ขุมทรัพย์๓ทศวรรษที่สุดแห่งวัตถุมงคลของ'เสี่ยเจ็ด หลักเมือง' | คมชัดลึก

             กบสามขาดูดทรัพย์ (กิมเสี่ยมซู้) เหรียญเทพกวนอู เหรียญเห้งเจียยืน เหรียญเจ้าพ่อเห้งเจียนั่ง เหรียญมังกร รุ่นดวงตราสวรรค์ เป็นวัตถุมงคลที่จัดสร้างโดย นายชลัช ฉัตรบริรัชกูล หรือที่รู้จักกันในนาม “เสี่ยเจ็ด หลักเมือง” ซึ่งในแวดวงนักสะสม “จตุคามรามเทพ” ย่อมรู้จักชื่อของ “เสี่ยเจ็ด” เจ้าของร้านหลักเมือง ได้เป็นอย่างดี ในฐานะนักซื้อจตุคามรามเทพ รุ่นแรกๆ

             โดยเฉพาะ “ตาขุนโหร กู้วิกฤต” ซึ่งในวงการต่างทราบกันว่าเป็นจตุคามรามเทพรุ่นที่ “เสี่ยเจ็ด หลักเมือง” ได้ตั้งใจ ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ รวมถึงกำลังทรัพย์ ด้วยหวังว่าจะสร้างองค์พ่อจตุคามรามเทพ รุ่นที่ดีที่สุดในชีวิต เจตนาเพียงเพื่อแจกให้ผู้มีอุปการคุณ เพื่อนมิตร ในวาระเปิดร้านใหม่ เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๐ โดยมีประชาชนจากทั่วสารทิศกว่าครึ่งหมื่น ที่ได้รับแจกตาขุนโหรพร้อมสูจิบัตรต่างทราบดี ในวันงานทั้งเซียนเล็ก-เซียนใหญ่หลายท่าน รับมือคลื่นมหาชน พี่น้องชาวเมืองนครและศูนย์พระเครื่องได้รับแจกกันทั่วหน้า

             ในการจัดสร้างวัตถุมงคลทุกครั้งสิ่งแรกที่ เสี่ยเจ็ด หลักเมือง ให้ความสำคัญ คือ มวลสาร หรือส่วนผสม ที่ขึ้นชื่อว่าสุดยอดของความศักดิ์สิทธิ์ตามคติความเชื่อของโบราณาจารย์ โดยใช้เวลาเก็บและรวบรวมมากว่า ๓๐ ปี ซึ่งในครั้งแรกที่เก็บนั้น เก็บในฐานะผู้ที่ชอบของที่ขึ้นชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ไม่เคยมีความคิดเรื่องสร้างวัตถุมงคลเลย แต่เมื่อมีโอกาสได้สร้าง และได้ศึกษาตำราการจัดสร้างวัตถุมงคลของโบราณาจารย์ จึงนำของสะสมทั้งหมดมาหล่อหลอมเป็นชนวนมวลสาร

             สำหรับชนวนมวลสารที่เป็นเนื้อโลหะที่ขึ้นชื่อว่าสุดยอดของความหายากนั้น เสี่ยเจ็ด หลักเมือง บอกว่า ต้องยกให้ สายล่อฟ้าที่ถูกฟ้าผ่า หรือตามตำราเรียกว่า วัชระธาตุ โลหะธาตุที่ได้รับพลังจากอสุนีบาต เป็นทนสิทธิ์ตามตำรา คือโลหะที่รับพลังจากอสุนีบาต โลหะสูงเทียมฟ้านำมาหล่อรวมเป็นแท่ง นำเอาพิธีพุทธาภิเษกมาแล้วมากมาย เพื่อความเข้มขลัง ให้มีพลังงานจากฟ้าคอยส่งเสริมนี้คือความตั้งใจให้ทุกเนื้อทุกแบบมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นวัตถุมงคลที่ทรงคุณค่าและมีพลานุภาพให้แก่ผู้ที่ได้บูชา ดังเป็นการรวมฟ้าดินไว้ในองค์พระองค์เดียวก็ว่าได้ รับวัชระธาตุ พลังแห่งฟ้า มวลสารมหามงคลที่สุดของพลัง

