ไลฟ์สไตล์

‘พระกริ่งคลองตะเคียน’พิมพ์ซุ้มเรือนแก้วอยุธยา

‘พระกริ่งคลองตะเคียน’พิมพ์ซุ้มเรือนแก้วอยุธยา

21 ม.ค. 2559

‘พระกริ่งคลองตะเคียน’พิมพ์ซุ้มเรือนแก้วอยุธยา : ปกิณกะพระเครื่องโดยฐกร บึงสว่าง

           พระกริ่งคลองตะเคียน พิมพ์ซุ้มเรือนแก้ว อยุธยา พระหายากจนเป็นตำนาน แต่มีบันทึกชัดเจนในหนังสือ “อมตะพระกรุ” ของ ต้อย เมืองนนท์

           และจากอีกบทความหนึ่ง “พระคลองตะเคียน” พระกรุอยุธยา กับข้อเท็จจริงที่ไม่เคยมีใครกล่าวถึง โดย มโนมัย อัศวธีระนันท์ (pinprapa.com)

           พระกรุคลองตะเคียน ในความคิดเห็นของผู้เขียนหมายถึง พระที่ขึ้นบริเวณลุ่มน้ำคลองตะเคียน อันประกอบด้วยพระ ๓ กลุ่ม ๓ วัด ดังนี้

           ๑.พระวัดโคกจินดา ซึ่งอยู่ในกลุ่มนิยม ประกอบด้วย พระกริ่งหน้าใหญ่ หน้าเล็ก และพระพิมพ์หน้ามงคล

           นอกจากนี้ยังพบ พระพิมพ์ปิดตา หลากหลายพิมพ์ พิมพ์หน้าฤาษี ซึ่งกำหนดได้ตามศิลปะเฉพาะของวัดนี้ ตลอดจนเนื้อหา และที่สำคัญคือ ลายมือจารหวัดๆ ที่สวยงามลงตัว ซึ่งมีเอกลักษณ์เป็นลายมือเฉพาะของวัดนี้

           ๒.พระวัดสำเภาล่ม (วัดทำใหม่) ประกอบด้วย พระปิดตามหาอุด และพระพิมพ์สมาธิ ซึ่งมีลายมือจารเป็นตัวบรรจงสวยงาม แตกต่างจากวัดโคกจินดา อย่างชัดเจน

           และ ๓.พระกรุวัดช้าง ศิลปะจะด้อยกว่า ๒ วัดข้างต้น ลายมือจารค่อนข้างหวัด เส้นจารหนา ดูหยาบ ไม่สวยงามนัก แต่ก็ดูดุดันเข้มขลังไปอีกแบบ

           ที่สำคัญคือเป็นพระยุคเดียวกันกับ พระกริ่งคลองตะเคียน ทั้ง ๒ วัดข้างต้น มี พระกริ่ง พระงบน้ำอ้อย พระเม็ดน้อยหน่า ฯลฯ

           สรุปคือพระทั้ง ๓ วัดนี้มีศิลปะคล้ายๆ กัน แต่พิมพ์ทรงแตกต่างกันชัดเจน และต้องเน้นว่า มีลายมือจารอันเป็นเอกลักษณ์ที่ต่างกัน

           พระวัดโคกจินดา เข้มขลัง พิมพ์ทรงสวยงาม กรรมวิธีการสร้างซับซ้อน มีความประณีตสูงมาก พระวัดสำเภาล่ม (วัดทำใหม่) มีความประณีตสูง ลายมือจารเป็นระเบียบสวยงาม และ พระวัดช้าง ออกแนวชาวบ้านๆ แต่ก็มีเสน่ห์ เส้นสายลายมือค่อนข้างลึกและเขื่อง จารหวัดๆ ดูเข้มขลังดุดัน ค่านิยมในเวลานี้ค่อนข้างถูก แต่เป็นพระหาชมยาก ไม่แพ้พระที่สร้างจาก ๒ วัดข้างต้น อนาคตอาจมีราคาสูง

           พระคลองตะเคียน ทั้ง ๓ วัด ล้วนเป็นพระที่สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ทั้งสิ้น (สมัยรัชกาลที่ ๓-๕) ทั้งนี้เป็นเรื่องที่ “เซียนพระ” ในพื้นที่รุ่นเก่าๆ ทราบกันดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะความชัดเจนในพิมพ์ทรง เนื้อหา ตลอดจนลายมือจารที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

           แต่ พระคลองตะเคียน กลับเป็นพระที่มักจะมีความสับสน และเข้าใจผิดในหมู่นักสะสมในหลายๆ ประการ

