
งานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตฉลองอุโบสถวัดปริวาส
งานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต ฉลองอุโบสถวัดปริวาส : บุญนำพา
วัดปริวาสราชสงคราม สมัยก่อนอยู่ในการปกครองของ ต.บางโพงพาง อ.บ้านทวาย จ.พระนครเขื่อนขันธ์ (พระประแดง) ก่อนที่จะเปลี่ยนมาอยู่ในเขตการปกครองปัจจุบัน คือแขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
วัดปริวาสตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งพระนคร มีพื้นที่ ๑๑ ไร่ ๓ งาน ๗๕ ตารางวา และมีที่ธรณีสงฆ์อีก ๒ แปลง แปลงหนึ่ง ๕ ไร่ ๗๕ ตารางวา อีกแปลงมีพื้นที่ ๒ ไร่ ๒ งาน
คนเก่าแก่ที่อยู่ ต.บางโพงพาง มานานเล่าว่า เดิมวัดปริวาสเป็นเพียงสำนักสงฆ์หรือวัดเล็กๆ ชื่อว่า “วัดสุนทริการาม” ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนและต้นไม้มากมาย ซึ่งเศรษฐีสมัยก่อนมีคตินิยมในการสร้างวัด คาดว่าวัดนี้สร้างขึ้นช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ถึงต้นสมัยรัตนโกสินทร์
ต่อมาผู้สร้างวัดหรือสำนักสงฆ์นี้เสียชีวิตลง หรืออาจจะมีการโยกย้ายถิ่นฐาน จึงไม่มีผู้ที่ทำนุบำรุงต่อไป ทำให้วัดหรือสำนักสงฆ์แห่งนี้ตกอยู่ในสภาพทรุดโทรมตามกาลเวลา
ในสมัยรัชกาลที่ ๓ (พ.ศ.๒๓๖๗-๒๓๙๔) สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ ทรงสร้าง “วัดไพชยนต์พลเสพย์” ขึ้นที่ริมคลองลัดหลวงฝั่งตะวันตก โดยมีขุนนาง ๒ ท่านที่มีบทบาทสำคัญในการก่อสร้างวัด คือ พระยาเพชรพิไชย (เกตุ) และ พระยาราชสงคราม (ทองสุก) เป็นแม่กองงานก่อสร้าง เมื่อสร้าง “วัดไพชยนต์” สำเร็จแล้ว พระยาเพชรพิไชย (เกตุ) ได้ทูลขอสร้างวัดขึ้นในอีกฝั่งคลองหนึ่ง ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานชื่อ “วัดโปรดเกศเชษฐาราม”
ส่วน พระยาราชสงคราม (ทองสุก) ได้มาบูรณปฏิสังขรณ์ “วัดสุนทริการาม” ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ “วัดโปรดเกศ” ซึ่งขณะนั้นชำรุดทรุดโทรมให้ดีขึ้น โดยได้นำวัสดุที่เหลือจากการใช้สร้าง ๒ วัดดังกล่าว มาซ่อมแซมจนสำเร็จสมบูรณ์งดงาม แล้วตั้งชื่อตามราชทินนามของท่านว่า วัดปริวาสราชสงคราม ซึ่งคนในท้องถิ่นมักนิยมเรียกสั้นๆ ว่า “วัดปริวาส”
หลังจากเวลาผ่านมาถึง ๒๐๐ กว่าปี วัดปริวาสผ่านการสร้างอุโบสถมาเป็นครั้งที่ ๓ ในวิสุงคามสีมาเดิม โดยล่าสุดเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๐ หลวงพ่อสมชาย เจ้าอาวาสวัดปริวาส ได้เห็นสภาพของอุโบสถ วิหาร วิหารคด รอบบริเวณวัดปริวาส มีความทรุดโทรมมาก ขณะเดียวกันพื้นที่ส่วนใหญ่ของวัดอยู่ต่ำกว่าระดับถนนหน้าวัด จึงมีน้ำท่วมขังเป็นประจำ บางส่วนเริ่มทรุดตัวลง จนอาจจะเกิดอันตรายแก่พระสงฆ์ขณะทำสังฆกรรมได้
หลวงพ่อสมชาย จึงวางโครงการก่อสร้างอุโบสถและวิหารขึ้นใหม่ โดยได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๑ และใช้เวลาเพียง ๘ ปี ก็สามารถก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่เสร็จ บนวิสุงคามสีมาเดิม จึงเตรียมจัดงานผูกพัทธสีมา ปิดทองฝังลูกนิมิตขึ้น
รูปแบบของอุโบสถและวิหารหลังใหม่ เป็นสถาปัตยกรรมและประติมากรรม แบบประยุกต์ศิลป์ สวยงามโดยฝีมือช่างไทยที่ทำแบบโบราณ ปูนปั้นตำเนื้อปูนแบบเก่า และปั้นตามรูปแบบจินตนาการ ประดับด้วยเบญจรงค์หลากสี และหินรัตนชาติล้ำค่ามากมายทุกส่วนทั้งภายในและภายนอกอุโบสถ งดงามอลังการมาก จนเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของผู้ที่ได้เข้าชมวัดปริวาสเป็นประจำ
โดยเฉพาะ ฐานพระประธานพระพุทธสุโขทัย ที่มีความงดงามในฝีมืองานช่าง รวมทั้ง ประตูอุโบสถ ที่แกะสลักบุด้วยเงิน ขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ฯลฯ
ภาพพุทธชาดกแบบนูนสูง ที่ดูราวกับมีชีวิต ตัวละครดุจลอยออกมาจากผนังภายในอุโบสถ สวยงามมาก เป็นผลงานสร้างสรรค์โดย ช่างฝีมือคนไทย ในแต่ละวันจะมีผู้คนไปชมอุโบสถหลังใหม่นี้ตลอดเวลา โดยเฉพาะวันเสาร์วันอาทิตย์มีมากเป็นพิเศษ
ระหว่างวันที่ ๒๒-๓๑ มกราคม ๒๕๕๙ นี้ วัดปริวาสจะจัด งานผูกพัทธสีมา ปิดทองฝังลูกนิมิต และ ฉลองอุโบสถ หลังใหม่ ในงานมีมหรสพมากมายให้ชมฟรีตลอดงาน ติดต่อสอบถามได้ที่วัดปริวาสราชสงคราม ถนนพระราม ๓ ซอย ๓๐ เขตยานนาวา กรุงเทพฯ โทร.๐-๒๒๙๔-๗๗๑๑, ๐๘-๙๙๘๔-๓๔๕๘, ๐๘-๗๑๑๓-๓๕๑๒ เฟซบุ๊ก : วัดปริวาสราชสงคราม
โอกาสนี้วัดปริวาสได้ออกวัตถุมงคลที่ระลึกงานผูกพัทธสีมา ปิดทองฝังลูกนิมิต และฉลองอุโบสถ คือ เสือและเหรียญ รุ่น “ยอดขุนพล ๕๙”, พระพิมพ์สมเด็จเนื้อผง และผ้ายันต์ ที่หลวงพ่อสมชาย จัดสร้างขึ้นมาเพื่องานมงคลในการฉลองอุโบสถครั้งนี้โดยเฉพาะ