ไลฟ์สไตล์

มก.โชว์น้ำหมักมูล‘ไส้เดือนดิน’

มก.โชว์น้ำหมักมูล‘ไส้เดือนดิน’

26 ม.ค. 2559

มก.โชว์น้ำหมักมูล ‘ไส้เดือนดิน’ เพาะเลี้ยงสาหร่ายสร้างรายได้

 
       ปัจจุบันจำนวนขยะอินทรีย์ชนิดต่างๆ ที่มาจากการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร รวมทั้งของเสียจากบ้านเรือนมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ  การกำจัดขยะส่วนใหญ่จะใช้วิธีการฝังกลบและเผาทำลายซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและสภาพแวดล้อมเป็นอย่างมาก ดังนั้นการจัดการขยะเหลือทิ้งทางการเกษตรโดยเทคโนโลยีไส้เดือนดิน จึงเป็นทางออกหนึ่งในการนำไส้เดือนดินมาใช้ในการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติทางเคมีและทางกายภาพของขยะเหลือทิ้งให้เป็นแหล่งธาตุอาหารและฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตโดยตรงของพืช โดยเฉพาะการเพาะเลี้ยงสาหร่าย Chlorella sp.
 
       รศ.ดร.สาวิตรี จันทรานุรักษ์ นักวิจัยจากภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่าสาหร่าย Chlorella sp. นั้นเป็นสาหร่ายสีเขียวเซลล์เดียวขนาดเล็กพบในแหล่งน้ำธรรมชาติทั่วไป และมีความสำคัญต่อระบบนิเวศในด้านการเป็นผู้ผลิตลำดับแรกในห่วงโซ่อาหาร โดยการนำมาใช้ประโยชน์ส่วนใหญ่จะใช้เป็นอาหารเสริมสุขภาพสำหรับมนุษย์และเป็นอาหารของลูกสัตว์น้ำเศรษฐกิจ เช่นลูกกุ้ง ลูกปลา และหอยสองฝา นอกจากนี้ยังใช้เป็นอาหารของไรแดงและแพลงตอนสัตว์ เนื่องจากสาหร่าย Chlorella sp. มีคุณค่าทางอาหารสูง ผลิตโปรตีน วิตามิน สารเคมีอื่นๆ และไม่ทำให้น้ำเสีย อีกทั้งยังพบว่าสาหร่ายชนิดนี้สามารถสร้างสารต้านแบคทีเรีย สารต้านไวรัสและสารยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยการสร้างสารสีแคโรทีนนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้
 
       “การเพาะเลี้ยงสาหร่ายโดยทั่วไปจะใช้อาหารสังเคราะห์ในการเลี้ยง แต่อาหารเหล่านี้นับวันมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ต้นทุนการเพาะเลี้ยงสาหร่ายมีราคาสูงตามไปด้วย ดังนั้นการลดต้นทุนการผลิตโดยการใช้วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรชนิดต่างๆ นำมาใช้เป็นอาหารเพาะเลี้ยงไส้เดือนดินโดยการผลิตปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนดินถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการลดต้นทุนในการเาพเลี้ยงสาหร่ายและยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มของวัสดุเหลือทิ้งต่างๆ ให้ใช้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย”
 
       นักวิจัยคนเดิมระบุอีกว่า สำหรับน้ำหมักมูลไส้เดือนดินที่นำมาใช้ในการเพาะเลี้ยงสาหร่ายนั้น เกิดจากการนำเอาปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนดินมาหมักแบบให้อากาศในของเหลวผสมที่ประกอบด้วยน้ำ รำข้าว และกากน้ำตาลเพื่อเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์และโปรโตซัวที่มีประโยชน์ โดยจุลินทรีย์ต่างๆ เหล่านี้จะย่อยสลายธาตุอาหารในปุ๋ยหมักให้อยู่ในรูปที่ละลายน้ำเช่น ฮอร์โมน วิตามิน เอนไซน์ ธาตุอาหารอะมิโนแอซิดและเกลือแร่ที่พืชต้องการในทุกช่วงการเจริญเติบโต ส่วนประโยชน์ของน้ำหมักมูลไส้เดือนดินก็จะช่วยในการเจริญเติบโตของพืชรวมทั้งเพิ่มความสมบูรณ์ในดินและยังสามารถขับไล่แมลงศัตรูพืชได้ เนื่องจากมีแบคทีเรียและจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ช่วยในการขับไล่เชื้อราที่ทำให้เกิดโรคราดำบนผลไม้ ใบไม้และจุดสีดำ รวมทั้งการฆ่าตัวอ่อนของเพลี้ย
 
       “การเตรียมน้ำหมักมูลไส้เดือนจะใช้อัตราส่วนกากน้ำตาลประกอบด้วยรำข้าว ปุ๋ยและน้ำ 0.1:10:100 น้ำปุ๋ยหมักไส้เดือนดินใส่ลงในผ้าขาวบางที่มีรูพรุน เตรียมน้ำกลั่นใส่ภาชนะที่ใช้สำหรับหมักต่อสายให้อากาศเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณของจุลินทรีย์ในน้ำหมักให้มากขึ้น เมื่อสิ้นสุดการหมักอุณหภูมิในน้ำหมักจะคงที่เท่ากับอุณหภูมิสิ่งแวดล้อม” รศ.ดร.สาวิตรีกล่าวทิ้งท้าย
 
       สำหรับเกษตรกรและประชาชนที่สนใจในการเพาะเลี้ยงสาหร่าย Chlorella sp. ในน้ำหมักมูลไส้เดือนดินสามารถชมและขอคำแนะนำได้ในงานเกษตรแฟร์ระหว่างวันที่ 29 มกราคม-6 กุมภาพันธ์ เวลา 10.00-18.00 น. ณ อาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน