
สูตรสำเร็จฟาร์มโปโลก้าวย่างนิตยา กัณฑิศักดิ์
17 ธ.ค. 2558
หนักเอาเบาสู้ : สูตรสำเร็จ ฟาร์มโปโล ก้าวย่าง นิตยา กัณฑิศักดิ์
ปลาหมอตัวละ 1 กก. เป็นความสำเร็จของเกษตรกรในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่อาศัยการลองผิดลองถูกเกือบ 4 ปีสำหรับเจ้าของโปโลฟาร์ม “นิตยา กัณฑิศักดิ์” วัย 46 ปี นำปลาหมอพันธุ์พื้นบ้านที่จับได้ตามท้องไร่ท้องนาผสมข้ามสายพันธุ์กับปลาหมอในท้องตลาด ผ่านกระบวนการแปลงเพศปลาหมอจนเป็นสายพันธุ์ที่นิ่ง ไม่ข้ามสายพันธุ์อีก เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคมาอย่างยาวนานเกือบ 10 ปี จนมีเครือข่ายเป็นเกษตรกรเพาะเลี้ยงปลาหมออยู่ทั่วประเทศ และมีฟาร์มเพาะเลี้ยงปลาหมอของตัวเองกว่า 40 บ่อ

นิตยา กัณฑิศักดิ์ เจ้าของฟาร์มโปโล บอกเล่าเรื่องราวในอดีตว่า เดิมทีได้เพาะเลี้ยงปลาดุกแต่เมื่อเกิดปัญหาตลาดปลาดุกราคาตกต่ำไม่เป็นที่ต้องการของตลาด จึงมีแนวความคิดที่จะหาพันธุ์ปลาใหม่ๆ มาเพาะเลี้ยง จนกระทั่งเห็นปลาหมอตามท้องไร่ท้องนา ที่คนอีสานนิยมบริโภคมาก เพราะเป็นปลาที่มีรสชาติอร่อย ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู และเริ่มศึกษาเรื่อยๆ จนทราบว่าปลาหมอยังเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั่วทุกภาค จึงเริ่มศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อจะเริ่มเรียนรู้การเลี้ยงปลาหมอ จากทั้งสถานศึกษา เกษตรกรที่เคยเลี้ยงมาก่อนลองผิดลองถูกมานาน ถูกหลอกมาก็มาก หมดเงินไปจำนวนมาก สุดท้ายเลยต้องลองขยายพันธุ์เอง เอาปลาหมอตามท้องไร่ท้องนามาผสมพันธุ์กับปลาหมอที่ขายตามท้องตลาดบ้าง ช่วงแรกๆ ในระยะ 3 ปี 8 เดือน น่าจะใช้ปลาทดลองไปเป็นตันๆ ทั้งตัวใหญ่ ตัวเล็ก ประกอบกับการศึกษาค้นคว้า สอบถามผู้รู้บ้าง จนกระทั่งประสบผลสำเร็จ สามารถนำปลาหมอที่อยู่ในช่วงอนุบาลมาแปลงเพศตามเทคนิควิธีการของทางฟาร์ม และเลี้ยงโดยอาหารปลาดุก ใช้เวลาเลี้ยงให้อาหารเช้าเย็นอยู่ประมาณ 3 เดือน ก็ได้ปลาหมอไซส์ยักษ์ออกจำหน่าย
“คุณสมบัติเด่นของปลาหมอจากฟาร์มโปโล จะมีโครงสร้างลำตัวคล้ายรูปใบโพธิ์ หัวเล็ก ขึ้นสัน ตัวสีเหลืองทองและมีไข่ทุกตัว ระยะเวลาเลี้ยง 90 วัน ปลาจะมีขนาดประมาณ 300–400 กรัม หรือประมาณ 3 ตัว ต่อ 1 กก. ขณะที่การเลี้ยงในระยะเวลา 120 วัน จะมีขนาดตัวละ 1 กก. สำหรับบ่อจะมีขนาดประมาณ 1 ไร่ ความลึกประมาณ 1.20–1.50 เมตร เลี้ยงปลาหมอได้ประมาณ 15,000–20,000 ตัว อัตราการตายของปลาหมอน้อยกว่าปลาอื่นๆ เพราะมีความอึด ความทนต่อภาวะแห้งแล้งน้ำน้อยเป็นอย่างดี"
เจ้าของฟาร์มเผยคุณสมบัติเด่นของปลาหมอพันธุ์พื้นบ้านอีสานว่ามีขนาดตัวที่ใหญ่และน้ำหนักตัวมาก มาจากการแปลงเพศ เพราะแต่เดิมปลาหมอไทยจะตัวเล็ก โตช้า เฉลี่ย 10-15 ตัวต่อ 1 กก. ส่วนการแปลงเพศปลาหมอให้ตัวใหญ่ มีเคล็ดลับง่ายๆ คือต้องแปลงให้เป็นเพศเมียเท่านั้น ขณะที่ระบบนิเวศทั้งเรื่องน้ำและอากาศ ถ้าน้ำดี อากาศสดใส ปลาไม่เครียด ก็กินอาหารได้เยอะทำให้ปลาโตไวด้วย
“ตอนนี้ปลาหมอขายกันที่ปากบ่อตัวสดๆ ราคา กก.ละ 80-100 บาท ส่วนการจำหน่ายแบบปลาน็อกเพื่อส่งห้องเย็นเฉลี่ยอยู่ที่กก.ละ 100 บาท 1 บ่อจะได้ปลาสดวัย 3 เดือนอยู่ที่ 5,000–6,000 กก.” นิตยาเผย
ความสำเร็จของนิตยา กัณฑิศักดิ์ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาหมอ แม้ว่าวุฒิการศึกษาเพียง ม.6 แต่ด้วยการลองผิดลองถูก ด้วยความเพียรพยายาม ไม่ย่อท้อแม้จะพบอุปสรรคปัญหามามากมาย ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นที่โปโลฟาร์ม ฟาร์มชาวบ้านของเกษตรกรตัวเล็กๆ จึงถือเป็นต้นแบบของเกษตรกรที่ควรเอาเยี่ยงอย่าง