
ชิค & ชิล : นครวัด มรดกโลกแต่บรรพกาล
28 ก.พ. 2559
ชิค & ชิล : นครวัด มรดกโลกแต่บรรพกาล : โดย...รมยกร
ปราสาทหินนครวัด ตั้งอยู่ใน เมืองเสียมเรียบ เป็นมรดกและสิ่งมหัศจรรย์ระดับโลก หนึ่งในเจ็ดยุคโบราณที่ยังคงเอกลักษณ์ความงดงาม ยิ่งใหญ่ไม่เสื่อมคลาย เป็นมรดกที่บรรพบุรุษชาวกัมพูชามอบไว้ให้
นับแต่โบราณกาลเป็นพันปี นครวัดเป็นโบราณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีแต่เฉพาะพระมหากษัตริย์เท่านั้นที่เสด็จนครวัดพร้อมกับพราหมณ์ระดับสูงผู้ประกอบพิธีเท่านั้น
แต่วันนี้ นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลั่งไหลมาชื่นชมโบราณสถานที่ยิ่งใหญ่ไม่ขาดสาย จากแรกเริ่มที่มีชาวตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ที่มาเยือน จนกลายเป็นเมืองที่ใช้แต่ “สกุลดอลลาร์” วันนี้เศรษฐกิจตกต่ำในยุโรปและอเมริกา จึงได้พบเห็นนักท่องเที่ยวจากเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน ตามมาด้วยนักท่องเที่ยวเกาหลี และไทย
แม้ว่าจะร้อนและร้อนมาก ผลจากการท่องเที่ยวมากขึ้น การลงทุนด้านโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร รองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ทำให้ที่ดินในเสียมเรียบ เมืองนครวัด มีราคาสูงขึ้นตามอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่ขายกันเป็นตารางเมตรในราคาที่สูงลิ่ว
แต่ละวัน มีผู้เข้าชมปราสาทนครวัดมาก และเนื่องจากอยู่ที่ในโล่ง จึงต้องเตรียมอุปกรณ์ป้องกันแดดโดยเฉพาะหมวก ร่ม และให้เท่ต้องหมวกใบตาลฝีมือชาวเขมรนี่เอง
และเพื่ออำนวยความสะดวกในการชมปราสาท ต้องมาถ่ายภาพทำบัตรเข้าชมได้ทุกแห่งมีทั้งบัตร 1 วัน 3 วัน และ 7 วันหรือมากกว่า ก่อนที่จะเดินทางไปชมมรดกโลกทั้งนครวัด นครธม และปราสาทตาพรหม
เมื่อมีโอกาสไปเยือนอังกอร์ “นครวัด” จุดมุ่งหมายคราวนี้ ก็คือการไปค้นหา “กองทัพสยาม” ที่ "ระเบียงชั้นนอกด้านทิศใต้ ปีกตะวันตกของนครวัด” ที่ปรากฏเรื่องของชาวสยาม เป็นจารึกประกอบภาพจำหลักนูนต่ำในกลางพุทธศตวรรษที่ 17 หรือประมาณพันปีที่แล้ว ก่อนเกิดอาณาจักรสุโขทัย อยุธยาและรัตนโกสินทร์ หรืออาณาจักรสยามในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
เรื่องราวของขบวนทัพของกษัตรย์ขอมโบราณ พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 (หรือพระเจ้าสุริยวรรมันที่ 2) ที่ยกทัพไปรบกับอาณาจักรจาม แถบเวียดนามกลางในปัจจุบัน โดยมีกองทัพจากเมืองต่างๆ ส่งไปร่วมรบ และหนึ่งในกองทหารที่ร่วมกระบวนรบนั้น ที่สำคัญ มีอักษรจารึกว่า “นี่ เสียม กุก” แต่วันนี้ อักษรขอมโบราณที่จารึกไว้ ถูกลบเลือนไปเสียแล้วและต้องตีความกัน
ภาพสลักที่ “ระเบียงประวัติศาสตร์” นี้ กองทัพของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ของเสียมกุกแล้ว ยังกองรบของชาวละโว้ตามหลังมาติดๆ จารึกไว้ชัดเจนว่า “พลละโว้” หรือกองทัพจากเมืองลพบุรีนี่เอง
