เหรียญนั่งพานหลวงพ่อรักษ์เจ้าตำรับ'ตะกรุดมหาบารมี๓๐ทัศ' | คมชัดลึก

             “พระครูปลัดสุวัฒนมงคลวรคุณ” หรือที่รู้จักกันในนาม “หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย” เจ้าอาวาสวัดสุทธาวาสวิปัสสนา ต.ลาดบัวหลวง อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา พระเถราจารย์ผู้ศึกษาสรรพวิชาอาคมจากพระเกจิดัง ทั่วสารทิศ และแผ่บารมีสร้างบุญมหากุศลทานบารมีทั่วฟ้าเมืองไทยสมัญญา มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นเจ้าตำรับ “ตะกรุดมหาบารมี ๓๐ ทัศ” ปัจจุบันมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก พุทธศาสนิกชนต่างให้ความเคารพเลื่อมใสทั่วสารทิศ

             หลวงพ่อรักษ์ เป็นทั้งพระนักปฏิบัติและพระนักพัฒนา มีคุณูปการต่อบวรพระพุทธศาสนาและประเทศชาติเป็นอย่างยิ่งรูปหนึ่ง และนอกจากนี้ ท่านยังสร้างบุญ บำเพ็ญบารมีสั่งสมบารมี มุ่งสู่มรรคผลนิพพานเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุด

             ในวาระโอกาสนี้ได้อนุญาตให้คณะศิษย์จัดสร้างเหรียญนั่งพานเต็มองค์ หลวงพ่อรักษ์ รุ่นแรก หลังพระแม่ธรณี ลักษณะพิมพ์ ของเหรียญนั่งพาน

             ด้านหน้ามี “ตราพระธรรมจักร” และพญานาคราช อันเป็นสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนาไว้ ด้านบนมีพระพุทธรูปปางสมาธิ ประทับนั่งเหนือเกศเกล้า โบราณาจารย์เปรียบเสมือน หนึ่งมีความหมายครบ “แก้ว 3 ประการ" คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ถ้าผู้ใดมีเหรียญนี้เพียงเหรียญเดียว จัดว่าครบพระรัตนตรัย ท่านใดหมายจะทำมาค้าขาย ร่ำรวย เงินทอง ตกอยู่โสฬสมงคลไม่อับจน ได้เลื่อนยศ เลื่อนขั้นเป็นเศรษฐี

             ด้านหลังองค์แม่ธรณี พระแม่แห่งแผ่นดินทั่วโลกธาตุ เพราะเป็นผู้ที่มีคุณต่อสรรพชีวิตบนโลกนี้ที่ต้องอาศัยคุณของแม่พระธรณี ในศาสตร์ทางจิตเกือบทั่วทุกมุมโลก ล้วนคำนึงถึงพลังจากปฐพีนี้เสมอมา แม้ในพระพุทธศาสนาที่ว่าด้วยหลักการและเหตุผล ก็ยังกล่าวอ้างถึงดังปรากฏในปฐมสมโพธิญาณ ภาพพุทธประวัติตอนที่แม่พระธรณีบิดพระเกศา เกิดเป็นสมุทรธารา พญามารก็พ่ายแพ้แก่พระบารมีเมื่อครั้งพระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญเพียร เพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านได้ผจญกับเหล่าพวกพญามารทั้งหลาย พญามารออกอุบายต่างๆ นานา เพื่อให้พระพุทธองค์ทรงเกิดกิเลสตัณหา

             แต่พระพุทธองค์ทรงไม่ยินดียินร้ายต่อพวกเหล่ามาร ในครั้งนั้นพระแม่ธรณีทรงแสดงปาฏิหาริย์ ปราบเหล่าพญามาร โดยทรงบีบมวยผมให้น้ำไหลออกมาท่วมพวกพญามารทั้งหลายให้พ่ายแพ้ไป สถานที่ที่พระมหาบุรุษประทับนั่งเพื่อทรงบำเพ็ญเพียรทางใจ แสวงหาทางตรัสรู้ ซึ่งอยู่ที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น เรียกว่า “โพธิบังลังก์ ” พระยามารกล่าวตู่ว่า เป็นสมบัติของตน ส่วนพระมหาบุรุษทรงกล่าวแก้ว่า บังเกิดขึ้นด้วยผลแห่งบุญบารมีที่พระองค์ทรงบำเพ็ญมาแต่ชาติปางก่อน แล้วทรงอ้างพระนางธรณีเป็นพยาน

