
'เคบับ' สูตรเฉพาะจากตุรกี ฝีมือคนไทยถูกปากคนกิน
26 ก.พ. 2559
ทำมาหากิน : 'เคบับ' สูตรเฉพาะจากตุรกี ฝีมือคนไทยถูกปากคนกิน : โดย...ดลมนัส กาเจ
จากความยากลำบากในการใช้ชีวิตในสังคมชนบท ที่ต้องอยู่กับท้องไร่ท้องนา ทำให้ สมหมาย มุ่งโป่ง ออกจากบ้านเกิดที่ ต.สระประดู่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ มุ่งหน้าสู่เมืองกรุง เมื่อครั้งอายุเพียง 15 ปี หวังว่าชีวิตน่าจะดีขึ้น จนวันเวลาผ่านไป เปลี่ยนอาชีพหลายอย่าง คำตอบสุดท้าย ยึดทำเลทองย่านห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ใกล้สถานทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ขาย “เคบับ” หลังจากได้สูตรจากชาวตุรกีเมื่อ 5 ปีก่อน จนสามารถสร้างรายได้วันละถึง 7,000 บาท
สมหมาย บอกว่า เข้ากรุงเทพฯ เมื่อปี 2521 อายุเพียง 15 ปี แต่ด้วยความรู้จบภาคบังคับเพียงชั้นประถมปีที่ 4 (ป.4) จึงไม่มีโอกาสที่จะเลือกงานได้ ต้องเข้าทำงานในภาคก่อสร้าง ทำหน้าที่เป็นคนตอกปั้นจั่นเสาเข็ม เปลี่ยนมาเป็นหนุ่มโรงงานผลิตถังแก๊ส ย่านบางโพธิ์ ทำได้ปีเดียวออกมาทำเฟอร์นิเจอร์ย่านบางรัก พัฒนาฝีมือจนเป็นช่าง และหัวหน้างานในเวลาต่อมา
“ตอนนั้นผมเริ่มเข้าสู่วัยหนุ่ม อายุ 20 ปีต้นๆ เริ่มมีเพื่อนมากขึ้น พอดีรู้จักคนขับสามล้อเครื่องย่านประตูน้ำคนหนึ่ง มีรายได้ดี ชวนผมไปเช่ารถสามล้อเครื่อง ปรากฏว่ารายได้ดีครับ ตกวันละ 500 บาท แต่เพื่อนเก่งภาษาอังกฤษ พาฝรั่งไปเที่ยวได้เงินดีกว่า ผมตัดสินใจซื้อหนังสือภาษาอังกฤษ 75 ชั่วโมง ท่องทุกวัน วันละ 7 คำ ใช้เวลาเป็นปี พอพูดภาษาอังกฤษได้บ้างเริ่มพาฝรั่งไปเที่ยว ทำให้รายได้ดีขึ้น แต่เงินได้มาก็ไม่เหลือเพราะเที่ยวทุกคืน” สมหมาย ย้อนอดีต
ขณะที่สมหมายเพลิดเพลินกับงานขับสามล้อรับจ้าง พี่ชายไปสัมปทานป่าไม้ฝั่งประเทศกัมพูชา ขอให้ไปช่วย แต่วงการทำไม้สมหมายพบว่ามีแต่เล่ห์เหลี่ยม หักหลังจนชีวิตเกือบกลายจะเป็นฆาตกร เขาจึงอำลาวงการทำไม้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ บวชได้ 4 พรรษา สึกออกมา กลับไปขับสามล้อเครื่องอีกครั้ง จนดวงชะตาบรรจบพบแม่ม่ายขายลูกชิ้นย่านห้างสรรพสินค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า เขาจึงวางมือจากคนขับสามล้อเครื่องมาเป็นพ่อค้าขายซูชิ อยู่ใกล้กัน
ครั้งหนึ่งห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่าจัดมหกรรมอาหาร มีชาวตุรกีออกบูธขายเคบับ ซึ่งเป็นอาหารของชาวเปอร์เซีย มีลูกค้ายืนต่อคิวยาวมาก สมหมายแอบนึกในใจว่าจะทำอย่างที่จะได้สูตรเคบับมาขายบ้าง จนงานจบเขาจึงไปติดต่อกับชาวตุรีเพื่อขอสูตรมา และซื้ออุปกรณ์ทำเคบับ สุดท้ายชาวตุรกีเสนอให้หุ้นกัน เพราะสมหมายมีที่ ชาวตุรกีมีอุปกรณ์ ลงทุนเท่ากันกำไรแบ่งครึ่ง ปรากฏว่าขายได้วันละ 7,000-8,000 บาท เคบับไก่ราคา 50 บาท เคบับเนื้อ 70 บาท
การร่วมหุ้นได้ไม่นานชาวตุรกีห่วงสูตรทุกอย่าง ห้ามจับมีดแล่เนื้อ ทำให้สมหมายต้องแอบจำ จนวันหนึ่งถึงจุดแตกหัก ชาวตุรกีถอนหุ้น ยอมขายอุปกรณ์ให้ในราคา 6 หมื่นบาท แต่ไม่ยอมขายแป้งให้ จนเขาไปพบว่าที่ห้างฟู้ดแลนด์มีแป้งชนิดเดียวกัน เขาจึงกลับมาทดลองทำแป้งเองและสามารถขายได้ปกติ
“การทำเคบับจะอร่อยหรือไม่ขึ้นอยู่กับแป้ง นุ่มหรือไม่ เนื้อและไก่ต้องหมักให้ได้ที่จึงจะนุ่ม การหันไฟต้องสม่ำเสมอ ผักต้องสด ดูภาพรวมมันง่าย แต่พอลงมือจริงไม่ง่าย ผมแอบมองชาวตุรกีทำหลายเดือน แล้วมาปรับปรุงสูตรให้ถูกปากคนไทยและชาวอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นลูกค้าประจำเพราะอยู่ใกล้สถานทูตอินโดฯ ตอนหลังเปลี่ยนแป้งใหม่ เพื่อนำเข้าจากตุรกีโดยตรง ทำมาสำเร็จรูป เราปรุวเฉพาะเครื่อง แล้วมาม้วน ขายได้เลย” สมหมายกล่าว
แม้ช่วงแรกลูกค้าอาจหายไปบ้าง แต่วันนี้ลูกค้ากลับมาเหมือนเดิมมีลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ สามารถขายได้วันละอย่างน้อย 6,000-7,000 บาท หักต้นทุนแล้วสามารถอยู่ได้อย่างสบาย จากชีวิตเริ่มที่ศูนย์ แต่วันนี้ขายเคบับได้เพียง 5 ปี เขามีทุกอย่างทั้งบ้านและรถที่ไม่น้อยหน้าใครในสังคมนี้
-----------------------
(ทำมาหากิน : 'เคบับ' สูตรเฉพาะจากตุรกี ฝีมือคนไทยถูกปากคนกิน : โดย...ดลมนัส กาเจ)