
บวชสามเณรฯด้วยรักและศรัทธาบรรพชาสืบทอดพระพุทธศาสนา
บวชสามเณรฯด้วยรักและศรัทธาบรรพชาสืบทอดพระพุทธศาสนา
ปัจจุบันเด็กและเยาวชนไทยกำลังประสบปัญหาจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลง เช่น ปัญหายาเสพติด ความรุนแรง ขาดคุณธรรมจริยธรรม ดังนั้นการวางรากฐานที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชนจึงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญระดับประเทศที่ควรเร่งดำเนินการ ส่งเสริมให้เป็นคนดี มีจิตอาสา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละ รวมทั้งส่งเสริมกิจกรรมด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ให้เป็นทางเลือกแห่งการเรียนรู้ เติบโตด้วยร่างกายและจิตใจที่ดีงาม
ปิดเทอมนี้ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ชวนเด็กไทยบวชทำความดีเป็นพุทธบูชา สืบทอดพระพุทธศาสนา ภายใต้โครงการบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสามเณรและบวชศีลจาริณีภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน
“วีระ โรจน์พจนรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน 2559 กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ร่วมกับคณะสงฆ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน นำพสกนิกรชาวไทยร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดี ด้วยการบำเพ็ญความดีถวายเป็นพระราชกุศล ภายใต้โครงการบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสามเณรและบวชศีลจาริณีภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชน ได้รับการศึกษาและฝึกฝนอบรมตนเองตามหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา
รวมถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้เป็นคนดี มีศีลธรรม สามารถนำความรู้ที่ได้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อสามารถรับมือกับปัญหาต่างๆ อันเกิดจากสังคมที่เปลี่ยนแปลงได้ ที่สำคัญยังเป็นการสืบสานประเพณีบรรพชาอุปสมบท ซึ่งได้ถือปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลานาน จนกลายเป็นวิถีชีวิตและประเพณีอันดีงามของไทย
จัดขึ้นทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ส่วนกลางในกรุงเทพมหานคร อาทิ ที่วัดยานนาวา วันที่ 1 เมษายน 2559 มีสามเณรและศีลจาริณีเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 261 รูป/คน วัดคฤหบดี 30 รูป วัดทอง 89 รูป วัดประยุรวงศาวาส 99 รูป วัดระฆังโฆสิตาราม 144 รูป วัดศรีบุญเรือง 89 รูป วัดทองธรรมชาติ 109 รูป วัดบางมดโสธราราม 99 รูป/คน วัดเรืองยศสุทธาราม 88 รูป เป็นต้น ส่วนภูมิภาคจัดโดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัด
ทั้งนี้ จากหนังสือ “ด้วยรักและศรัทธา จากเด็กและเยาวชน” ของกรมการศาสนา ได้ระบุไว้ว่า พุทธศาสนิกชนถือว่า การบรรพชาอุปสมบทเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทิตาต่อบุพการีและผู้มีพระคุณอย่างสูง และได้ถือปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลายาวนาน จนกลายเป็นวิถีชีวิตและประเพณีอันดีงามของชนชาติไทย ผู้ที่เข้าบรรพชาอุปสมบทจะได้รับการศึกษาและฝึกฝนอบรมตนเองตามหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา เป็นการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม เพิ่มพูนสติปัญญา สร้างจิตสำนึกค่านิยมที่ถูกต้อง ให้เป็นคนดีมีศีลธรรม นำไปสู่การพัฒนาสังคมและประเทศชาติให้
การบรรพชาเป็นสามเณรมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ซึ่งพระพุทธองค์ตรัสให้พระสารีบุตรบรรพชาให้แก่สามเณร “ราหุล” ผู้เป็นพุทธบุตร นับเป็นสามเณรองค์แรกในพระพุทธศาสนา และถือเป็นประเพณีนิยมในพระพุทธศาสนาที่สำคัญอย่างหนึ่งที่บิดามารดานำบุตรหลานที่เป็นชายและมีอายุยังไม่ถึงเบญจเพส คือ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าไปรับการบรรพชาเป็นสามเณร
ซึ่งแต่โบราณมานั้น การที่จะได้เล่าเรียนเขียนอ่านตำรับตำรา ต้องอาศัยวัดเป็นสถานที่เล่าเรียน และจำเป็นต้องบรรพชาเป็นสามเณรก่อน จึงจะได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของพระเถระ เพื่อที่จะได้เข้าไปอยู่วัดตามธรรมเนียม ดังนั้น วัดจึงเป็นทั้งบ้าน โรงเรียน และศูนย์ฝึกหัดฝีมือทุกแขนง ส่วนการอุปสมบท การกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะอุปสมบทคือ ต้องเป็นชายมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
การบวชศีลจาริณี คือ การที่สุภาพสตรีปฏิบัติธรรม รักษากาย วาจา ใจ ให้ทำดี พูดดี คิดดี ชำระจิตใจให้แช่มชื่นเบิกบาน ด้วยการรักษาศีล 8 โดยต้องมีความพร้อมทั้งภายนอก คือ การวางภาระความรับผิดชอบหน้าที่การงาน ครอบครัว หมดความห่วง ลดความวิตกอันเป็นอุปสรรคต่อการถือศีล และการพร้อมภายใน คือ สภาพจิตใจควรประกอบด้วยกุศลฉันทะหรือเจตนาอันเป็นมหากุศลเพื่อบำเพ็ญบุญหนุนชีวิตให้พบกับความสงบสุข
ในช่วงปิดเทอมนี้ จึงขอเชิญชวนให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศมาร่วมกิจกรรมบวชทำความดีเป็นพุทธบูชา สืบทอดพระพุทธศาสนา ในโครงการบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสามเณรและบวชศีลจาริณีภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน สอบถามรายละเอียดได้ที่ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม โทร.0-2422-8793 หรือสำนักงานเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัด



