
แปรรูปเพิ่มค่าแก้ราคาตกต่ำ 'ไวน์สตรอเบอร์รี่' ของดีสะเมิง
22 ธ.ค. 2558
ทำมาหากิน : แปรรูปเพิ่มค่าแก้ราคาตกต่ำ 'ไวน์สตรอเบอร์รี่' ของดีสะเมิง : โดย...สุรัตน์ อัตตะ
ไม่ปฏิเสธว่าพื้นที่อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ถือเป็นแหล่งปลูกสตรอเบอร์รี่ที่สำคัญและมีชื่อเสียงเป็นรู้จักมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญมีอาชีพหลักในการปลูกสตรอเบอร์รี่ที่สร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำมากกว่าไม้ผลชนิดอื่น โดยผลผลิตหลักส่งให้โครงการหลวงดอยคำและพ่อค้าที่มารับซื้อผ่านสหกรณ์การเกษตรสะเมิง จำกัด ซึ่งมีหน้าที่ในการรวบรวมผลผลิตสตรอเบอร์รี่จากสมาชิก แต่ด้วยคุณสมบัติของสตรอเบอร์รี่ผลสดมักเน่าเสียง่ายและเก็บไว้ไม่ได้นาน ทำให้สหกรณ์ต้องหาทางออกด้วยการแปรรูปเป็นไวน์สตรอเบอร์รี่เพื่อเพิ่มมูลค่า โดยมุ่งเป้าไปที่สตรอเบอร์รี่ตกเกรด ปฏิเสธการรับซื้อของพ่อค้าและแก้ปัญหาการถูกกดราคา ตลอดจนปริมาณผลผลิตสตรอเบอร์รี่ที่ออกมามากเกินความต้องการในแต่ละปี
“ไวน์สตรอเบอร์รี่เราทำมา 10 กว่าปีแล้ว สาเหตุที่ทำเพราะต้องการแปรรูปเพิ่มมูลค่าสตรอเบอร์รี่ตกเกรด ขายไม่ได้ราคาหรือบางปีผลผลิตออกมาเกินโควตาที่โรงงานรับซื้อหรือไม่ก็ถูกพ่อค้ากดราคา ก็นำมาแปรรูปเป็นไวน์สตรอเบอร์รี่แทน โดยพันธุ์ที่เกษตรกรปลูกส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์พระราชทาน 80”
ฉลอง โปทา ประธานสหกรณ์การเกษตรสะเมิง จำกัด ต.สะเมิงใต้ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ เผยเหตุผลการทำไวน์สตรอเบอร์รี่ พร้อมอธิบายถึงกรรมวิธีการผลิตว่าเริ่มจากนำผลผลิตสตรอเบอรี่ผลสดจากแปลงของเกษตรกรสมาชิกมาตัดขั้ว จากนั้นนำมาล้างน้ำเพื่อทำความสะอาด 3 ครั้ง โดยสหกรณ์ได้สร้างบ่อซีเมนต์ไว้สำหรับล้างสตรอเบอร์รี่ผลสดไว้จำนวน 3 บ่อ หลังล้างเสร็จเรียบร้อยจากนั้นก็นำมาใส่ตะกร้าเพื่อให้สะเด็ดน้ำประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนนำมาคลุกเคล้ากับน้ำตาลทรายให้เข้ากันในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 โดยสตรอเบอร์รี่ผลสด 3 ส่วนและน้ำตาล 1 ส่วนแล้วนำไปใส่ในถังสเตนเลสเพื่อบ่ม ซึ่งแต่ละถังบรรจุได้ประมาณ 1,000 กิโลกรัม จากนั้นปิดฝาครอบให้สนิทบ่มไว้ในถังอย่างน้อย 1 ปี ก่อนนำมาบรรจุขวดเพื่อจำหน่ายต่อไป
“เคล็ดลับการทำไวน์อยู่ที่สูตรใครสูตรมัน อย่างของเราจะใช้น้ำตาลทรายเป็นส่วนผสมในอัตรา 3 ส่วนต่อ 1 ส่วน คิดง่ายๆ ผลสตรอเบอร์รี่สด 30 กิโลกรัมต่อน้ำตาลทราย 10 กิโลกรัม คลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนนำไปใส่ในถังบ่มแล้วปิดฝา จนครบ 1 ปีเป็นอย่างน้อยถึงจะเปิดฝาได้ ระหว่างนี้ห้ามเปิดฝาเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นรสชาติจะเปลี่ยนทันที โดยในหนึ่งถังนั้นจะสามารถผลิตไวน์ได้ประมาณ 800 ขวด ปัจจุบันสหกรณ์มีถังหมักไวน์อยู่ 30 ถังและจะซื้อเพิ่มทุกปี ปีละ 1-2 ถัง” ประธานสหกรณ์การเกษตรคนเดิมเผย และยอมรับว่ายิ่งบ่มนานรสชาติจะยิ่งดี แต่ที่ผ่านมาจะบ่มได้แค่ 1 ปีเท่านั้น เนื่องจากไวน์ที่ผลิตนั้นยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ขณะเดียวกันก็ยังมีสตรอเบอร์รี่ฤดูกาลใหม่ออกมาก็จะนำมาบ่มทดแทนของเก่าในถังเดิม เนื่องจากถังบ่มมีจำนวนจำกัด
“ของเราจะบ่มปีต่อปีนานกว่านี้ไม่ได้ เพราะว่าถังบ่มมีจำกัด อีกทั้งผลิตมาเท่าไหร่ก็ขายหมด ไม่เพียงพอความต้องการของตลาด อย่างรีสอร์ทต่างๆ ที่ปายเกือบทุกที่ก็สั่งไวน์สตรอเบอร์รี่จากเราไป เขาบอกว่ามีเท่าไหร่ซื้อหมด เริื่องตลาดไม่มีปัญหา ส่วนราคาส่งจะขายอยู่ที่ขวดละ 250 บาท ขนาดขวด 750 ซีซี สำหรับกำไรหลังหักต้นทุนเรียบร้อยแล้วโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3-4 แสนบาทต่อปีก็คือว่าดีทีเดียว ฉะนั้นไม่ต้องห่วงผลผลิตสตรอเบอร์รี่ที่สะเมิงไม่มีผลกระทบในเรื่องราคาอย่างแน่นอน เพราะเรามีทางแก้ไว้หมด” ประธานสหกรณ์การเกษตรสะเมิง จำกัด กล่าวย้ำ
ไวน์สตรอเบอร์รี่ นับเป็นอีกทางเลือกของสหกรณ์การเกษตรสะเมิง จำกัด ในการแก้ปัญหาสตรอเบอร์รี่ล้นตลาด คุณภาพตกเกรดจนได้รับการปฏิเสธจากตลาด จึงนำมาแปรรูปเพิ่มมูลค่าด้วยการผลิตไวน์จนได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในวันนี้ สนใจผลผลิตภัณฑ์ไวน์สตรอเบอร์รี่ของดีสะเมิง โทร.08-1366-3560, 0-5348-7043 ทุกวัน
----------------------
(ทำมาหากิน : แปรรูปเพิ่มค่าแก้ราคาตกต่ำ 'ไวน์สตรอเบอร์รี่' ของดีสะเมิง : โดย...สุรัตน์ อัตตะ)