             เหรียญนั่งพานรุ่นนี้ “หลวงพ่อรักษ์” วัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อมอบเป็นปัจจัยในการจัดสร้างที่ดินจำนวน ๑๐ ไร่ เพื่อถวายวัดสุทธาวาสวิปัสสนา พุทธมณฑล จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้าง ศาลาปฏิบัติธรรมให้แก่พุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาถือศีลปฏิบัติธรรม เป็นประจำทุกเดือนที่วัดสุทธาวาสวิปัสสนาแห่งนี้

             วัตถุมงคลของหลวงพ่อรักษ์ ส่วนมากท่านมักจะปลุกเสกของท่านด้วยพุทธาคมที่ท่านร่ำเรียนมาอย่างเต็มพลัง ทั้งนี้ หลวงพ่อรักษ์กล่าวย้ำเสมอว่า “การทำวัตถุมงคลต้องตั้งใจทำ ให้ผู้นำไปใช้ได้รับพุทธคุณครอบจักรวาล วัตถุมงคลทำไว้มอบให้ญาติโยมที่บริจาคสมทบทุนสร้างวัดไม่ได้ทำเพื่อซื้อขาย เป็นที่ระลึกว่าใครได้ไปสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร สร้างถาวรวัตถุ ถวายไว้ในพระพุทธศาสนามาเท่านั้น”

             ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญได้ที่วัดสุทธาวาส โทร.๐๘-๙๖๙๘-๗๐๕๐ และ ๐๙-๓๒๔๙-๕๑๙๖ หรือเข้าชมได้ที่ www.watsuthawasvi.com และ www.luangporrak.com

พุทธมณฑลประจำจังหวัดอยุธยา

             พุทธมณฑล จ.พระนครศรีอยุธยา จัดสร้างขึ้นโดยความเห็นชอบของ เจ้าคณะจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา และผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีมติเห็นชอบร่วมกันให้หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย เป็นประธานดำเนินการสร้างพุทธมณฑล จ.พระนครศรีอยุธยา วัตถุประสงค์เพื่อให้พุทธศาสนิกชนมีสถานที่เป็นศูนย์รวมในการประกอบ พิธีสำคัญทางพระพุทธศาสนา

             ปัจจุบัน หลวงพ่อรักษ์ จัดกิจกรรมส่งเสริมการปฏิบัติธรรมขึ้นเพื่อเป็นการสนองงานคณะสงฆ์ด้านวิปัสสนาธุระโดยตรงมาตลอดระยะเวลา เพื่อเป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เจริญมั่นคงถาวรสืบไป อีกทั้งยังถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ทุกพระองค์

             สำหรับความคืบหน้าของการก่อสร้างพุทธมณฑล จ.พระนครศรีอยุธยา และสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดนั้น หลวงพ่อรักษ์ บอกว่า มีความคืบหน้าตามลำดับไม่ว่าจะเป็นส่วนของการก่อสร้างเสนาสนะ การปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เหมาะสมกับเป็นสถานปฏิบัติธรรม ซึ่งทุกครั้งที่วัดจัดงานบุญไม่ว่าจะเป็นพิธีเป่ายันต์มหาบารมี ๓๐ ทัศ งานบุญหล่อพระ งานพุทธาภิเษกวัตถุมงคล เมื่อนิมนต์พระผู้ใหญ่มาเป็นประธานในพิธีก็จะให้ท่านปลูกต้นไม้เพื่อความเป็นสิริมคลแก่วัดและความร่มรื่นที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ปฏิบัติธรรมแนวสติปัฏฐาน ๔ ตลอดปี

