคำอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่คนที่ศรัทธาเชื่อว่าอำนาจของพุทธคุณที่อยู่ในองค์พระมีอยู่จริง ระหว่างที่รอการขายออกไปเราสามารถพึ่งบารมีของพุทธคุณที่อยู่ในองค์พระมาใช้ได้ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเก็บพระเพื่อเก็งกำไร แต่พอต้องขายจริงๆ ไม่อยากขาย เพราะมีพระแล้วชีวิตดีขึ้นก็มีเห็นอยู่ไม่น้อย