ไลฟ์สไตล์

คดีรถจดประกอบ เส้นทางธรรมที่ยังไม่จบ

คดีรถจดประกอบ เส้นทางธรรมที่ยังไม่จบ

19 ก.พ. 2559

คดีรถจดประกอบ เส้นทางธรรมที่ยังไม่จบ : โดย...สรารัตน์ รัตนสุวรรณ

 
                      การสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 เป็นครั้งแรกที่ใช้กฎหมายคณะสงฆ์ ปี 2505 ฉบับแก้ไข ปี 2535 กระบวนการที่เป็นหัวใจสำคัญ คือยึดอาวุโสโดยสมณศักดิ์
 
                      สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ อาวุโสโดยสมณศักดิ์ จึงได้รับการเสนอชื่อให้เป็นสมเด็จพระสังฆราช เกิดกระแสเรื่องความไม่เหมาะสม “พระสะสมวัตถุ” “ครอบครองรถหรูผิดกฎหมาย”
 
                      รอยมลทินที่ทำให้สมเด็จช่วง คือ “ปัญหาการครอบครองรถหรู” กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ สอบสวน ตามคำร้องเรียน ของ ไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ
 
                      รถโบราณ 3 คัน จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คันที่เข้าข่ายรถจดประกอบเลี่ยงภาษี คือรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ อายุประมาณ 60 ปี เป็นรถคันเดียวที่มีชื่อ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นผู้ครอบครอง
 
                      สังคมตั้งคำถามว่า รถคันนี้มาอยู่ในวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ได้อย่างไร ไวยาวัจกรวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ดำเกิง จินดาหรา บอกว่า สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ รับถวายมาจากผู้เลื่อมใสศรัทธา เมื่อปี 2554 พร้อมย้ำว่า “รถคันที่กำลังถูกตรวจสอบเป็นรถยนต์เก่า ไม่ใช่รถหรู ตามที่ถูกวิจารณ์ และสมเด็จช่วงได้มาจากการถวาย ไม่ได้ใช้เงินซื้อ แต่ใครนำมาถวาย ไม่สามารถเปิดเผยได้” ดำเกิง ระบุ
 
                      วงการพุทธศาสนา การครอบครองรถยนต์หรูของพระสงฆ์ ไม่ใช่เรื่องใหม่
 
                      พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม โดนจับตามองจากสังคมหลังมีชาวบ้านร้องเรียนว่าสะสมรถยนต์หรูหลายคัน
 
                      พระพรหมสุธี (เจ้าคุณเสนาะ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ครอบครองรถยนต์หรูหลายคัน
 
                      พระครูวิบูลพัฒนกิตติ์ เจ้าอาวาสวัดหัวกระบือ ตกเป็นข่าวเกรียวกราว ครอบครองรถโบราณยี่ห้อหรูหลายสิบคันภายในวัด
 
                      ดีเอสไอเคยสอบสวนและขยายผลเรื่องรถหรูจดประกอบ เลี่ยงภาษี จนพบรถเข้าข่ายเลี่ยงภาษีในประเทศไทยกว่า 6,000 คัน หนึ่งในนั้นตรงกับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ โบราณ ที่ตั้งโชว์อยู่ในพิพิธภัณฑ์วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ซึ่งมีชื่อของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นผู้ครอบครอง
 
                      พ.ต.ต.วรนันท์ ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ บอกว่า รถคันนี้ อยู่ในบัญชีตรวจสอบอยู่ในกลุ่ม 2 คือรถราคาไม่เกิน 4 ล้านบาท กลุ่มนี้มีจำนวน 5,000 คัน
 
                      ต่อมา ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ เข้าตรวจสอบรถเบนซ์ ของสมเด็จช่วง เป็นครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2559 พบว่า ผู้ที่สั่งซื้อรถเบนซ์มาถวายให้สมเด็จมหารัชมังคลาจารย์ เป็น “พระสงฆ์” มีสมณศักดิ์สูง ได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะ ขณะที่มีอายุน้อย
 
 
คดีรถจดประกอบ เส้นทางธรรมที่ยังไม่จบ
 
 
                      พระรูปนั้นเป็นผู้ดำเนินการจัดหาทั้งหมด รวมถึงการติดต่อขอซื้อเลขทะเบียน ขม 99 จากนักธุรกิจหญิงรายหนึ่งในราคา 1 ล้านบาทเศษ
 
                      จากการตรวจสอบทางกายภาพ ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ นำเลขชิ้นส่วนสำคัญไปตรวจสอบที่ประเทศผู้ผลิตเบื้องต้นพบว่า สภาพอุปกรณ์มีสภาพเป็นอุปกรณ์เดิมครบชุด ต้องสงสัยเป็นการนำเข้าทั้งคัน ไม่ใช่การแยกชิ้นส่วนมาจดประกอบตามที่มีการสำแดงนำเข้าและยื่นจดทะเบียน
 
                      เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร มีชื่อของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นผู้ครอบครอง จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2554 ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 ตลิ่งชัน ต่อมาสลับป้ายทะเบียน งค 1560 กรุงเทพมหานคร กับรถอีกคัน และแจ้งไม่ใช้รถคันนี้วิ่งบนถนนภายในวันเดียวกัน
 
                      รถที่นำเข้ามาทั้งคันกับรถจดประกอบเสียภาษีต่างกันเกือบ 3 เท่า นี่เป็นแรงจูงใจให้เกิดขบวนการรถเลี่ยงกฎหมาย
 
                      จากการตรวจสอบของดีเอสไอสรุปว่า รถเบนซ์ ทะเบียน งค 1506 กรุงเทพมหสนคร มีชื่อสมเด็จช่วง เป็นผู้ครอบครอง มีที่มาจาก หจก.อ๊อด 89 เอ็นเตอร์ไพร์ส มีนายเกษม ภวังคนันท์ นายวิชัย วีระสิทธิกุล ร่วมหุ้นกันคนละ 5 แสนบาท ตั้งอยู่เลขที่ 162/575 ถนนเพรชเกษม แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพฯ นำเข้าชิ้นส่วนจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดย หจก.อ๊อด 89 เอ็นเตอร์ไพร์ส เป็นผู้ส่งเครื่องยนต์และตัวถังจากอเมริกามาประเทศไทย ผ่านซัพพลายเออร์รายเดียวกันคือ ILS, INC. โดยตัวถังมาโดยเรือ Van Harmony วันที่ 17 กันยายน 2553 หจก.ซีที ออโตพาร์ท เป็นผู้นำเข้าสินค้า ส่วนเครื่องยนต์มาโดยเรือ NYK Argus วันที่ 19 กันยายน 2553 บริษัท คาร์โก้คาร์ จำกัด เป็นผู้นำเข้าสินค้า
 
                      หจก.อ๊อด 89 เอ็นเตอร์ไพร์ส ให้ตัวแทนไปรับของจาก หจก.ซีที ออโตพาร์ท และคาร์โก้คาร์ ส่วนอุปกรณ์ส่วนควบอ้างนำเข้าโดย หจก.สายชลมอเตอร์ ซึ่งไม่อยู่ในสารระบบของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หมายถึงบริษัทเถื่อน
 
                      ขั้นตอนการประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ หจก.อ๊อด 89 เอ็นเตอร์ไพร์ส ร่วมกับอู่วิชาญ ของนายวิชาญ รัฐปานะ ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 114 ประกอบรถยนต์ขึ้นมา ตามคำสั่งซื้อของหลวงพี่แป๊ะ หรือพระมหาศาสนมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ในราคา 4 ล้านบาท โดยแบ่งเงินกันไป หจก.อ๊อด 89 จำนวน 2.5 ล้านบาท ส่วนอู่วิชาญ ได้ 1.5 ล้านบาท แต่อู่วิชาญไม่มีใบอนุญาตประกอบรถยนต์ จึงมีผู้ปลอมแปลงเอกสารของอู่เอ็นพีการาจ ซึ่งมีใบอนุญาตประกอบรถยนต์ถูกต้อง
 
                      ประเด็นนี้ ดีเอสไอ สรุปว่า การประกอบรถยนต์คันนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะมีเจตนาเลี่ยงภาษีนำเข้า
 
                      ขั้นตอนต่อมา คือ การเสียภาษีสรรพสามิต มีนายชลัชไปเสียภาษีกับกรมสรรพสามิต โดยเสียภาษีตัวถังและภาษีเครื่องยนต์ อย่างละ 9.5 หมื่นบาท และเสียภาษีสรรพสามิตอีก 2 แสนบาท โดยนายชลัชได้ปลอมลายมือชื่อนางกาญจนา เจ้าของอู่เอ็นพีการาจ เพื่อให้ได้ใบรับรองการเสียภาษีสรรพสามิต
 
                      ขั้นตอนการจดทะเบียนกับกรมขนส่ง นายชลัชว่าจ้างนายสมนึกไปดำเนินการ ซึ่งนายชลัชปลอมลายมือชื่อนางกาญจนา อีกครั้ง ในใบโอนลอย จากนางกาญจนาไปยังสมเด็จช่วง เพื่อแสดงหลักฐานว่า นางกาญจนาได้ขายรถยนต์ให้แก่สมเด็จช่วง
 
                      นอกจากนี้ ยังมีการปลอมลายมือชื่อนางกาญจนาว่า ได้รับค่าแรงการประกอบรถคันนี้จาก หจก.เอสทีวาย ออโตพาร์ท เพื่อให้เจ้าหน้าที่หลงเชื่อว่า เอ็นพีการาจจ้างให้ประกอบรถคันนี้ รถคันนี้จึงไม่สามารถจดทะเบียนเป็นรถยนต์ได้ตั้งแต่แรก
 
                      จากนี้ไปดีเอสไอที่ตรวจพบว่า รถคันนี้ทำผิดทุกขั้นตอน ทำเป็นขบวนการ และมีผู้อยู่ในข่ายถูกดำเนินคดีอาญาหลายคน ดีเอสไอจะเรียกผู้ที่มีชื่อเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยให้นำเอกสารและหลักฐานมาชี้แจง หากชี้แจงไม่ได้จะถูกดำเนินคดี
 
                      คดีในทางโลกจะจบ แต่ทางธรรมยังไม่จบ เพราะหากพบการกระทำผิดจริง แน่นอนว่าจะกระทบต่อการขึ้นดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์
 
 
 
 
-------------------------
 
(คดีรถจดประกอบ เส้นทางธรรมที่ยังไม่จบ : โดย...สรารัตน์ รัตนสุวรรณ)