
'ตึกแถวรุ่นเก่ากลายพันธุ์'กลายเป็น'ตึกแถวไม่บานแบบ 3 in 1'
09 เม.ย. 2559
ตึกแถวรุ่นเก่ากลายพันธุ์ กลายเป็น ตึกแถวไม่บานแบบ 3 in 1 : คอลัมน์ บ้านไม่บาน โดย.. อาจารย์เชี่ยว
สวัสดีครับแฟนๆ ชาว “บ้านไม่บาน” สาระน่ารู้ในสัปดาห์นี้ ผมจะนำเสนอเกี่ยวกับ “ตึกแถวกลายพันธุ์” ที่ตั้งอยู่บนถนน “จรัญสนิทวงศ์” แต่เดิมบนพื้นที่นี้เป็นตึกแถวรุ่นเก่าที่มีอายุกว่า 30 ปี ซึ่งตกอยู่ในสภาพทรุดโทรมตามกาลเวลา และในปัจจุบันเป็นการใช้พื้นที่ที่ไม่คุ้มค่า เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไปวันดีคืนดีเกิดโครงการรถไฟฟ้าตัดผ่านหน้าอาคารจากเดิมที่เคยเงียบเหงาก็กลับคึกคักครึกครื้นขึ้น เพราะอีกไม่นานเกินรอรถไฟฟ้าก็จะเปิดดำเนินการ ก็เป็นไปตามวัฏจักรครับ จากย่านที่เคยรุ่งเรืองในอดีตก็มาซบเซาแล้วก็กลับฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ เจ้าของตึกแถวท่านนี้เป็นรุ่นลูกครับ เพราะตึกแถวเดิมสร้างขึ้นสมัยรุ่นพ่อ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นจากการมาถึงของโครงข่ายรถไฟฟ้า ผ่าน “ท่าพระ” ย่าน “จรัญสนิทวงศ์” และสถานีรถไฟฟ้าก็อยู่ไม่ไกล และอีกไม่นานคงสร้างแล้วเสร็จ
พอการคมนาคมดีขึ้น สะดวกสบายมากขึ้นความเจริญรอบใหม่ก็หลั่งไหลเข้ามา จึงมีดำริที่จะปรับปรุงซ่อมแซมตึกแถวเก่าความสูง 3 ชั้น จำนวน 4 คูหา แต่พอผมได้ศึกษาลึกลงไปในรายละเอียดก็เลยตัดสินใจว่าการทุบตึกเก่าทิ้งแล้วสร้างตึกใหม่ น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าและประหยัดกว่า เพราะโครงสร้างเดิมของตึกแถวเก่า เป็นโครงสร้างคอนกรีตผสมไม้ เพราะตึกแถวเมื่อ 30 ปีที่แล้วมักจะใช้โครงสร้างแบบนี้ครับ ส่วนใหญ่มักจะเป็นเสาเข็มไม้ฐานรากเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ส่วนโครงสร้างเสาคาน พื้น ในบางส่วนก็จะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ส่วนพื้นในชั้น 2 และ 3 เป็นโครงสร้างไม้ส่วนใหญ่จะใช้ตงไม้ขนาด 2x4 นิ้ว หรือ 2x6 นิ้ว เป็นพื้นไม้เข้าลิ้นครับ
สำหรับบันไดและโครงสร้างบันไดก็เป็นไม้ครับ เหตุผลง่ายๆ ในยุคนั้นคือไม้เป็นวัสดุก่อสร้างที่ราคาไม่แพง หาได้ง่ายและคุณภาพดี รวมทั้งในอดีตยังมีช่างไม้ฝีมือดีอยู่มาก หากเปรียบเทียบกับปัจจุบันไม้ได้กลายเป็นวัสดุก่อสร้างที่ราคาแพงมาก จะหาตงไม้ บันไดไม้ที่มีแม่บันไดทำด้วยไม้ ลูกนอนและลูกตั้งของบันไดเป็นไม้ชิ้นเดียว รวมทั้งพื้นเป็นไม้เข้าลิ้นก็หายากมาก อีกทั้งมีราคาแพงมาก และช่างไม้ในปัจจุบันจะหาช่างที่มีฝีมือดีได้ยากมากครับ
