
สำราญบานเย็นที่เซ็นทารา 'มัลดีฟส์'
06 มี.ค. 2559
เที่ยวนี้ขอเล่า : สำราญบานเย็นที่เซ็นทารา 'มัลดีฟส์' : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง [email protected] IG - kan_hongthong
ปกติไป มัลดีฟส์ ทุกครั้ง ฉันจะใช้เวลาแค่ช่วงสั้นๆ 3-4 วัน เที่ยวนี้คงไม่ปกตินัก เพราะหลังจากสำรวจเกาะขุมทรัพย์ที่เกาะมามิกิลี (Maamigili) กันไปแล้ว ฉันก็บินกลับมาตั้งหลักที่เมืองหลวงอย่างมาเล่ด้วยสายการบินมัลดิเวียนอีกรอบ
ย้ำอีกที ว่าสายการบินมัลดิเวียน (0-2615-4381-2) เป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศมัลดีฟส์ที่ตอนนี้มีเที่ยวบินบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปมัลดีฟส์แล้ว อาจจะยังไม่ได้บินทุกวัน แต่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่อยากจะเดินทางไปมัลดีฟส์ที่มีทางเลือกในการบิน ราคาไม่ทำร้ายจิตใจจนเกินไป แค่หมื่นต้นๆ ก็ไปเที่ยวมัลดีฟส์ได้แล้ว
ที่อยู่มัลดีฟส์ต่อเพราะมีภารกิจไปสำรวจรีสอร์ทสุดหรูในเครือเซ็นทารา โฮเท็ล แอนด์ รีสอร์ท (www.centarahotelsresorts.com/th) ต่ออีกหลายวัน
เซ็นทารา มีโรงแรมที่มัลดีฟส์ 2 แห่ง อาจจะอยู่คนละอะทอล แต่ที่เหมือนกันคือทั้ง 2 โรงแรมนั้นเป็นแบบ All inclusive พูดง่ายๆ คือ จ่ายเงินแค่ครั้งเดียวรวมทุกอย่างไว้หมดแล้ว ทั้งค่าเรือ ค่าอาหารทุกมื้อ ค่าเครื่องดื่มทุกอย่าง ค่ากิจกรรมในโรงแรมทุกอย่าง ทั้งไปดำน้ำ ซันเซ็ทครูซ ไปจนถึงสปา นี่เป็นสิ่งที่เซ็นทาราต่างจากโรงแรมอื่น เพราะเป็น All inclusive ที่แม้แต่สปากับสคูบา ไดฟวิ่ง ยังฟรีเลย แต่ถ้าเป็นที่อื่นต้องจ่ายเพิ่ม
ฉันเริ่มต้นด้วยการไปสำรวจที่เซ็นทารา ราส ฟูชิ รีสอร์ท แอนด์ สปา ก่อน เพราะอยู่ห่างจากมาเล่ด้วยเรือสปีดโบ๊ทแค่ 25 นาทีเท่านั้น
รีสอร์ทระดับ 4 ดาวแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะที่เก่าแก่ ที่เหมาะสำหรับคู่รักและคู่ฮันนีมูน เพราะนโยบายเขาชัดเจนมากว่า เป็นโรงแรมสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น
ที่นี่เป็นเกาะเล็กๆ ก็จริง แต่ไม่น่าเชื่อว่ามีห้องหับถึง 140 ห้อง ที่มีให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งแบบวอเตอร์ วิลล่า และโอเชียน บีช ฟรอนท์ วิลล่า
แต่ไม่ว่าใครจะเลือกแบบไหน พอผลักประตูเข้าห้อง ก็จะเจอกับวิลล่าที่โล่งโปร่งสบายด้วยพื้นไม้และผ้าธรรมชาติ มองเห็นทิวทัศน์อันสวยงามของมหาสมุทรอินเดียอย่างชัดเจน
ส่วนเรื่องอาหารการกิน ก็มีทั้งอาหารไทยเสิร์ฟ ห้องอาหารอาหรับก็มี รวมถึงบุฟเฟต์ขนาดใหญ่ มีพูล บาร์ให้เล่นน้ำริมทะเล แต่ที่ฉันชอบที่สุดคงจะเป็น Viu bar ที่มีตาข่ายให้นอนดูพระอาทิตย์ตกสบายๆ
จากเซ็นทารา ราส ฟูชิ รีสอร์ท แอนด์ สปา คราวนี้ฉันกลับไปตั้งหลักที่สนามบินอีกรอบเพื่อมุ่งหน้าไปหาเซ็นทารา แกรนด์ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา รีสอร์ทสุดหรูระดับ 5 ดาวที่อยู่ไกลถึง เซาธ์ อารี อะทอล (South Ari Atoll) จึงต้องนั่งเรือบินน้ำหรือซีเพลนออกไปราวครึ่งชั่วโมง
พูดถึงนั่งเรือบินน้ำในมัลดีฟส์ ทางสายการบินทรานส์ มัลดิเวียน แอร์เวย์ส (www.transmaldivian.com) มีซีเพลนให้บริการตั้งแต่รุ่งเช้าไปยัน 5 โมงเย็นทุกวัน ลำหนึ่งนั่งได้ราว 15 คน กระเป๋าเดินทางรวมกระเป๋าถือขึ้นเครื่องห้ามน้ำหนักเกิน 25 กิโล ดีตรงที่ได้ชมวิวเกาะแก่งตามอะทอลต่างๆ อย่างงดงาม

