
โต้ลมหนาวยอดดอยช้าง ชม 'ลีซอ' ปลูกกาแฟคุณภาพ
07 ก.พ. 2559
ท่องโลกเกษตร : โต้ลมหนาวยอดดอยช้าง ชม 'ลีซอ' ปลูกกาแฟคุณภาพ : โดย...ดลมนัส กาเจ
แดดยามสายถูกตัดเหลี่ยมด้วยยอดดอยช้างที่ตระหง่านอยู่เบื้องหน้า และเป็นช่วงจังหวะที่สภาพอากาศแปรปรวนอันเกิดมาจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีน และยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประจวบกับกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาร์เคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบนพอดี ทำให้บนยอดดอยช้างมีสภาพอากาศหนาวเย็นและมีหมอก ขณะที่คณะของเรากว่า 20 คน นำโดย บัญญัติ คำนูณวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่นอีเลฟเว่น กำลังออกจากที่พักมุ่งหน้าสู่แปลงกาแฟอาราบิก้าของชาวเขาเผ่าลีซอ ที่ปลูกเป็นผืนใหญ่นับหมื่นๆ ไร่ ทั่วอาณาบริเวณของดอยช้าง ที่มีลักษณะคล้ายช้างกำลังเดิน ณ หมู่บ้านดอยช้าง ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
รถยนต์กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ (โฟร์วีลไดรฟ์) 4 คัน ขยับตัวช้าๆ ไต่ขึ้นสู่ยอดดอยตามเส้นทางคอนกรีตอันคับแคบและคดโค้งตลอดแนวทาง สู่ถนนลูกรัง เป้าหมายหลักเพื่อไปสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวเขาเผ่าลีซอ ที่ปลูกกาแฟอาราบิก้าปลอดสารป้อนให้ บมจ.ซีพี ออลล์ เป็นวัตถุดิบชงเป็นกาแฟสดในร้านกาแฟสด “ออลล์ คาเฟ่” (All Cafe) ที่ขายในร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น และร้านกาแฟมวลชน นั่นเอง
เราถึงบนยอดสูงกว่า 1,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น พอลงจากรถเหลือบสายตามองเบื้องล่างเห็นไร่กาแฟอาราบิก้าเป็นผืนใหญ่สุดลูกตา ว่ากันว่า ทั่วอาณาบริเวณของดอยช้างมีเกษตรกรที่เป็นชาวเขาเผ่ามูเซอ ลีซอ จีนฮ่อ และอาข่า ปลูกกาแฟอาราบิก้ากว่า 3 หมื่นไร่ สร้างรายให้แก่เกษตรกรปีละเกือบ 1,000 ล้านบาท
สมคิด และภานิตา วนาลีโกศล สามีภรรยาชาวเขาเผ่าลีซอ เล่าว่า เดิมทีบรรพบุรุษปลูกฝิ่นเลี้ยงชีพ แต่มารุ่นคุณพ่อรัฐบาลส่งเสริมการปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้า ปลูกผักและไม้ผลเมืองหนาว หลังจากพวกเขาโตเป็นหนุ่มเป็นสาวก็ปลูกกาแฟตามคุณพ่อ โดยเขาเองมีพื้นที่กว่า 20 ไร่ สลับกับปลูกพืชผักด้วย แต่ยอมรับว่าช่วงแรกปลูกกาแฟขายให้พ่อค้าคนกลาง ถูกกดราคาเพียง กก.ละ 7 บาทเท่านั้น
“ผมมานั่งคำนวณ จะเลี้ยงครอบครัวลำบาก เพราะกาแฟราคาถูก จึงตัดสินใจไปขายแรงงานที่ไต้หวัน 3 ปี ให้คุณแม่กับภรรยาช่วยดูแลสวนกาแฟให้ พอกลับมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ทางบริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูก บมจ.ซีพี ออลล์ มาส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกกาแฟอย่างถูกวิธี และเน้นให้ปลอดสารเคมี และรับซื้อเมล็ดกาแฟในราคา กก.ละ 20 บาท ถือว่าราคาดีมาก” สมคิด เล่าให้ฟัง
หลังจากบริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ มาส่งเสริมแล้ว พื้นที่ 20 ไร่ ที่ปลูกกาแฟนั้น สามารถสร้างได้ให้แก่ครอบครัวสมคิด หักค่าลงทุนแล้วจะมีกำไรปีละไม่ต่ำกว่า 4 แสนบาท ถือว่ารายได้ดี สำหรับเกษตรกรที่อยู่บนดอย สามารถที่จะซื้อรถยนต์และสิ่งอำนวยความสะดวกในบ้านได้ อย่างปีนี้ราคาสูงขึ้นอีก บริษัทรับซื้อ กก.ละ 22 บาท