ในหนังสือ “ความเป็นมาของคำสยาม ไทย ลาว และขอม และลักษณะทางสังคมของชื่นชนชาติ” โดยจิตร ภูมิศักดิ์ (หน้า 103) ได้ระบุว่า “เซียม” กับ “หลอหู” อยู่ใต้เชียงใหม่ลงมา เซียมนั้นอยู่ติดกับประเทศปาไป่ซีฟู ที่ชาวเมืองเรียกชื่อประเทศตัวเองว่า จิ่งไม่ หรือเชียงใหม่

ประเทศเซียมนี้ คือที่ไหน ถูกระบุว่ามีที่ดินไม่อุดมสมบูรณ์ ปลูกข้าวไม่ได้ผล ต้องอาศัยพึ่งพิงหลอหูหรือลพบุรีในทางเศรษฐกิจ
“หลอหู” อยู่ติดทะเลทางทิศใต้ เป็นอ่าวใหญ่ มีแม่น้ำสายหนึ่งไหลผ่านเซียนลงไปถึงหลอหู ในฤดูร้อนมีน้ำไหลท้นจากอ่าวขุ่นเป็นสีโคลน น้ำจะไหลท้นเข้าคลองทั่วพื้นที่ จึงทำนาได้ผลดี ข้าวราคาถูก นั่นคงหมายถึง ลุ่มน้ำเจ้าพระยานั่นเอง
ต่อมา เซียนได้เข้ารวมกับหลอหูเป็นประเทศเดียวในระหว่าง พ.ศ.1890-1910 ทางจีนจึงเรียกประเทศนี้ โดยรวมนามเข้าด้วยกันเป็น “เซียมหลอ” ที่ยังคงเป็นชื่อที่ชาวจีนเรียกและรู้จักประเทศไทยมาจนถึงทุกวันนี้
(ตามจดหมายเหตุของจีน เซียมหมายถึงอาณาจักรสุโขทัยและหลอหู คือ อาณาจักรศรีอยุธยาแรกตั้ง ซึ่งจีนเรียก หลอหู ตามชื่อของแคว้นละโว้หรือลพบุรีที่จีนเคยรู้จักดีมาแล้ว)
ในจารึกจาม มีการกล่าวถึงกองทัพสยามกับพุกาม เข้าร่วมกับกองทัพเขมรไปทำสงครามกับจำปา หรือจาม และตามศิลาจารึกของจาม ปรากฏชื่อชาวสยาม ในศตวรรษที่ 16-17 ซึ่งเข้าใจว่า ชาวสยามเหล่านี้ ต้องมาทำสงครามกับจาม ภายใต้คำบัญชาของเขมร เรื่องนี้เห็นจะมีเค้าว่า เป็นความจริงอยู่ทีเดียว
ในระหว่างที่ชมขบวนทัพระเบียงนครวัดนั้น เคยได้ยินเสียงบอกเล่ากันต่อๆ มาว่า ทัพของเซียมและละโว้นั้นให้สังเกตง่ายๆ ว่า ทหารที่ร่วมทัพซึ่งปกติจะหันหน้าไปทางเดียวกัน แต่เมื่อถึงทัพนี้ ภาพสลักทหารจะหันหน้ามาคุยกัน หยอกล้อกัน ไม่หันหน้าไปทางเดียวกันอย่างเป็นระเบียบ
นี่เป็นจุดหนึ่งที่มีคุณค่ายิ่งสำหรับการท่องเที่ยวปราสาทนครวัดอันยิ่งใหญ่ของชาวขอมโบราณที่ทิ้งไว้ให้เป็นมรดกของชาวโลก
ดัชนีการพัฒนา ที่เห็นได้ชัดว่า กัมพูชามีฐานะเศรษฐกิจดีขึ้น ก็คือวันนี้ บริเวณนครวัดไม่มีเด็กและคนขอทานยากจนอีก และทหารที่พิการจากสงครามความขัดแย้ง ก็เห็นไม่มาก แตกต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง
นอกจากนี้ สนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของเมืองเสียมเรียบ ก็มีการพัฒนาออกแบบสวยงามและทันสมัย เพิ่งสร้างเสร็จและเปิดให้บริการแล้ว แตกต่างจากสนามบินเดิมมาก มีเที่ยวบินตรงไปยังต่างประเทศโดยตรง ไม่ต้องผ่านกรุงเทพ มีทั้งเที่ยวบินไปสิงคโปร์ โฮจิมินห์ของเวียดนาม กวางโจวของจีน และกรุงเทพฯ
การมีเที่ยวบินมากแสดงว่า มีผู้นิยมเดินทางทั้งท่องเที่ยวและการลงทุนธุรกิจ เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมมาก ที่สนามบินมีร้านขายสินค้าปลอดภาษีที่ทันสมัย และช่องทางประตูขึ้นเครื่องถึง 6 ช่องทาง
เมืองเสียมเรียบกำลังขยายตัวเติบโตอย่างคึกคัก เพื่อพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น ทั้งจากกลุ่มอาเซียนและจากทั่วโลก ในอีกไม่นาน
-------------------------
(ชิค & ชิล : นครวัด มรดกโลกแต่บรรพกาล : โดย...รมยกร)