ประกอบกับความต้องการของเจ้าของที่ต้องการให้ตึกแถวชั้น 2 ชั้น 3 ตีทะลุถึงกันทั้งหมด เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เป็น “อพาร์ตเมนต์” หรือ “โฮสเทล” ก็ทำได้ยากมาก ถึงจะทำได้ก็จะไม่คุ้ม เพราะโครงสร้างพื้นเป็นไม้ จะทำห้องน้ำบนพื้นไม้ ถึงทำได้ก็จะมีปัญหาในอนาคต ซึ่งเรื่องนี้หลายท่านอาจจะมองข้าม โดยเฉพาะท่านที่คิดจะดัดแปลงตึกแถวเก่าหรือบ้านเก่าที่เป็นโครงสร้างคอนกรีตผสมไม้ มักจะลืมนึกถึงปัญหาการรั่วซึมและปัญหาเรื่องความชื้นและเชื้อรา เพราะหากใช้งานนานๆ ไป ไม้ที่ได้รับความชื้นก็จะเสื่อมสภาพผุพังไปก่อนเวลาอันควร และปัญหาที่สำคัญ คือ ปัญหาเรื่องปลวก หากมีความชื้น โอกาสที่จะเกิดปลวกนั้นมีสูงมากครับ
จากเหตุและผลที่ผ่านกระบวนการคิดมาหลายรอบ โดยได้ลองทำแบบร่างมาหลายครั้ง ทั้งแบบในการปรับปรุงตึกแถวเก่าและแบบที่รื้อทิ้งสร้างขึ้นใหม่ ได้มีการเปรียบเทียบถึงประโยชน์ใช้สอย เปรียบเทียบถึงราคาค่าใช้จ่าย เปรียบเทียบถึงอายุการใช้งานของอาคารในอนาคต ฯลฯ หลังจากที่คิดรอบคอบทุก “มิติ” แล้ว ผมและเจ้าของอาคารก็ได้บทสรุปที่สามารถฟันธงลงไปว่า สร้างใหม่น่าจะดีกว่า และเหตุผลที่สำคัญอีกประการคือ พิมพ์เขียวของอาคารเก่า เนื่องจากก่อสร้างมานาน 30 กว่าปี ก็ได้สูญหายไป ยิ่งทำให้มืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าขนาดของเหล็กเสริมในเสาคาน คสล.ฐานรากหรือเข็มไม้ที่ใช้มีขนาดเท่าไหร่กันแน่ ทำให้ยากต่อการคำนวณการรับน้ำหนักที่จะต้องเพิ่มขึ้น เมื่อจะทำการปรับปรุงอาคารใหม่
จากประสบการณ์ทำงานมานานกว่า 25 ปีของผม ทำให้ผมเชื่อว่าหากเราใช้เวลาคิดพิจารณาอย่างละเอียดจนครบทุกด้าน เราก็มักจะพบคำตอบสุดท้ายที่เหมาะสมที่สุดเสมอ และคำตอบสุดท้ายคือ ทุบทิ้งสร้างใหม่ดีกว่า ประหยัดกว่า คุ้มค่ากว่า สามารถตอบโจทย์กับสภาพเศรษฐกิจ สังคม ที่เปลี่ยนไปได้ดีกว่า เหมาะสมกว่า ทำให้เกิดเป็น “อาคารพาณิชย์ไม่บาน” + “มินิอพาร์ตเมนต์ไม่บาน” + “มินิโฮสเทลไม่บาน” ที่บริเวณชั้นล่าง 4 คูหา สามารถให้เช่าประกอบกิจการการค้าหรือเป็นอาคารสำนักงานและเป็น “มินิอพาร์ตเมนต์” หรือ “มินิโฮสเทลแบบ 3 in 1” ตั้งบนทำเลดีเยี่ยมที่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย
