ไลฟ์สไตล์

หลวงพ่อมนัส มนฺตชาโตพระเกจิแห่งเมืองจันทบุรี'ของดีต้องลองได้

หลวงพ่อมนัส มนฺตชาโตพระเกจิแห่งเมืองจันทบุรี'ของดีต้องลองได้

28 มี.ค. 2559

หลวงพ่อมนัส มนฺตชาโตพระเกจิแห่งเมืองจันทบุรี'ของดีต้องลองได้' : เรื่องและภาพ ไตเทพ ไกรงู

           หลวงพ่อมนัส มนฺตชาโต หรือ ท่านพ่อมนัส แห่งสำนักกรรมฐานฟื้นฟูจิตเขาแหลม บ้านคลองโปร่ง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี มาอยู่ที่นี่ญาติโยมก็ทำบุญปฏิบัติธรรมได้ง่าย ชาวบ้านอุ่นใจอยู่เย็นเป็นสุขเพราะมีที่พึ่งทางใจ

           หลวงพ่อมนัส มนฺตชาโต ได้มีโอกาส ร่ำเรียนสรรพวิชาต่าง ๆ จากครูบาอาจารย์หลายท่าน รวมแล้วได้เล่าเรียนวิชาจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ถึง ๑๘ ท่านทั้งสองฝั่ง ไทย-ลาว ทั้งธรรมยุต และมหายาน เช่น วิชาธาตุของหลวงปู่สำเร็จลุน นครจำปาศักดิ์ ประเทศลาว จนแตกฉานวิชา เรียนคาถาอาคมจากพระอาจารย์จำรัส เตชะปัญโญ วัดบ้านแห จ.ปราจีนบุรี จากนั้นได้ เรียนวิชาจากพระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม หลวงพ่อผาง พระอาจารย์ประเสริฐ ถิระจิตโต จ.อ่างทอง เรียนวิชาด้านเมตตาค้าขายจากหลวงปู่สาย วัดท่าน้ำแดง จ.ตาก และเรียนวิชาทำน้ำมนต์จากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี เป็นต้น

หลวงพ่อมนัส มนฺตชาโตพระเกจิแห่งเมืองจันทบุรี\'ของดีต้องลองได้

           เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๓ จึงก่อตั้งสำนักกรรมฐานฟื้นฟูจิตเขาแหลม เพื่อแนะนำการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ต่างๆให้กับพระลูกศิษย์ พร้อมช่วยสงเคราะห์ญาติโยม ที่ขัดสน ติดขัดปัญหาต่างๆ ด้วยความเมตตา ทำให้หลวงพ่อมนัส มีลูกศิษย์มากมาย นายทหาร ตำรวจ ข้าราชการ นักธุรกิจ ตลอดจนชาวบ้าน ที่ให้ความเคารพศรัทธา หลวงพ่อมนัส ท่านไม่ถือตัว ท่านมีเมตตาสูงมาก ลูกศิษย์ทุกๆคนต่างรู้ดี หลวงพ่อเป็นขวัญใจชาวบ้าน ขวัญใจคนจน ท่านคอยช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากเสมอมา

           สำนักกรรมฐานฟื้นฟูจิตเขาแหลมนั้น ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาทั่วไปสามารถเข้าไปถือศีล ปฏิบัติธรรมได้ และ ในวันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ทุกๆ ต้นเดือน พ่อท่านมนัสได้เปิดโครงการปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ภาวนาวิชาธาตุ มโนมยิทธิ ตามแบบหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เมื่อพลังจิตดีมีสมาธิ ท่านสอนการเดินปัญญา พิจรณาการ อริยสัจ ๔ ซึ่งเป็นแนวทางของการหลุดพ้นอย่างแท้จริง ท่านพ่อมนัส ได้ธุดงค์วัตมาอยู่ที่นี่ญาติโยมก็ทำบุญปฏิบัติธรรมได้ง่าย ชาวบ้านอุ่นใจอยู่เย็นเป็นสุขเพราะมีที่พึ่งทางใจ

           ในการสร้างและวัตถุมงคลหลวงพ่อมนัสไดปลุกเสกด้วยจิตบริสุทธิ์ ลูกศิษย์ใกล้ชิดรู้กันดีถึงความขลัง และพุทธานุภาพ เด่นดังแทบทุกรุ่น กล่าวถึงวัตถุมงคลของหลวงพ่อนั้น ท่านจะนั่งปรกปลุกเสกแทบทุกคืน วัตถุมงคลขลังสำแดงอิทธิฤทธิ์ มีปาฏิหาริย์บันดาลให้คณะศิษยานุศิษย์และผู้ศรัทธาร่ำรวยและแคล้วคลาดปลอดภัยมาแล้วมากมาย ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดต่างรู้กันดีถึงความเข้มขลัง และพุทธานุภาพ วัตถุมงคลของท่าน ไม่ว่าจะเป็นพระยอดธงที่ขึ้นชื่อ หรือตะกรุด ที่มีประสบการณ์มากมายเล่าสามวันสามคืนก็ไม่จบ

           นอกจากนี้หลวงพ่อมนัส ยังเชี่ยวชาญในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งท่านมีความรู้เกี่ยวกับการแพทย์ สอบได้ใบประกอบโรคศิลปะ สาขาเภสัชกรรมไทย เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘ โดยส่วนตัวแล้วท่านชอบปลีกวิเวกอยู่ตามป่าตามเขา แต่ด้วยความเมตตาของท่าน ท่านจึงปรารถนาจะช่วยคน ท่านใช้ยอดวิชาเดินธาตุ และธาตุกรรมฐาน ๔ และวิชาต่างๆ ที่ร่ำเรียนมาในการสงเคราะห์ญาติโยมทั้งหลาย โดยไม่คำนึงถึงความยากลำบาก หรือเหน็ดเหนื่อยแม้แต่ประการใด ไม่ว่าจะยากดี มี จน อย่างไรท่านไม่เคยสนใจ ขอเพียงมาพึ่งพาท่าน ท่านก็จะสงเคราะห์ญาติโยมทุกรายไป

           พระรักษาคน รักษาป่า รักษาช้าง

           หลวงพ่อมนัส ทำงานเพื่อสังคม สำหรับโครงการนำผู้หลงผิดติดยาเสพติดมาบำบัดโดยการใช้ธรรมะเข้ามากล่อมเกลาจิตใจนั้น เป็นโครงการที่ทางอำเภอแก่งหางแมวร่วมกับท่านพ่อมนัส ซึ่งได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้หลงผิดติดยาเสพติดได้กลับตัวเป็นคนดีของสังคม และไม่คิดที่จะหวนกลับคืนไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก นอกจากนี้เพื่อนำหลักธรรมเข้ามากล่อมเกลาจิตใจเพื่อให้ผู้หลงผิดติดยาเสพติดได้รู้ถึงโทษภัยเมื่อเสียชีวิตไปจะรับผลบาปเป็นอย่างไร และเพื่อให้ผู้หลงผิดติดยาเสพติดตระหนักไม่คิดที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก

           โครงการดังกล่าวนับว่าได้ผลสำเร็จ ผู้หลงผิดที่เคยเข้ารับการบำบัดก็กลับตัวเป็นคนดีของสังคม มีหน้าที่การงานทำที่ดี สังคมยอมรับ และยังเป็นการกระตุ้นเตือนไม่ให้ผู้หลงผิดติดยาเสพติดหวนกับมายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก ซึ่งโครงการดังกล่าวจะใช้เวลาในการบำบัดผู้หลงผิด โดยการอยู่ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ เดินจงกรม เดินป่า และฟังบรรยายธรรม จำนวน ๙ วัน ส่วนใหญ่ผู้ที่มาบำบัดส่วนมากสามารถเลิกได้กว่า ๘๐ เปอร์เซ็นต์

           นอกจากนี้หลวงพ่อก็ยังช่วยรักษาป่าให้อุดมสมบูรณ์มาตลอดสอนชาวบ้านไม่ให้ตัดไม้ทำลายป่า เวลามีช้างลงมาก็นำชาวบ้านช่วยดูแล นำเงินไปซื้อสับปะรด และไปปลูกอ้อยปลูกกล้วยไว้ให้ช้างกินในป่า โดยเฉพาะช่วงนี้มีช้างป่าลงมามากถึง ๕๐-๖๐ ตัว ถ้าไม่ไปดูแลช้างก็จะไปสร้างความเสียหายแก่ไร่นาชาวบ้าน

