ไลฟ์สไตล์

2นักวิจัยเกษตรคว้านักวิทย์ดีเด่น

2นักวิจัยเกษตรคว้านักวิทย์ดีเด่น

30 ก.ค. 2552

สองนักวิจัยสาขาการเกษตรจากม.ขอนแก่น - ม.เกษตรฯ ได้รับยกย่องให้เป็นนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นปี 52 จากมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์ฯ เผยผลงานศึกษาปรับปรุงพันธุ์ถั่วลิสงเมล็ดโต เพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์หลังแปรรูป และผลงานยืดอายุกล้วยไม้ในแจกัน หนุนอุตฯไม้ตัดดอกส่งออก

มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น ประจำปี 2552 จำนวน 2 คนจากคณะเกษตรศาสตร์คือ ศ.อารันต์ พัฒโนทัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น และศ.สายชล เกตุษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส่วนรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ 3 คน ได้แก่  ผศ.สุรัตน์ ละภูเขียว สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ผศ.ธรรมนูญ ศรีทะวงศ์ วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี และผศ.อมรชัย อาภรณ์วิชานพ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 ศ.อารันต์ พัฒโนทัย ภาควิชาพืชศาสตร์และทรัพยากรการเกษตร ได้วิจัยปรับปรุงสายพันธุ์ถั่วลิสงมาตลอด 30 ปี โดยเฉพาะพันธุ์ถั่วลิสงชนิดเมล็ดโต ซึ่งมีมูลค่าสูงหลังแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ทั้งยังวิจัยต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงพันธุ์ให้ได้เมล็ดถั่วที่ใหญ่ขึ้น เพิ่มอัตราส่วนของกรดไขมันที่ช่วยลดไขมันในเลือด ลดความเสี่ยงของโรคความดัน โรคหลอดเลือดและโรคหัวใจให้กับผู้บริโภค

 “ทีมวิจัยของเราพัฒนาพันธุ์ถั่วลิสงเมล็ดโตได้เป็นครั้งแรกในไทย โดยการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างถั่วลิสงไทยกับอเมริกา จนได้เป็นพันธุ์ถั่ว มข. 60-3 ซึ่งเผยแพร่ให้เกษตรกรนำไปปลูก รวมทั้งเชื่อมโยงการปลูกและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ ทั้งระดับชุมชนและระดับอุตสาหกรรมให้ทำงานสัมพันธ์กันได้สำเร็จ”ศ.อารันต์ กล่าว
 ถั่วลิสงพันธุ์ มข.60-3 ยังมีข้อด้อยคือ อายุการเก็บเกี่ยวค่อนข้างยาวหรือประมาณ 130 วัน ลำต้นกึ่งเลื้อยและฝักสุกแก่ไม่พร้อมกัน จึงได้ศึกษาและพัฒนาได้เป็นรุ่นถัดมาคือ มข. 60 อายุการเก็บเกี่ยวสั้นลงหรือประมาณ 110 วัน ลำต้นไม่เลื้อย และฝักสุกแก่ใกล้เคียงกัน ขณะนี้ได้เผยแพร่สู่เกษตรกรแล้วเช่นกัน

 “การจะเป็นนักวิจัยที่ดีประสบความสำเร็จ เราจะต้องมีความมุ่งมั่น ใฝ่รู้ กัดติดกับงานวิจัย โดยไม่เปลี่ยนไปทางนู้นทีทางนี้ที รางวัลที่ได้รับดังกล่าวถือเป็นเกียรติและกำลังใจให้ทีมวิจัย มีแรงที่จะสร้างองค์ความรู้ให้ประเทศชาติต่อไป” นักวิทยาศาสตร์ดีเด่นประจำปี 2552 กล่าว 

 ศ.สายชล เกตุษา นักวิทยาศาสตร์ดีเด่นจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศึกษาสรีรวิทยาและเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวของผลิตผลสดพืชสวน มาตั้งแต่ปี 2524 ครอบคลุมทั้งผัก ผลไม้ และไม้ดอกไม้ประดับ เพื่อปรับปรุงผลิตผลหลังการเก็บเกี่ยวให้มีคุณภาพดีและมูลค่าสูง

 ผลงานที่ถือว่าสร้างมูลค่าการส่งออกให้เศรษฐกิจไทยได้มาก คือการพัฒนาสูตรสารละลายเคมี เพื่อใช้ในการปักแจกันและการบรรจุเปียกดอกกล้วยไม้สกุลหวายเพื่อการส่งออก เมื่อดอกกล้วยไม้ถึงปลายทางดอกไม้ยังอยู่ในสภาพสดและคุณภาพดีกว่าการไม่ใช้สารละลาย

 “การศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทราบกลไกการเสื่อมสภาพของผลผลิตหลังเก็บเกี่ยว และสามารถนำองค์ความรู้ไปพัฒนาวิธีป้องกันหรือลดการสูญเสีย จนได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพถึงมือผู้บริโภค และเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้ตลาดส่งออกอย่างมีประสิทธิภาพ”ศ.สายชล กล่าวและว่า เทคโนโลยีที่ลดการสูญเสียหลังการเก็บเกี่ยว และรักษาคุณภาพของผลิตผลสด ให้มีอายุการใช้งานนานขึ้น มีหลายรูปแบบทั้งการควบคุมอุณหภูมิกับเก็บรักษาให้เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิด ตลอดจนออกแบบบรรจุภัณฑ์และการใช้สารเคมี

 ส่วนผลงานของสามนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ดังนี้ ผศ.ธรรมนูญ วิจัยเรื่องการสังเคราะห์และพัฒนาโลหะออกไซด์ ที่มีขนาดผลึกระดับนาโนและมีรูพรุนในช่วงเมโซร์ หรือ 2-50 นาโนเมตร ผศ.อมรชัย ประยุกต์ใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์ปรับปรุงและออกแบบกระบวนการที่ใช้ในอุตสาหกรรม สุดท้าย ผศ.สุรัตน์ ศึกษาเกี่ยวกับเคมีของสารผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ สามารถแยกองค์ประกอบทางเคมีได้กว่า 80 สาร โดยกว่า 20 สารไม่เคยมีการรายงานโครงสร้างมาก่อน

 นักวิทยาศาสตร์ทั้ง 5 คน จะเข้ารับพระราชทานโล่รางวัล จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วันที่  9 ส.ค.นี้ ที่เมืองทองธานี