           ทั้งนี้ เนื่องจาก พระคลองตะเคียน ถูกกำหนดค่านิยมมาผิดๆ มาโดยตลอด จนกลายเป็นพระที่มักมีปัญหาในการสะสม หรือในงานประกวดหลายๆ งานที่ผ่านมา

           เป็นต้นว่าความสับสนในเรื่องพิมพ์ เรื่องเก๊-แท้ เรื่องผิดวัด ยัดกรุ (สวด) กันไปมาว่าองค์นี้ใช่ องค์นั้นไม่ใช่กริ่งคลองตะเคียน สาเหตุมาจากแรกเริ่มเดิมที “เซียนพระ” สมัยก่อนท่านจะเรียก “พระกริ่งเนื้อดินผสมผงใบลานวัดโคกจินดา” เกือบทุกพิมพ์ว่า พระกริ่งคลองตะเคียน เป็นหลักใหญ่ และมีการข้ามวัด ไปกำหนดพระปิดตากรุวัดทำใหม่ ตีรวมเข้าเป็น พระกรุคลองตะเคียน

           ส่วนพิมพ์อื่นๆ ของ วัดทำใหม่ กลับไม่เล่นเป็นกรุคลองตะเคียน ส่วนพระที่ขึ้น วัดช้าง ถูกตีเป็นพระยุคหลัง ล้อพิมพ์คลองตะเคียน มาอีกต่อหนึ่ง แม้แต่ พระวัดโคกจินดา เองบางพิมพ์ยังถูกตีเป็นพระยุคหลัง และยังมีการสร้างค่านิยมว่า “พระคลองตะเคียน เป็นพระที่ทหารหาญสมัยอยุธยา ใช้พกติดตัวต่อสู้กับข้าศึก” ฯลฯ

           หรือเป็นพระที่พบตามพื้นดิน แม้แต่ในบริเวณที่เชื่อกันว่า เป็นสมรภูมิรบไทย-พม่า ก็ยังมีเป็นเรื่องราวประกอบผิดๆ จนได้

           ในการที่ผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า ควรเรียกพระในบริเวณคลองตะเคียนทั้ง ๓ วัดนี้ว่า พระกรุคลองตะเคียน โดยเสนอข้อเท็จจริง ก็สืบเนื่องมาจากความวุ่นวายสับดังที่กล่าวมาข้างต้น

           ซึ่งหากแยกเป็น ๓ กลุ่มดังนี้ จะเห็นถึงความชัดเจนในการสะสม และเพิ่มคุณค่าของพระกลุ่มนี้ให้มากยิ่งขึ้น

           ข้อควรรู้เกี่ยวกับ พระกริ่งคลองตะเคียน ความจริง พระคลองตะเคียน เป็นพระที่ทำแจกตามกำลังศรัทธา สืบทอดจากคนรุ่นเก่าสู่คนรุ่นใหม่ เช่นเดียวกับ พระสมเด็จ วัดระฆัง

           ส่วน พระคลองตะเคียน ที่พบฝังในกรุจะมีเป็นส่วนน้อยมาก ส่วนใหญ่จะพบในเจดีย์สมัยรัตนโกสินทร์ ในเจดีย์องค์หนึ่งจะพบเพียง ๑-๒ องค์ แต่ความเคยชินกับ พระคลองตะเคียน ในฐานะพระกรุมีมาช้านาน จนเรียกกันติดปากไปแล้ว หากพบจารเป็นตัวเลขใน พระกริ่งคลองตะเคียน มักจะพบตัวเลข ๓ และ ๔ อยู่เสมอ สันนิษฐานว่าเป็นตัวย่อของคาถา ๓ คือ มะ อะ อุ ส่วนเลข ๔ คือ นะ มะ พะ ธะ ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะเช่นนี้ มีทั้งในพระกริ่งที่ขึ้นวัดโคกจินดา และวัดช้าง ด้วย

           พระคลองตะเคียน ทุกๆ พิมพ์ จัดเป็นพระที่สูงส่งด้วยศิลปะและเนื้อหา พุทธคุณเป็นที่เลื่องลือกล่าวขานกันมาช้านาน ตลอดจนกรรมวิธีการสร้างที่ซับซ้อน เป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะของพระเครื่องที่มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุดตระกูลหนึ่ง

           ที่สำคัญสุด คือ เป็นมรดกและความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของชาว จ.พระนครศรีอยุธยา

           (ขอขอบพระคุณ คุณ “เอ็ม คลองตะเคียน” ที่ให้ข้อมูล)