30 นาทีหลังจากนี้ ฉันแทบไม่กะพริบตาเลย เพราะวิวทิวทัศน์ที่มองจากบนซีเพลนนั้นช่างงดงามเหมือนงานศิลปะ การเคลื่อนไปบนอากาศจึงคล้ายสัญจรไปในอาร์ต แกลเลอรี่ที่งดงามเหลือเกิน
และเมื่อไปถึงเซ็นทารา แกรนด์ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา คราวนี้ล่ะหรรษาเลย แต่ละมุมนี่สวยและสบายจนไม่อยากขยับตัว
บ้านพักที่นี่มี 100 กว่าห้องและมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบห้องสวีทริมชายหาด แบบบีช พูล วิลล่า และวิลล่ากลางน้ำสำหรับครอบครัว แต่สร้างบ้านด้วยหลังคามุงจาก ตกแต่งภายในโดยเน้นแสงที่มีสีสันสดใสช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งสบายและความสะดวกสบายของพื้นที่ใช้สอย
เรื่องห้องพักน่ะไม่เท่าไหร่ แต่มุมอาหารการกินนี่สิ อุดมสมบูรณ์จริงๆ ใครอยากกินอาหารแบบบุฟเฟต์นานาชาติก็ไปที่ห้องอาหารรีฟ อยู่ติดกับสระว่ายน้ำและมองเห็นชายหาดได้ รีฟ ภายใต้หลังคามุงหญ้า เป็นร้านอาหารสุดคลาสสิกของเกาะ ซึ่งมีอาหารสไตล์ตะวันตกและเอเชีย ซุ้มปรุงอาหารสดและโต๊ะเทปันยากิ ช่วยเพิ่มสีสันให้กับความสนุกสนาน มีอาหารมังสวิรัติให้เลือกด้วย
แต่ถ้าใช้ชอบอาหารอิตาเลียน ต้องไปที่อัซซูริ มาเร่ เขามีอาหารอิตาเลียน จานเด่นอย่างพาสต้าและพิซซ่าที่อร่อยมาก ท่ามกลางทัศนียภาพของผืนน้ำทะเลที่พูดเลยว่าโรแมนติกมาก
ส่วนฉันเที่ยวนี้สบายเลย เพราะฝากท้องไว้กับห้องอาหารสวนบัว อาหารไทยพื้นบ้านที่บริการอาหารไทยต้นตำรับด้วยรสชาติจัดจ้าน ไม่ว่าจะเป็นผัดไทย ส้มตำและต้มยำกุ้ง ทุกอย่างจัดมาครบครันของความอร่อย จนไม่คิดว่ามามัลดีฟส์แต่รสชาติแซบๆ จะตามไปถึงที่นั่น
บางทีอิ่มมาก อยากเอกเขนกสบายๆ ฉันก็เดินไปแถวอะควา มุมที่เป็นบาร์สั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มาจิบแล้วอ่านหนังสือ ดื่มด่ำกับฉากที่ดวงตะวันลับขอบฟ้าที่เปลี่ยนสีเปลี่ยนโทนไปทุกวัน
ความจริงถ้าใครอยู่หลายวัน จะเปลี่ยนมู้ดไปนั่งที่คอรัลบาร์แอนด์เลานจ์ก็ได้ ที่นี่มีชิงช้าให้โยกเยกสบายๆ 6 โมงเย็นทุกวันก็มีจะสติงเรย์และฉลามว่ายมารออาหาร พอตกค่ำมีการแสดงโบดูเบรู ดนตรีพื้นเมืองที่มีหนุ่มๆ เป็นทั้งนักดนตรีและแดนเซอร์ เต้นระบำกันอย่างสนุกสนาน
ความจริงฉันก็ไม่ได้ขลุกอยู่แต่ในโรงแรมหรอก เพราะเซ็นทารามีทัวร์พาออกไปดำน้ำดูปะการังและดูฉลามวาฬฟรีๆ รวมถึงมีพาไปเกาะที่ชาวบ้านอยู่ด้วย ฟรีแบบนี้ใครจะขลุกอยู่บนเกาะล่ะ
เรือโดนีลำโตพาแขกเหรื่อออกไปดำน้ำกันทุกวัน ถ้าโชคเข้าข้างก็ได้ว่ายน้ำคลอเคลียกับฉลามวาฬ แต่ถ้าโชคไม่ดี ยังไงก็ยังได้ไปดำน้ำดูปะการังและโลกใต้น้ำที่สวยและงดงามเหลือเกิน
ส่วนเกาะที่ชาวบ้านอยู่ก็น่าสนใจ เพราะมาแล้วคุณจะได้เห็นว่าชาวบ้านที่นี่เขาอยู่กินกันอย่างไร แต่นักท่องเที่ยวหลายคนก็ถูกใจ เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่จะมีสินค้าและของที่ระลึกมาขาย
ไม่ใช่มัลดีฟส์เที่ยวสุดท้ายของฉันแน่ รู้แต่ว่าเที่ยวนี้เป็นเที่ยวที่สุขสำราญบานเย็นกับเซ็นทารา มัลดีฟส์เหลือเกิน
---------------------------
(เที่ยวนี้ขอเล่า : สำราญบานเย็นที่เซ็นทารา 'มัลดีฟส์' : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง [email protected] IG - kan_hongthong)