
รวมไร่สับปะรดสู่'แปลงใหญ่'ยกระดับภาคเกษตรที่บ้านคา
รวมไร่สับปะรดสู่'แปลงใหญ่'ยกระดับภาคเกษตรที่บ้านคา : อาหมัด เบ็ญอาหวัง
หลังจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดทิศการพัฒนาภาคการเกษตรด้วยการส่งเสริมการเกษตรให้เป็นแปลงใหญ่และการปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าเกษตรระดับพื้นที่ ในลักษณะที่ให้เกษตรกรกลุ่ม เพื่อวางระบบการผลิตและการบริหารจัดการในแนวทางเดียวกัน เพื่อประหยัดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตนั้น ทำให้สหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตรบ้านคาราชบุรี จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.หนองพันจันทร์ อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ที่มีสมาชิกส่วนใหญ่ปลูกสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของ จ.ราชบุรี นำมาปฏิติบัติพบกว่า ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี
นายจรินทร์ อ่อนน่วม ในฐานะประธานสหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตรบ้านคาราชบุรี จำกัด บอกว่า สับปะรดบ้านคามีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป และถือเป็นของดี จ.ราชบุรี จึงเป็นที่ต้องการของตลาด ส่งผลให้เกษตรกรผลิตไม่ทันความต้องการ จึงพยายามรวมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดในพื้นที่ อ.บ้านคา รวมตัวกันเพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการร่วมกลุ่ม เพื่อให้เป็นพื้นที่แปลงใหญ่ จนสามารถรวมตัวได้ 1,014 ไร่ มีสมาชิกเกษตรแปลงใหญ่จำนวน 82 คน ในจำนวนนี้เป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตบ้านคา ราชบุรี จำกัด เพียงร้อยละ 30 หรือประมาณ 30 คน
ในฐานะประธานสหกรณ์ เขาจึงพยายามรวมกลุ่มผู้ปลูกสับปะรดตามโครงการพื้นที่แปลงใหญ่เพื่อปลูกสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย เพราะถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ และสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่อย่างเป็นกอบเป็นกำ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้มีรายได้ที่มั่นคง และยั่งยืน
หลังจากที่มีการรวมกลุ่ม ได้เป้าหมายที่ตั้งไว้คือ จะจัดตั้งเป็นกลุ่มเกษตรกร และใช้วิธีการบริหารงานในรูปแบบสหกรณ์ที่มีขั้นตอนและกฎระเบียบที่น่าเชื่อถือ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนความรู้ ในการจัดการอบรมให้แก่เกษตรกร ในรูปแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญการรวมกลุ่มดังกล่าวยังมีอำนาจในการต่อรอง อย่างเช่น การกำหนดราคาได้เอง ซึ่งปัจจุบันสับปะรดที่ส่งออกจากไร่มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 18 บาท
นอกจากนี้การรวมตัวเป็นพื้นที่แปลงใหญ่ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหลายๆหน่วยงานมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่งบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจะเป็นปัจจัยการผลิตไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือในการผลิต เครื่องจักร อุปกรณ์ต่างๆ ปุ๋ย ฯลฯ ถือว่าการรวมตัวดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดี เพราะแต่ละหน่วยงานให้ความสำคัญกับโครงการดังกล่าว สำหรับพื้นที่ อ.บ้านคา สามารถปลูกสับปะรดได้ตลอดทั้งปี สามารถทำรายได้ให้เกษตรกรอย่างมั่นคง และยั่งยืน
ด้านพล.อ.ประสาท สุขเกษตร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวระหว่างเดินทางไปตรวจเยี่ยมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดที่ ต.หนองพันจันทร์ อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ก่อนหน้านี้ว่า ใน จ.ราชบุรี มีพื้นที่ปลูกสับปะรดกว่า 1.1 แสนไร่ กระจายอยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ปากท่อ อ.จอมบึง อ.สวนผึ้ง และอ.บ้านคา ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดนโยบายสำคัญในการส่งเสริมการเกษตรให้เป็นแปลงใหญ่และการปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าเกษตรระดับพื้นที่ เพื่อวางระบบการผลิตและการบริหารจัดการในแนวทางเดียวกัน และเพื่อประหยัดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต แต่เกษตรกรยังคงเป็นเจ้าของพื้นที่และทำการผลิตเอง
“โครงการนี้รัฐบาลให้ความสำคัญและมุ่งเน้นในการพัฒนาและยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรในพื้นที่ อ.บ้านคา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตสับปะรดที่มีชื่อเสียง เนื่องจากมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว คือ เนื้อสีเหลืองสวย ละเอียด หนานิ่ม มีรสชาติหวานฉ่ำ ไม่กัดลิ้น มีกลิ่นหอม มีตาค่อนข้างตื้น ทำให้ปอกง่าย สามารถรับประทานได้ทั้งลูก ทั้งเนื้อและแกน ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดผลสดในขณะนี้” เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าว
การรวมตัวของสมาชิกสหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตบ้านคาราชบุรี จำกัด นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของภาคเกษตรกรที่สนองนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะผลักดันเกษตรแปลงใหญ่ โดยหวังที่จะให้การวางระบบการผลิตและการบริหารจัดการในแนวทางเดียวกัน และเพื่อประหยัดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอีกด้วย