เหรียญอัฏฐะนาคราชยันต์บารมี๓๐ทัศสุดยอดมหายันต์ | คมชัดลึก

 

        พญานาคราช ในพระพุทธศาสนาจารึกไว้มีอยู่ก่อนสมัยพระพุทธเจ้า ดังเช่น หลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสรู้ธรรมพิเศษแล้วเสด็จไปตามเมืองต่างๆ เพื่อแสดงธรรมเทศนา มีคราหนึ่งเสด็จออกจากร่มไม้อธุปปาลนิโครธ ไปยังร่มไม้จิกชื่อ “มุจลินท์” ทรงนั่งเสวยวิมุตติสุขอยู่ ๗ วัน คราวเดียวกันนั้นมีฝนตกพรำๆ ประกอบไปด้วยลมหนาวตลอด ๗ วัน มีพญานาคชื่อ “มุจลินท์” เข้ามาวงด้วยขด ๗ รอบ พร้อมกับแผ่พังพานปกป้องพระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อจะป้องกันฝนตกและลมมิให้ถูกพระวรกาย หลังจากฝนหายแล้วคลายขนดออก แปลงเพศเป็นมานพ มายืนเฝ้าที่เบื้องพระพักตร์ ด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า

 

        ความเชื่อดังกล่าวทำให้ชาวพุทธสร้างพระพุทธรูปปางนาคปรก แต่มักจะสร้างแบบพระนั่งบนตัวพญานาคราช ซึ่งดูเหมือนว่าเอาพญานาคราชเป็นบัลลังก์ เพื่อให้เกิดความสง่างามและทำให้คิดว่า พญานาคราช คือผู้คุ้มครองพระศาสดา

 

        สำหรับภาพพระองค์ครูฉบับนี้เป็น “เหรียญอัฏฐะนาคราช” และ “มหานาคราช ขนาดบูชา” เป็นวัตถุมงคลที่ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม จัดสร้างขึ้นเพื่อนำปัจจัยร่วมสมทบสร้างวิหารหลวงพ่อพูล และสืบสานตำนานพระเวท หลวงพ่อพูล ทั้งนี้ได้ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก อธิษฐานจิตปลุกเสก วันเสาร์ที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๗ ณ สะดือแม่น้ำโขง วัดอาฮงศิลาวาส ต.หอคำ อ.เมือง จ.บึงกาฬ วันอาทิตย์ที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๗ ณ บริเวณบ้านก้นอ่าว อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง

 

        พุทธศิลป์ด้านหน้าเหรียญอัฏฐะนาคราช เป็นมหานาคราช ลายนาคเกี่ยวกระหวัดกัน ๘ หัว แทนอริยมรรค ๘ หมายถึง ศาสนาแห่งสมณโคดมจะคงมั่นยืนยงแผ่ขยายไปทั่วผืนแผ่นดินบนโลกใบนี้

 

        ยันต์ที่จารึกมี ๒ ชุด คือ ๑.ยันต์หัวใจศีล ที่ว่า “พุท ธะ สัง มิ” และ ๒.ยันต์หัวใจพาหุง ที่ว่า “พา มา นา อุ กะ สะ นะ ธุ” เป็นคาถาที่กล่าวถึงชัยชนะ ข ประการของพระพุทธเจ้า ให้สวดภาวนา พระคาถาหัวใจพาหุง ทุกวัน วันละ ๑๐๘ ครั้ง จะประสบแต่ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ ชนะศัตรู และอุปสรรค

 

        ส่วนพุทธศิลป์ด้านหลัง “เหรียญอัฏฐะนาคราช” ตรงกลางจารึก ยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า มี ๒ บท คือ บทที่ ๑ คือ “อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเสพุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิติอิ” บทที่ ๒ คือ “ตะโจพระพุทธเจ้าจงมาเป็นหนัง มังสังพระธรรมเจ้าจงมาเป็นเนื้อ อัฐิพระสังฆเจ้าจงมาเป็นกระดูก ตรีเพชรคงคง อิสวาสุ สุสวาอิ พุทธะปิติอิ”

 

        อุปเท่ห์ของคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า เป็นคาถาครอบจักรวาล คือ ใช้ในการกระทำอะไรทั้งหลายทั้งปวงที่จะเป็นมงคลหรือป้องกันสรรพภัยได้ร้อยแปด ให้สวดคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าทุกคืน คืนละ ๙ จบ อานุภาพของพระคาถา ศัตรูจะพินาศเองเมื่อคิดประทุษร้าย จะเกิดผลในด้านมงคลทุกประการ

 

        รอบนอกจารึกยันต์บารมี ๓๐ ทัศ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า พระสมติงสบารมี เป็นตำราของพระโบราณาจารย์ยุคเก่าตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เป็นสรรพวิชาที่ศักดิ์สิทธิ์สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน โบราณาจารย์จารึกไว้ว่า พระบารมี ๓๐ ทัศ มีอุปเท่ห์ที่ว่า "พุทธคุณครอบจักวาลใช้ดีทุกด้าน" เป็น "สุดยอดมหายันต์” จึงเป็นผลให้พระเกจิอาจารย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เมื่อทำผ้ายันต์มักจะใส่ยันต์บารมี ๓๐ ทัศ ไปด้วยเกือบทุกสำนัก

 

        การใส่ยันต์บารมี ๓๐ ทัศ ลงบนเหรียญนั้น ด้วยเหตุที่ยันต์จำนวนมากและการทำเหรียญในอดีตยังไม่มีเทคนิคที่ทำให้ยันต์คมชัดเช่นปัจจุบัน จึงไม่ค่อยพบยันต์บารมี ๓๐ ทัศ

 

        นอกจากนี้ยังมีวงในยันต์หลักๆ อีก ๓ ตัว คือ หัวใจพุทธคุณ หัวใจธรรมคุณ และหัวใจสังฆคุณที่ขึ้นชื่อว่า “มีพุทธคุณครอบจักรวาล”

 

 

 

--------------------------------------------

 

 

(ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : www.watpailom.org/th-amulets)