ไลฟ์สไตล์

รื่นรมย์ริมทะเลสาบ'ลูกาโน'

รื่นรมย์ริมทะเลสาบ'ลูกาโน'

17 เม.ย. 2559

รื่นรมย์ริมทะเลสาบ'ลูกาโน' : เที่ยวนี้ขอเล่า โดย กาญจนา หงษ์ทอง

               จากลูเซิร์นจุดหมายปลายทางข้างหน้าต่อไปของฉันคือ เมืองลูกาโน เมืองริมทะเลสาบที่เคยเจอกันมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อหลายปีก่อน แต่คราวนั้นดินฟ้าอากาศไม่เป็นใจให้ทำความรู้จักกันเท่าไหร่ จึงได้แต่เห็นลูกาโนในม่านฝนแล้วจากมา

               บอกแล้วว่าเป็นเที่ยวที่การท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย (www.myswitzerland.com) ช่วยประสานงานกับทุกภาคส่วนภายใต้คอนเซ็ปต์ “inlovewithswitzerland” เริ่มจากจัดการให้บินไปตั้งหลักที่ซูริค โดยสายการบินสวิสแอร์ (www.swissair.com) ที่เขามีบินตรงจากกรุงเทพไปซูริคทุกวัน

               กำลังจะวิ่งทะเล่อทะล่าขึ้นรถไฟที่สถานีลูเซิร์น ปรากฏว่ามี 2 สาวจากสวิส ทราเวล ซิสเต็ม(www.swisstravelsystem.com) ที่ช่วยจัดการวางแผนเรื่องการเดินทางในสวิตเซอร์แลนด์ทริปนี้ หล่อนบอกว่าจะนั่งรถไฟไปด้วย เพราะบางเรื่องของเส้นทางสายนี้อยากเล่าให้ฟัง 2 ชั่วโมงกว่าบนรถไฟสายนี้ ไม่น่าเบื่อแน่

               แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ สองสาวผลัดกันเล่าถึงไฮไลท์ของเส้นทางรถไฟสายนี้ว่า ปกตินักเดินทางและชาวสวิสที่สัญจรข้ามเมืองแบบนี้ จะต้องนั่งรถไฟที่ค่อยๆ พาไต่เทือกเขาแอลป์อันสูงชัน แต่ตอนนี้สวิสได้มีการเจาะอุโมงค์และทำรางรถไฟยาว 50 กว่ากิโลเมตร ทำมาหลายปีเต็มทีและใกล้จะเสร็จแล้ว และเตรียมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือน ธ.ค.ของปีนี้

               หลังจากเปิดตัว ต่อไปคนที่สัญจรระหว่าง 2 เมืองนี้ จะประหยัดเวลาได้ 30 นาที แต่ถ้ารถไฟจะวิ่งอยู่ในอุโมงค์ ก็อาจจะอดเห็นวิวสวยๆ สองข้างทาง ระหว่างสองสาวเล่าอยู่ ฉันก็นั่งไม่เป็นสุขเท่าไหร่ เพราะวิวสองข้างทางนั้นสวยและงดงามเกินกว่าจะนั่งนิ่งๆ ได้ บางช่วงผ่านหมู่บ้านเล็กๆที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา บางช่วงมีโบสถ์เก่าแก่ที่ตั้งอย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางเทือกเขาหิมะ บางช่วงอากาศแปรปรวนมากขนาดมีหิมะโปรยปรายลงมาห่มทิวสน งดงามจนลืมเรื่องอุโมงค์ไปเลย

               ดูวิวกันเพลินไปตลอดทาง เผลอประเดี๋ยวเดียวก็มาถึงลูกาโนแล้ว ลูกาโนเป็นเมืองริมชายแดนสวิตเซอร์แลนด์ก็จริง แต่บรรยากาศโดยรวมและอาคารบ้านเรือนจะมีสีสันค่อนไปทางอิตาลีซะมากกว่า ความที่อยู่ติดกับฝั่งอิตาลีมาก ทำให้รับอิทธิพลหลายอย่างมาจากอิตาลี ทั้งเรื่องอาหารการกิน ภาษา และสถาปัตยกรรม

               เป็นเมืองเล็กๆ ที่เที่ยวง่ายจริงๆ แต่สำหรับคนไม่ชอบไต่เขาอาจไม่ชอบที่นี่ก็ได้ เพราะเรือนพักส่วนใหญ่จะเลื้อยไล่ไปบนภูเขา และความที่สถานีรถไฟอยู่บนเนินเขาสูง หากสัมภาระเยอะ ถ้าไม่นั่งรถเมล์ก็ต้องนั่งกระเช้าไฟฟ้าลงมาในเมืองเก่า แต่สำหรับคนไม่มีสัมภาระจะเดินไต่บันไดลงมาเรื่อยๆ ก็ถึง ถนนคาธีดรัล พอดี เพราะเป็นที่ตั้งของวิหารประจำเมือง

               ที่จริงถ้าอยู่บนที่สูงอย่างที่สถานีรถไฟประจำเมือง ก็จะเห็นแล้วว่าตัวเมืองลูกาโนตั้งอยู่ริมทะเลสาบ แถมมีเทือกเขาโอบล้อมไว้รอบด้าน ที่นี่จึงเป็นเมืองจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางนิยมมาพักผ่อนกัน แต่ไม่น่าเชื่อ มีข้อมูลหลายอย่างที่ไม่คิดว่าจะเป็นคุณสมบัติของลูกาโน เช่นว่า นี่คือเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินและการประชุมของสวิส แต่ลูกาโนเป็นแบบนั้นจริงๆ

