
'มหกรรมเรียนนอก'ปีที่12ก.พ.หนุนปั้นคนไทยรับอาเซียน
'มหกรรมเรียนนอก'ปีที่12ก.พ.หนุนปั้นคนไทยรับอาเซียน : ดร.จุไรรัตน์ วรรณยิ่ง ผอ.สำนักงานประชาสัมพันธ์ ม.สยาม รายงาน
ปิดฉากไปแล้วสำหรับงาน “มหกรรมการศึกษาต่อต่างประเทศ” ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดงานระหว่างวันที่ 14-15 พฤศจิกายน 2558 ที่พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์สรรพสินค้าสยามพารากอน ท่ามกลางความสนใจของนักเรียน นักศึกษา พ่อแม่ ผู้ปกครอง จำนวนมาก
“สำนักงาน ก.พ. มีบทบาทในการบริหารทรัพยากรบุคคลของชาติ ซึ่งเป็นกลไกในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ให้แข่งขันกับนานาประเทศได้ และยังมีอีกบทบาทหนึ่งที่สำนักงาน ก.พ. ให้ความสำคัญมาโดยตลอด คือการสนับสนุนพัฒนาการศึกษาข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้เป็นตัวจักรสำคัญในการพัฒนาประเทศ และสนองนโยบายของรัฐบาลให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นการพัฒนาบุคคลโดยให้ทุนรัฐบาลไปศึกษาต่อต่างประเทศ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งจะเห็นได้ว่าบรรดาผู้นำในหน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงานเคยเป็นนักเรียนทุนของรัฐบาลมาก่อน” วิสูตร ประสิทธิ์ศิริวงศ์เลขาธิการ สำนักงาน ก.พ. กล่าวเปิดงาน ในปี 2559 ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนเต็มรูปแบบ สำนักงาน ก.พ.มีบทบาทโดยตรงในการเป็น “เสาสังคมและวัฒนธรรม” ซึ่งเป็น 1 ใน 3 เสาหลักตามแผนโรดแม็พสู่ประชาคมอาเซียน ด้วยการเตรียมความพร้อมทรัพยากรบุคคล ผ่านการจัดงานมหกรรมการศึกษาต่อต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 12 เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง ตลอดจนผู้ที่สนใจได้มีโอกาสพบปะกับสถานศึกษาชั้นนำจากทั่วโลกอย่างใกล้ชิด
“ปีนี้จัดในแนวคิด “Me and My Future Education” ได้รับการตอบรับอย่างดี จากผู้แทนสถาบันการศึกษาชั้นนำกว่า 300 แห่ง จาก 20 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมงาน อาทิ ออสเตรเลีย แคนาดา สหราชอาณาจักร อเมริกา จีน ฯลฯ มาให้ข้อมูลด้านการศึกษา รวมถึงข้อมูลทุน ปีนี้มีกิจกรรมพิเศษมากมาย เช่น เชิญอดีตนักเรียนทุน ก.พ. และบุคคลที่มีชื่อเสียงมาแนะนำเคล็ดลับต่างๆ ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น ดร.นิศรา การุณอุทัยศิริ อดีตนักเรียนทุน ก.พ. กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มาติวเข้มเตรียมตัวสอบชิงทุนรัฐบาล ณัฐ ศักดาทร นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดัง มาเผยเทคนิคเรียนเก่งขั้นเทพ และขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร นักเขียน นักจิตวิทยา ชื่อดัง มามอบเคล็ดลับการค้นพบพรสวรรค์ของตัวเอง และให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองให้ถึงฝั่งฝัน”
การศึกษาต่อประเทศจีนได้รับความสนใจจากผู้มาชมงานอย่างล้นหลาม “หวง ชุนเซิน” ผู้อำนวยการสถาบัน Chinese Abroad Study Center (CASC) ซึ่งมาร่วมออกบูธแนะแนวการศึกษาต่อ ณ ประเทศจีน กล่าวว่า “สถาบันซีเอเอสซีจัดตั้งขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักเรียนไทยที่ไปศึกษาต่อในประเทศจีน สถาบันมีการประสานงานกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศจีนกว่า 50 แห่ง โดยจะเปิดสอบชิงทุนการศึกษา และจัดสัมมนาทางการศึกษาไทย–จีน ในวันที่ 15 มกราคม 2559 ณ ประเทศจีน พร้อมจัดกิจกรรมทางการศึกษา ออกบูธแนะแนวการศึกษาในวันที่ 16–17 มกราคม 