           จากความสำเร็จของการรักษาป่าและป้องกันช้างไม่ให้ลงมากัดกินพืชไร่ของชาวบ้าน หลวงพ่อมนัส ได้รับรางวัลให้เป็นบุคคลที่ควรยกย่องและเชิดชู ที่ประกอบคุณงามความดีให้แก่สังคมและประเทศชาติ ในโครงการแทนคุณแผ่นดิน ๗๗ ต้นแบบคนดี สู่ ๖๐ ล้านคนทั่วไทย ประจำ พ.ศ.๒๕๕๔ ที่บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดยหนังสือพิมพ์ “คม ชัด ลึก” ได้จัดขึ้นเพื่อยกย่องเชิดชูผู้ที่ประกอบคุณงามความดีให้แก่สังคมและประเทศชาติ ทั้งหลวงพ่อมนัสได้รับคัดเลือกให้เป็นบุคคลผู้ที่ได้รับการยกย่องในสาขาการดูแลช้างป่าโดยตลอดมา

           ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญกับหลวงพ่อมนัส สอบถามข้อมูลได้ที่ โทร.๐๙๘-๒๕๑-๙๗๘๗ ,๐๘๙-๒๒๙-๑๙๑๗,๐๙๐-๑๒๘-๘๒๘๔ และ ๐๘๑-๓๗๖-๗๐๗๒


           ของดีของลองได้

           วัตถุมงคลที่ออกในนามของท่านพ่อมนัสนั้น ท่านจะนั่งปรกปลุกเสกแทบทุกคืน ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดต่างรู้กันดีถึงความเข้มขลัง และพุทธานุภาพ วัตถุมงคลของท่านนั้นเด่นดังแทบทุกรุ่นจนมีคำพูดในหมู่ลูกศิษย์ว่า “ของดีของลองได้” ไม่ว่าจะเป็นพระยอดธงที่ขึ้นชื่อ หรือตะกรุด ที่มีประสบการณ์มากมายเล่าสามวันสามคืนก็ไม่จบ ตัวอย่างเช่น

           ตะกรุดมหารอด ที่มีญาติโยมบูชาแล้วสามารถแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุรถข้ามเกาะกลางถนนแต่ไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีแผลแม้แต่นิดเดียว แต่รถซึ่งเป็นเหล็กกลับเละ จนใครเห็นก็คิดว่าคนขับคงไม่รอดแน่ แต่ตรงข้ามรอยแมวข่วนยังไม่มีเลย หรือตะกรุดพรานพิฆาตที่ท่านทำขึ้นมาเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ทหารใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเมื่อทหารเหล่านั้นได้รับตะกรุดจากหลวงพ่อก็จะพกติดตัวตลอด ปรากฏว่า โดนซุ่มโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว แต่สามารถรอดปลอดภัยมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ บางคนขนาดโดนยิงจนหงายท้องก็ยังลุกขึ้นมาได้โดยไม่เป็นอะไร

           ในขณะที่เหรียญกระทิงดำ ที่มีญาติโยมบูชาไปแขวนไว้ในรถ เมื่อมีคนร้ายจะมาขโมย ก็ปรากฏเห็นแสงและมีกระทิงวิ่งอยู่รอบ จึงทำให้ก่อการโจรกรรมไม่สำเร็จ และปัจจุบันนี้พระสมเด็จทันใจขี่ไก่ ที่รวบรวมสุดยอดมวลสาร ก็กำลังเป็นที่นิยม เพราะเด่นมากในด้านเมตตา โชคลาภ

           อย่างไรก็ตามขณะนี้พ่อท่านมนัสมีโครงการสร้างศาลาปฏิบัติธรรม และปรับปรุงศาสนสถานภายในวัด คณะศิษย์จึงจัดสร้าง “หนุมาน รุ่น มนต์พระกาฬ” โดยเมื่อ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๙ ที่ผ่านมา เปิดจองตอน ๘.๐๐ น. ภายใน ๒ ขั่วโมง หมดทุกเนื้อ เนื้อทองคำสร้าง ๙ ตน ราคา ๕๙,๙๐๐ บาท เนื้อทองแดงเถื่อนสร้าง ๙๙๙ ตน ราคา ๒๙๙ บาท เนื้อฉวน สร้าง ๔๙๙ องค์ ๔๕๐ บาท เนื้อเหล็กน้ำพี่ ตระกรุดทองคำ สร้าง ๑๙๙ ตน ราคา ๑,๘๐๐๐ บาท ส่วนเนื้อเงินตระกรุด ทองคำ สร้าง ๙๙ ตนราคา ๓,๕๐๐ บาท เนื้อนวโลหะสร้าง ๓๓๓ ตน ราคา ๗๐๐ บาท รับของปลายเดือนเมษายน