ส่วนคูหาด้านริมสุดก็เป็นบริเวณโถงต้อนรับ เป็นลักษณะ “มินิล็อบบี้” สำหรับผู้ที่จะเข้ามาพัก “มินิอพาร์ตเมนต์ไม่บาน” หรือ “มินิโฮสเทลไม่บาน” ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ซึ่งรวมกันแล้ว มีห้องพักรวมกันถึง 16 ห้อง ส่วนดาดฟ้าก็จัดเป็นสวนในสไตล์ “Roof Garden” ก็สามารถทำได้ไม่ยากครับ เพราะในปัจจุบันสวนโรยกรวดประดับตกแต่งด้วยไม้หลากพันธุ์น้อยใหญ่ที่ปลูกในกระถาง รวมทั้งสวนในแนวตั้ง “Vertical Garden” ก็เป็นที่นิยมกันในปัจจุบันและมีราคาไม่แพง
นอกจากนี้ ผมยังออกแบบให้พื้นดาดฟ้าในบางส่วนสามารถรองรับน้ำหนักสระว่ายน้ำขนาดเล็ก ถ้าในอนาคตเจ้าของต้องการทำสระว่ายน้ำ ซึ่งในปัจจุบันมีสระว่ายน้ำในแบบสำเร็จรูปที่น้ำหนักเบาสามารถติดตั้งได้ง่ายใช้วัสดุประเภท ไฟเบอร์กลาส สามารถวางได้บนพื้นดาดฟ้า รวมทั้งผมออกแบบอาคารหลังนี้ให้มีลิฟต์โดยสารขนาดเล็ก โดยเตรียมปล่องลิฟต์เอาไว้ส่วนจะติดตั้งลิฟต์หรือไม่ก็แล้วแต่ความพร้อมของเจ้าของครับ วันนี้อาจจะไม่ติดตั้งลิฟต์แต่อีก 10-20 ปีข้างหน้า หากต้องการติดตั้งลิฟต์ก็จะได้มีปล่องลิฟต์ที่เตรียมไว้ นี่แสดงให้เห็นถึง การมองออกไปให้ยาวไกลถึงอนาคต
สาระน่ารู้ของ “บ้านไม่บาน” ซึ่งเป็น “ตึกแถวไม่บานกลายพันธุ์” แบบ “3 in 1” เพื่อรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงของย่าน “จรัญสนิทวงศ์” ที่ครั้งหนึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองแล้วก็ชะลอตัวลงตามสภาพสังคมและเศรษฐกิจ และก็กลับมาเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับการเกิดขึ้นของรถไฟฟ้า ตึกแถวรุ่นเก่าที่มีอายุกว่า 30 ปี ที่ในปัจจุบันได้ถูกปิดทิ้งไว้มานานไม่ได้ใช้ประโยชน์ก็ถูกนำมาใช้ประโยชน์ขึ้นใหม่ จากเดิมที่คิดว่าจะทำการปรับปรุงซ่อมแซม แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สามารถทำได้แต่จะไม่คุ้มครับ ผลก็ออกมาดังที่ท่านเห็นนี้ครับ แต่ที่น่าสนใจคือ ตึกแถวยังคงความเป็นตึกแถวอยู่วันยังค่ำ แต่เป็น “ตึกแถวไม่บานที่กลายพันธุ์” แบบ “3 in 1” สามารถตอบโจทย์ได้ทุกข้อ ก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้วครับ สำหรับท่านผู้อ่านที่มีตึกแถวก็ลองนำเอาแนวคิดนี้ไปปรับประยุกต์ใช้กันดูครับ ก็น่าจะเป็นประโยชน์ พบกับสาระน่ารู้ของ “บ้านไม่บาน” กันได้ใหม่อีกสองสัปดาห์หน้าครับ