2559 ณ อาคารสยามกิตติ์ ชั้น 3 กรุงเทพฯ และวันที่ 23–24 มกราคม 2559 ที่เชียงใหม่” "การมาออกบูธในวันนี้ สถาบันเชิญผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง ตงหนาน จงซาน และเจี้ยงโจว ซึ่งเปิดสอนคณะแพทย์แผนปัจจุบัน หลักสูตรภาษาอังกฤษและจีน สำหรับมหาวิทยาลัยตงหนาน เปิดสอนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มีชื่อเสียงติดอันดับโลก นักเรียนที่สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่ WWW.123tochina.com Fanpage facebook : casc Chinese Abroad Center โทร.0-2513-0196"
ส่วน ดร.โอม หุวะนันท์ อดีตนักเรียนทุนต่างประเทศ ปัจจุบันเป็นผู้จัดการสถาบัน Language Express กล่าวถึงข้อดีของการไปศึกษาต่อต่างประเทศว่า “สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป คือ สังคม และภูมิอากาศ จะทำให้มีประสบการณ์มากยิ่งขึ้น เพราะต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่เพื่อความอยู่รอด สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น และสามารถปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงได้ในทุกสถานการณ์” สำหรับบริบทที่เปลี่ยนไป ได้แก่ การต้องอยู่คนเดียว มีเพื่อนใหม่ ภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดการเรียนรู้ พยายามทำความเข้าใจ ยอมรับในความแตกต่าง ทำให้เกิดการฝึกปฏิบัติ ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างสมานฉันท์ ส่วนข้อด้อยนั้น ดร.โอม กล่าวว่า "ช่วงเวลาที่อยู่ต่างประเทศ เราจะห่างจากสังคมไทย เพื่อนร่วมรุ่น และความใกล้ชิดกับครอบครัว อาจทำให้จุดยืนในสังคมของเราเปลี่ยนแปลงไป เช่น อาจพลาดโอกาสในความก้าวหน้าของหน้าที่ การงาน”
แอนดรู บิ๊กส์ เจ้าของสถาบัน Andrew Biggs ผู้โด่งดังจากวาทะที่ว่า “ภาษาอังกฤษ ง่ายนิดเดียว” เปิดเผยความรู้สึกในการไปศึกษาต่อต่างประเทศว่า “เป็นการพลิกชีวิต และทำให้มีมุมมองที่เปลี่ยนไป ทำให้สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตนเอง มีความคิด วิสัยทัศน์กว้างไกลขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงในชีวิตทุกอย่าง ได้รับประสบการณ์ใหม่ที่สอนให้รู้ว่า โลกกว้างกว่าที่คิด มีทัศนคติ Can do my life ช่วยให้สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ดีขึ้น เป็นการก้าวเดินออกจากโลกส่วนตัวไปสู่สังคมที่กว้างไหญ่ นับเป็นการผจญภัยในชีวิตที่ดีมาก” กันจ์วรา พิเชษฐพันธ์ ผู้ปกครองที่นำลูกสาวมาชมงานด้วยความสนใจใคร่รู้ กล่าวว่า “ตั้งใจให้ลูกไปศึกษาต่อต่างประเทศ เพื่อเพิ่มเติมประสบการณ์ชีวิต และนำองค์ความรู้ต่างๆ มาช่วยพัฒนาศักยภาพของตนเอง และประเทศชาติ” ส่วน น้องญัฐต์วรา พิเชษฐพันธ์ บุตรสาว บอกถึงความตั้งใจว่า “หนูอยากไปเรียนต่อที่เยอรมนี เพราะมีชื่อเสียงด้านเซลล์ ซึ่งหนูสนใจ อยากนำความรู้มาต่อยอดเพื่อเป็นประสบการณ์ชีวิต และช่วยพัฒนาประเทศของเรา หนูจะนำศิลปวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่คือการตีขิม และรำไทย ซึ่งเป็นศิลปวัฒนธรรมไทยที่งดงาม เป็นการสร้างชื่อเสียงให้ชาติไทยของเรา” จะเห็นได้ว่าการไปศึกษาต่อต่างประเทศนั้น มีทั้งข้อดีและข้อด้อย ดังนั้นขึ้นอยู่กับความพร้อมและโอกาส หากมีทั้งสองสิ่งก็ควรจะคว้าไว้ เพราะ “แม้เลือกเกิดไม่ได้ดังใจคิด แต่มีสิทธิ์เลือกหนทางการสร้างสรรค์” เหตุผลประการสำคัญคือ การได้มีโอกาสนำวิชาความรู้ใหม่ที่ดี มาช่วยพัฒนาประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของเราให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และยั่งยืนนั่นเอง