ไลฟ์สไตล์

รู้ทันมะเร็ง : ถอดบทเรียนมะเร็งปี58

รู้ทันมะเร็ง : ถอดบทเรียนมะเร็งปี58

25 ธ.ค. 2558

รู้ทันมะเร็ง : ถอดบทเรียนมะเร็งปี 58 : นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

 
      ปี 2558 ปีแห่งความรักความสามัคคีความจงรักภักดีที่พสกนิกรชาวไทย ร่วมแรงร่วมใจในกิจกรรมปั่นเพื่อแม่และปั่นเพื่อพ่อ เป็นอีกกิจกรรมการออกกำลังกายที่สำคัญ ที่ช่วยให้ห่างไกลมะเร็ง ก่อนที่ปีใหม่กำลังจะมาถึง ก็ได้เวลาทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมาในรอบปี โดยเฉพาะเรื่องราวข่าวสารมะเร็งที่สำคัญในรอบปีที่ผ่านมา
 
      เริ่มจากต้นปี ข่าวชาวบ้านรอบเหมืองทองคำในเขตพื้นที่ 3 จังหวัดคือ พิจิตร พิษณุโลกและเพชรบูรณ์ มีสารโลหะหนักในเลือดร้อยละ 30 สารโลหะหนักที่เป็นตัวร้ายของงานนี้คือ สารหนู แมงกานีส โดยเฉพาะสารหนู เพราะสารหนูถูกจัดเป็นสารก่อมะเร็งประเภทที่ 1 คือมีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ ตามมาด้วยเดือนกุมภาพันธ์ มีข่าวไฟไหม้โรงงานยางรถยนต์ที่โกดังเก็บยางรถยนต์ ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด สารหลายชนิดที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ยางรถยนต์ ถูกจัดอยู่ในกลุ่มของสารก่อมะเร็งในมนุษย์และสารที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ ตัวที่เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์คือ เขม่าและสารกลุ่มไดออกซิน ต่อด้วยปัญหาเดิมๆ ที่มาอาละวาดทุกปี ปัญหาควันไฟใน 9 จังหวัดภาคเหนือ และปีนี้ในเขตภาคใต้ตอนล่างก็โดนไปเยอะเช่นกัน เพียงแต่ต่างเวลากันเท่านั้น ผลกระทบต่อสุขภาพแบบเรื้อรังโดยเฉพาะมะเร็งปอด เพราะสารพิษที่เป็นสารก่อมะเร็งจากการเผาไหม้คือ สารโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนหรือสารพีเอเอช
 
      ตามมาด้วยเรื่องฮอตที่สุดในรอบปี คือผู้ป่วยมะเร็งบ้านเราโดนหลอกไปรักษามะเร็งด้วยการฝังแร่ที่เมืองจีน โดยนำมาใช้รักษามะเร็งทุกอวัยวะ ทั้งๆ ที่ตามหลักวิชาการ การฝังแร่นั้นใช้กับมะเร็งบางอวัยวะบางตำแหน่งเท่านั้น การฝังแร่นอกข้อบ่งชี้และฝังแร่จำนวนมาก ย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนรอบข้าง โดยเฉพาะเด็กและสตรีมีครรภ์ อันที่จริงโรงพยาบาลของไทยเราทั่วประเทศทั้งของรัฐบาลและเอกชนไม่ต่ำกว่า 20 แห่ง มีการฝังแร่มานานหลายปีแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปรักษาถึงต่างประเทศแต่อย่างใด ต่อด้วยเรื่องทุเรียนเทศหรือทุเรียนน้ำที่อ้างว่ารักษาโรคมะเร็งได้ ความจริงก็คือขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาในเซลล์มะเร็งที่เพาะเลี้ยงในหลอดทดลอง ยังต้องมีการศึกษาอย่างเป็นระบบทั้งในสัตว์ทดลองและในคนที่เป็นมะเร็ง ต้องใช้เวลาอีกหลายปีในอีกหลายขั้นตอน เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในร่างกายมนุษย์ ซึ่งมีความแตกต่างและซับซ้อนกว่าผลที่ได้จากการศึกษาที่ได้จากเซลล์มะเร็งในหลอดทดลอง
 
      อีกข่าวที่ฮือฮาไม่แพ้กันคือ เดือนตุลาคมมีข่าวเรื่องเนื้อแดงและเนื้อสัตว์แปรรูปถูกจัดเข้าทำเนียบสารก่อมะเร็งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยองค์การวิจัยโรคมะเร็งระหว่างประเทศ หน่วยงานในสังกัดขององค์การอนามัยโลก ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการ โดยเนื้อสัตว์แปรรูปถูกจัดให้เป็นสารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1 ส่วนเนื้อแดงจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแกะ ถูกจัดเข้ากลุ่มสารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 2A คือมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นสารก่อมะเร็งในคน พูดง่ายๆ ว่า ยังไม่มีอันตรายเท่าเนื้อสัตว์แปรรูป สรุปว่ายังกินได้ แต่อย่ามากเกิน อย่ากินบ่อยๆ ที่สำคัญต้องกินอาหารหมู่อื่นๆ ให้ครบ โดยเฉพาะผักผลไม้ให้ได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของมื้ออาหาร
 
      ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ช่วงนี้ ก็อย่าทำร้ายสุขภาพตัวเองด้วยการบริโภคสารพัดอาหารไขมันสูง บุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบไม่บันยะบันยังกันนะครับ เดี๋ยวจะเจ็บไข้ได้ป่วยไม่สบายต้อนรับปีใหม่ ไม่สบายตั้งแต่ต้นปี จะฤกษ์ไม่ดีทั้งปีนะครับ...ขอบอก