             “ให้รางวัลกับชีวิตตามอัธยาศัย ไม่มีอะไรดีเกินธรรมะ คนเราเกิดมาเพื่อสร้างบุญบารมี บุญที่ทำบ่อยๆ นั่นแหละจะกลายเป็นบารมี ท่านทั้งหลายจะอยู่ในโลกนี้อย่างไร แบบทางโลกก็ไม่ช้ำทางธรรมก็ไม่ขุ่น อาทิตย์หนึ่งมี ๗ วัน ท่านทั้งหลายทำงานเลี้ยงครอบครัวไปเสีย ๖ วัน ส่วนอีกวันหนึ่งให้ท่านทำบุญปฏิบัติธรรม” นี่เป็นคำสอนของหลวงพ่อรักษ์

             ในแต่ละเดือนวัดได้กำหนดตารางการปฏิบัติธรรมหลักสูตร ๒ คืน ๓ วัน ทั้งนี้ ไม่ต้องสมัครล่วงหน้า ไม่ต้องมาตามโปรแกรมก็ได้ ส่วนผู้ที่มีวันว่างไม่ตรงกับตารางดังกล่าวใครสะดวกวันไหนยังไง ไปได้เลย สิ่งที่ต้องเตรียมไป ๑.ชุดขาว ๒.ของใช้ส่วนตัว สบู่ ยาสระผม ยาสีฟัน แปรงสีฟัน หมอน ผ้าห่ม (หมอน ผ้าห่ม ที่วัดมีแต่ส่วนใหญ่เอามากันเอง) ๓.ยารักษาโรคประจำตัว กิจกรรมในช่วงบวช ๑.สวดมนต์ ๒.นั่งสมาธิ ๓.เดินจงกรม ๔.ใส่บาตร และถวายสังฆทาน ตอนเช้า (ทางวัดเตรียมไว้ให้) อาหารทางวัดจัดให้ทุกมื้อ

             หลวงพ่อรักษ์ บอกว่า อานิสงส์การฝึกกรรมฐานปฏิบัติธรรมและบวชชีพรามณ์นั้น ได้บุญและอานิสงส์หลายอย่าง คือ ๑.หน้าที่การงานจะเจริญรุ่งเรือง ได้ลาภ ยศ สรรเสริญตามปรารถนา ๒.เจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิกรรม หนี้กรรมในอดีตจะคลี่คลาย ๓.สุขภาพแข็งแรง สติปัญญาแจ่มใส ปัญหาชีวิตคลี่คลาย ๔.เป็นปัจจัยสู่พระนิพพานในภพต่อๆ ไป ๕.สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง โพยภัยอันตรายผ่อนหนักเป็นเบา

             ๖.จิตใจสงบ ปล่อยวางได้ง่าย มองเห็นสัจธรรมแห่งชีวิต ๗.เป็นที่รักที่เมตตามหานิยมของมวลมนุษย์มวลสัตว์และเหล่าเทวดา ๘.ทำมาค้าขึ้น ไม่อับจน การเงินไม่ขาดสายไม่ขาดมือ ๙.โรคภัยของตนเอง ของพ่อแม่ และของคนใกล้ชิดจะเบาบางและรักษาหาย และ ๑๐.ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ได้เต็มที่สำหรับผู้ที่บวชไม่ได้เพราะติดภารกิจต่างๆ ก็สามารถได้รับอานิสงส์เหล่านี้ได้ด้วยการสร้างคนให้ได้บวชสนับสนุนส่งเสริมอาสาการให้คนได้บวช

             “จะบวชเช้าสึกเย็นก็ได้ อยู่ ๑ คืน ๒ คืน ได้บุญเหมือนกัน ตามช่วงที่ปฏิบัติทางวัดอยากให้ทุกท่านหาเวลามาอยู่บวช มากน้อยตามสะดวก แค่ท่านมาปฏิบัติแล้วกลับไปอย่างสุขใจ ปีติ ถึงเวลาจะสั้นตามสะดวกของแต่ละคน บุญที่เกิดขึ้นนั้นมากมายจริงๆ” หลวงพ่อรักษ์กล่าว