“เดิมทีพวกเราปลูกกาแฟจะใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมี ทำให้ดินเสื่อมเห็นได้ชัด พอ ซีพี รีเทลลิงค์ มาส่งเสริม เน้นใช้ปุ๋ยหมัก ผสมปุ๋ยเคมีบ้าง ส่วนยาฆ่าแมลงจะใช้น้ำหมักชีวภาพ เพราะโดยปกติกาแฟไม่ค่อยมีแมลงศัตรูพืชอยู่แล้ว ปรากฏว่าไม่เพียงจะให้ดินดีขึ้นอย่างเดียว แต่ยังลดต้นทุนอีกด้วย” ภานิตา กล่าว
ด้าน บัญญัติ บอกว่า ปัจจุบันบนดอยช้างมีพื้นที่ปลูกกาแฟกว่า 3 หมื่นไร่ เนื่องจากชาวเขาได้ผันอาชีพมาปลูกกาแฟมากขึ้น โดยเฉพาะกาแฟพันธุ์อาราบิก้า ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ดี ทนทานต่อโรคราสนิม ดูแลง่าย ให้ผลผลิตสูง เพราะดอยช้างเป็นพื้นที่สูงระหว่าง 1,200-1,500 เมตร สภาพแวดล้อมมีความเหมาะสมต่อการปลูกกาแฟอาราบิก้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะอุณหภูมิเฉลี่ยที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 18-22 องศาเซลเซียส จะช่วยให้เมล็ดกาแฟเจริญเติบโตและพัฒนาสารอาหารที่พอเพียง ถือเป็นภูมิประเทศที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกาแฟพันธุ์นี้
“ทาง ซีพี ออลล์ เราได้ส่งเสริมเกษตรกรปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้าในพื้นที่กว่า 1 หมื่นไร่ มีเกษตรกรบนดอยช้างกว่า 300 ครัวเรือน ที่ร่วมโครงการ ซึ่งการปลูกกาแฟอาราบิก้ามีวิธีการปลูกที่ไม่ยุ่งยากหากมีสภาพดินที่ดี ดอยช้างเป็นดินภูเขาไฟเก่าจึงปลูกพืชได้ดี ปลูก 3 ปีก็จะสามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว พอต้นกาแฟช่วงอายุ 4-6 ปี จะให้ผลผลิตมาก โดยเกษตรกรสามารถเริ่มเก็บผลผลิตได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ของทุกปี และในแต่ละปีสามารถเก็บเมล็ดกาแฟได้ 500 ตัน ถ้าต้นกาแฟมีอายุนานถึง 30 ปี หนึ่งฤดูสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ถึง 4-5 รอบ" บัญญัติ กล่าว
สำหรับเมล็ดที่ส่งเสริมเกษตรกรปลูกนั้น ซีพี รีเทลลิงค์ บริษัทในกลุ่มซีพี ออลล์ เป็นผู้รับซื้อจากเกษตรกรนำมาชงเป็นกาแฟสดจำหน่ายใน “ออลล์ คาเฟ่” ภายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 2,000 สาขา และร้านกาแฟมวลชน ซึ่งเป็นร้านกาแฟสร้างอาชีพต้นแบบ สำหรับประชาชนที่สนใจจะทำธุรกิจกาแฟที่มีประมาณ 50 สาขา ทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถดื่มกาแฟดีในราคาที่เป็นธรรม และเป็นกาแฟที่ปลูกในพื้นที่เหมาะสมด้วย
นอกจาก ซีพี ออลล์ จะรับซื้อเมล็ดกาแฟจากดอยช้างแล้ว บัญญัติยังบอกว่า เซเว่นฯ ยังเป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้าเอสเอ็มอีภาคเกษตรอีกกว่า 119 รายการสินค้า อาทิ กล้วยหอมทอง มะพร้าวน้ำหอม มะม่วง ผลไม้อบกรอบ และสินค้าเกษตรแปรรูปต่างๆ เป็นต้น
คณะของเราใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง อยู่กับการเก็บข้อมูล บันทึกภาพงาม ในไร่กาแฟอาราบิก้า ก่อนไปชมกระบวนการตาก และอำลาดอยช้างเข้าสู่สังคมเมืองเหมือนเดิม
----------------------
(ท่องโลกเกษตร : โต้ลมหนาวยอดดอยช้าง ชม 'ลีซอ' ปลูกกาแฟคุณภาพ : โดย...ดลมนัส กาเจ)