               จากถนนคาธีดรัลทอดยาวเป็นเนินลงมาสู่เมืองเก่านี่ก็ไม่เป็นอันเดินเหมือนกัน เพราะร้านรวงของข้างทางนี่น่าแวะสิ้นดี

               เมื่อเดินเล่นในเมืองเก่าของลูกาโน ก็พบว่าอาคารร้านรวงในย่านเมืองเก่าค่อนไปทางสไตล์อิตาเลียนซะส่วนใหญ่ สีสันไม่ต้องพูดถึง สดใสไม่เหมือนเมืองในสวิส แต่ฉูดฉาดเหมือนเดินในกรุงโรมอย่างไรอย่างนั้น บางส่วนเป็นตลาดขายผักผลไม้และอาหาร แต่ที่ขาดซะไม่ได้คือร้านขายนาฬิกา ที่ต้องมีไว้ให้ได้ช้อปกันทุกเมือง ส่วนเรื่องแฟชั่นเขาก็ไม่เบาเหมือนกัน ดูจากช็อปต่างๆที่จัดดิสเพลย์ไว้หลังกระจก แสดงว่าสาวๆที่นี่เขาแต่งตัวเก่งใช่ย่อย

               ในเมืองเก่ามีจัตุรัสหลักๆอยู่ 3-4 แห่ง และมีโบสถ์ วิหาร พิพิธภัณฑ์ที่น่าชมหลายแห่ง แต่หากจะมองหาร้านอาหารและคาเฟ่ รอบๆ จัตุรัสประจำเมืองมีให้เลือกมากมาย และล้วนแต่ตั้งเรียงรายอยู่ท่ามกลางหมู่คารเก่าแก่ที่โรยไว้ด้วยสีสัน

               มุมด้านหน้าซิตี้ฮอลล์นี้ ถ้าเป็นช่วงซัมเมอร์นี่เขาบอกมีเทศกาลดนตรีสนุกๆมาเปิดการแสดงทุกปี แต่วันนี้ยังเงียบเหงาอยู่ เพราะฤดูกาลท่องเที่ยวลูกาโนยังเดินทางมาไม่ถึง

               ใครมีเวลามากพอ และมีใจให้พิพิธภัณฑ์เป็นทุนเดิม เชียร์ให้ไปที่ แล็ค( LAC Lugano ) มุมที่มีความสุนทรีย์รอทุกคนอยู่ เพราะนอกจากจะมีงานศิลปะรออยู่ในพิพิธภัณฑ์ให้ไปชมกันแล้ว อีกฝั่งหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ยังเป็นโรงละครที่ถูกออกแบบอย่างดีมาสำหรับการแสดงดนตรีและคอนเสิร์ต มองจากแล็คลงมาจะเห็นเวิ้งอ่าวและทิวเขาที่สวยงาม ด้านหนึ่งคืออาคารที่เก่าแก่แต่คงความน่าดูเอาไว้

               เดินถัดจากแล็คมาแค่นิดเดียวก็เจอโบสถ์ซานตา มาเรียซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของเมือง ที่มองจากด้านนอกเหมือนไม่มีอะไร แต่ด้านในมีภาพเขียนเฟรสโกบนผนังที่งดงามและค่อนข้างสมบูรณ์มากแห่งหนึ่ง

               ออกจากโบสถ์แห่งนี้ หากใครใคร่ช้อปปิ้งให้เดินเลาะเข้าถนนช้อปปิ้งประจำเมืองได้เลย ที่นี่มีทุกแบรนด์ที่คุณอยากได้ หรือจะเลี่ยงไปเดินเลาะเลียบบนทะเลสาบที่ดูสบายๆ ผู้คนมาเดินเล่นกันอย่างไม่กลัวลมหนาว มาถึงมุมนี้ ใครก็อยากลงเรือไปล่องทะเลสาบกันทั้งนั้น ฉันเองก็เลือกทำอย่างนั้น

               ช่วงที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวแบบนี้ เรือมีแค่วันละรอบเท่านั้น พลาดแล้วพลาดเลย แต่เมื่อซัมเมอร์ปรากฏตัวเมื่อไหร่คราวนี้ล่ะ มีเรือวิ่งวันละหลายรอบเลย

               เรือค่อยๆผละออกจากฝั่ง ภาพความงดงามของลูกาโนค่อยๆ คมชัดขึ้นเรื่อยๆ เมืองที่ถูกเทือกเขาหิมะโอบกอดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันมันงดงามอย่างนี้นี่เอง

               ใครจะล่องเรือดื่มด่ำความสุนทรีย์ไปนาน 3-4 ชั่วโมงเลยก็ได้ หรือใครจะแวะลงระหว่างทางก็ได้ เหมือนอย่างฉันมาแล้วก็อยากแวะตามเบี้ยใบ้รายทาง เลยแวะลงดูที่ Swissminiatur (www.swissminiatur.ch ) ซึ่งเป็นเหมือนเมืองจำลองของสวิตเซอร์แลนด์ ภายใน 1 ชั่วโมงทุกคนจะสามารถเที่ยวสวิสได้ครบทั่วทั้งประเทศ เพราะที่นี่ย่อทุกอย่างเอาไว้

               แล้วฉันก็พบว่า ที่ใครๆบอกว่าลูกาโนเป็นเมืองสุนทรีย์ริมทะเลสาบ ทุกอย่างไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย วันนั้นนั่งรถไฟกลับเข้าเมืองลูกาโนอย่างมีความสุขที่อย่างน้อยก็ได้รู้จักอีกหนึ่งเมืองสวยของสวิส