             นอกจากนี้แล้วที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมหามงคลคือ ลักทองเก่าส่วนตอนบนพระนลาฏอุณาโลม (หน้าผาก) ของพระพุทธรูปและพระประธานอายุเก่าแก่กว่า ๓๐๐ ปี ครั้งบูรณะเป็นลักทองส่วนสำคัญมหามงคลล้ำเลิศ จากพระประธาน ๑,๖๔๒ องค์ทั่วประเทศ ลักทองโบราณของพระพุทธรูปสำคัญและลักทองส่วนอุณาโลมจากการบูรณะสุดยอดมงคลที่หาได้ยากยิ่ง เวลาท่านไปกราบพระประธานแล้วรู้สึกว่าอยากได้ไว้บูชา ก็ต้องหาองค์จำลอง แต่เราได้นำมวลสารมาจากองค์ท่านเสมือนว่าเราได้บูชาองค์ท่านจริงๆ และได้ผ่านพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์มามากมายนับไม่ถ้วน สิ่งอัปมงคลต่างๆ มิกล้าเข้าใกล้นี้จึงเป็นมวลสารมหามงคลอย่างแท้จริง

             “มีร้อยใส่ร้อย มากกว่าทุกๆ รุ่น ที่เคยจัดสร้างมา บางสิ่งบางอย่างมีความศักดิ์สิทธิ์มากๆ เป็นของเก่าโบราณอายุ ๑๐๐ ปีขึ้นไป เช่น ลักทองปิดองค์พระประธานโบราณ ที่ได้จากการบูรณะ นำมาผสมในการจัดสร้าง กิมเสี่ยมซู้ เหรียญเทพกวนอู เหรียญเห้งเจียยืน เหรียญเจ้าพ่อเห้งเจียนั่ง เหรียญมังกร รุ่นดวงตราสวรรค์ เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้ที่ได้บูชา” เสี่ยเจ็ด หลักเมือง กล่าวยืนยัน

             พร้อมกันนี้ เสี่ยเจ็ด หลักเมือง ยังบอกด้วยว่า การสร้างวัตถุมงคลจะสร้างแบบสุกเอาเผากินเหมือนการผลิตสินค้าไม่ได้ แม้ว่าความศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่สามารถวัดค่าด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ได้เลย ต้องอาศัยมวลสารที่โบราณาจารย์เชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาเป็นส่วนผสม ประกอบกับพิธีกรรมพุทธาภิเษกโดยพระเกจิอาจารย์ที่มีพลังจิตสูงๆ ส่วนรูปแบบของวัตถุมงคลนั้นเป็นไปตามยุคสมัยที่จะออกแบบให้สวยเพียงใดก็ได้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์เลย ดังจะเห็นได้ว่า พระเครื่องและวัตถุมงคลในอดีตไม่ได้มีรูปแบบที่สวย แต่เปี่ยมล้นไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และพุทธคุณ จึงเป็นที่แสวงหามาครบครอง

จุดประสงค์และความตั้งใจ

             เยียวยาสงฆ์ที่อาพาธและเจ็บป่วย เยียวยาพี่ๆ น้องๆ ทหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เยียวยารักษาเด็กเล็ก-พิการ-ซ้ำซ้อน

             เยียวยาถวายวัดพระบาทน้ำพุ (โรคเอดส์) เยียวยารักษาสุนัขหมา-แมวจรจัด รวมกันสร้างบุญใหญ่ด้วยการไถ่ชีวิตโค-กระบือร่วมกันสร้างบุญด้วยการบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามที่เสื่อมโทรมหรือสร้างใหม่

             ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นความตั้งใจของ เสี่ยเจ็ด หลักเมือง และทีมงานที่จะนำรายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุกโครงการ

             อย่างไรก็ตาม แม้วัตถุมงคลชุด "ขุมทรัพย์ ๓ ทศวรรษ ที่สุดแห่งวัตถุมงคลของ เสี่ยเจ็ด หลักเมือง" ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกร่วมทั้งอธิษฐานจิตมาแล้ว โดยพระเกจิร่วมสมัยชื่อดังซึ่งมีหลายรูปที่มาร่วมพิธีได้มรณภาพไปแล้ว เสี่ยเจ็ด หลักเมือง จะจัดให้มีการอธิษฐานจิตพระชุดเทพซ้ำอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจในพุทธคุณของพระเครื่องชุดนี้ โดยจะมีการอธิษฐานจิตเพิ่มอีก ๓ วาระด้วยกัน พร้อมกับนำชื่อผู้จองจารึกลงในสมุดข่อยรวบรวมเป็นเล่ม จากนั้นไปวางไว้บนพระหัตถ์ประธานศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นมหามงคลแก่ผู้จอง

             สำหรับผู้ที่สนใจวัตถุมงคลชุด "ขุมทรัพย์ ๓ ทศวรรษ ที่สุดแห่งวัตถุมงคลของ เสี่ยเจ็ด หลักเมือง" สามารถเข้าชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก “ขุนแผนพรายแม่พิกุล ทีมงานม้าแปดเซียน 168” หรือที่ โทร. ๐๘-๙๔๕๖-๑๑๗๙

เหรียญมังกร รุ่น “ดวงตราสวรรค์”

             มังกรจีนโบราณ เป็นสัตว์แห่งเทพเจ้าเป็นโอรสจุติแห่งสรวงสวรรค์ สัญลักษณ์แห่งฟ้า เป็นตัวแทนแห่งองค์จักรพรรดิ ถือกำเนิดเป็นเทพเจ้าแห่งทิศบูรพา มานานกว่า ๔,๐๐๐ ปี ตามบันทึกตำนานชาวจีน มังกรมีอำนาจอยู่เหนือกว่าสัตว์น้อยใหญ่ทั้งปวง รูปลักษณะส่วนเขาคล้ายกับเขากวาง นัยน์ตาโตดุดัน ลำตัวคล้ายงู มีเกล็ดทั่วบริเวณลำตัว รวมทั้งสิ้น ๑๑๗ เกล็ด ฝ่าเท้าเหมือนพญาอินทรี มีกรงเล็บ ๕ เล็บ

             ทั้งนี้มีคติความเชื่อสืบต่อกันมาว่า ผู้ที่เกิดในนักษัตรอื่นๆ เมื่อถึงช่วงเวลาประสบเคราะห์ หรือดวงปีเกิดชงกับนักษัตรอื่น เมื่อนำเหรียญตรามังกรพกบูชาติดตัวจะช่วยเกื้อกูลจากเหตุร้ายให้กลายเป็นดี สามารถปัดเป่าวิญญาณที่ชั่วร้าย ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวง เคลื่อนย้ายดวงอุปสรรคและเภทภัยอันตรายให้ผ่านพ้นไป ขณะเดียวกันก็จะช่วยหนุนส่งเสริมให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองในการค้าธุรกิจ และการงาน มีผู้คอยให้การอุปถัมภ์ค้ำชู บริวารให้ความเกรงกลัว หมู่คนพาลมิกล้าขวางกั้น เกิดความสมดุลด้านสุขภาพ ร่างกายแข็งแรง

             เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้ผู้ที่มีความรู้สึกหวั่นไหวในภาวะเศรษฐกิจ พ.ศ.๒๕๕๑ ที่หลายฝ่ายลงความเห็นตรงกันว่าปีนี้เศรษฐกิจไม่ดีเลย รวมทั้งเพื่อแก้ดวงของบางคนที่เกิด “ชง” กับราศีปีหนูอีกด้วย เสี่ยเจ็ด หลักเมือง ได้จัดสร้าง เหรียญมังกร รุ่น “ดวงตราสวรรค์” เป็นเหรียญกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๒.๖ ซม. สร้างด้วยเนื้อทองคำ เงิน และเนื้อชนวนคันฉ่องโบราณของจีนหลายสมัย ผสมเป็นเนื้อสัตตโลหะ ชุบสามกษัตริย์ นอกจากนี้ยังมีเนื้อทองแดง และเนื้อผง

             เหรียญมังกร รุ่น “ดวงตราสวรรค์” ประกอบพิธีปลุกเสก ณ วัดภาษี เอกมัย เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ โดยมีพระคณาจารย์ทั้งไทย จีน และศรีลังกา นั่งปรกอธิษฐานจิตตลอดพิธี