ไลฟ์สไตล์

ผันน้ำข้ามอ่าง 'ลุ่มน้ำลำภาชี' ต้นแบบแก้น้ำล้นภาคตะวันตก

ผันน้ำข้ามอ่าง 'ลุ่มน้ำลำภาชี' ต้นแบบแก้น้ำล้นภาคตะวันตก

08 ธ.ค. 2558

ผันน้ำข้ามอ่าง 'ลุ่มน้ำลำภาชี' ต้นแบบแก้น้ำล้นภาคตะวันตก : โดย...ทีมข่าวเกษตร

 
                      การบริหารจัดการน้ำภายใต้โครงการ “ผันน้ำข้ามอ่างเก็บน้ำ” นั้นไม่เพียงแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งเท่านั้นแต่ยังประโยชน์ด้านการอุปโภคบริโภค การเกษตรและการดูแลรักษาสภาพแวดล้อมอีกด้วย กรมทรัพยากรน้ำ โดยสำนักพัฒนาแหล่งน้ำ จึงได้ดำเนินการตามแผนการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ โดยแบ่งเป็นการบริหารจัดการต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ปัจจุบันมีการพัฒนาแหล่งน้ำแล้วทั้งสิ้น 55 โครงการ โดยเป็นโครงการอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ขนาดเล็ก ฝายทดน้ำและระบบส่งน้ำ สามารถส่งน้ำให้พื้นที่ชลประทานทั้งสิ้น 28,637 ไร่ จากพื้นที่เกษตรกรรมทั้งหมด 655,855 ไร่ ปริมาณน้ำที่กักเก็บได้ในปัจจุบัน 46,330,000 ลูกบาศก์เมตร จากปริมาณน้ำรายปีเฉลี่ยของลุ่มน้ำลำภาชี 435,770,000 ลูกบาศก์เมตร
 
                      ประสิทธิ์ พัวทวี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาแหล่งน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ เผยว่าโครงการดังกล่าวเกิดจากสภาพพื้นที่โดยทั่วไปที่มีความแตกต่างกัน และเกิดปัญหาซ้ำซากเกี่ยวกับทั้งอุทกภัย และภัยแล้ง สำหรับสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 นั้นได้วางแนวทางการแก้โดยจัดทำโครงการก่อสร้างบนลุ่มน้ำลำภาชี ตามแผนงานงบลงทุนปี 2558 โดยสรุปดังนี้ ช่วงตอนบน การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กในพื้นที่ตอนบนของลำน้ำสาขาที่สำคัญ และสร้างฝายเพื่อชะลอความเร็วของน้ำป้องกันการกัดเซาะ ช่วงตอนกลาง ก่อสร้างฝายขนาดใหญ่เพื่อกักเก็บน้ำ และการขุดลอกลำน้ำสายหลักในช่วงที่ตื้นเขินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ช่วงตอนล่าง ก่อสร้างป้องกันการกัดเซาะและการขุดลอกลำน้ำสายหลักในช่วงที่ตื้นเขินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ
 
                      นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการปรับปรุงฝาย ประตูระบายน้ำ สะพาน ท่อลอดถนน และอาคารอื่นๆ ที่กีดขวางทางน้ำและเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำให้มีความสามารถในการระบายน้ำที่พอเพียงและเหมาะสมกับสภาพทางน้ำ ควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณเขตตัวเมืองและพื้นที่โดยรอบ ให้เป็นไปตามผังเมืองที่วางไว้และควบคุมการรุกล้ำแนวคลองและลำน้ำสาธารณะ ส่งเสริมการขุดสระน้ำประจำไร่นา ขุดบ่อน้ำตื้น/บ่อบาดาล ก่อสร้างถังเก็บน้ำ สำหรับพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลจากแหล่งน้ำตามสภาพความเหมาะสมของพื้นที่ และนี่คือที่มาของโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูอ่างท่าเคย ห้วยมะหาด พร้อมระบบกระจายน้ำ ต.บ้านบึง หนองพันจันทร์ อ.บ้านคา จ.ราชบุรี  
 
                      "โครงการผันน้ำจากอ่างท่าเคย มากักเก็บไว้ที่อ่างห้วยมะหาดแล้วส่งต่อไปยังอ่างเก็บน้ำสำนักไม้เต็ง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน โดยเป็นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน และเป็นหนึ่งในแผนการบริหารจัดการน้ำ ลุ่มน้ำลำภาชี ในภาพรวมทั้งหมด” ผอ.สำนักพัฒนาแหล่งน้ำ กล่าว
 
                      โอภาส ถาวร หัวหน้ากลุ่มงานออกแบบส่วนสำนักพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งน้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำ ภาค 7 ได้สรุปถึงที่มาของปัญหา รวมถึงการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมซ้ำซากและน้ำแล้งในพื้นที่ โดยในเบื้องต้นได้ศึกษาความเหมาะสมในการผันน้ำข้ามลุ่มน้ำเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำของประชาชนในพื้นที่ หลังจากพบว่าปริมาณน้ำท่าที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยสำนักไม้เต็งมีปริมาณน้อยกว่าปริมาณความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำในปัจจุบันอยู่มาก จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการเพิ่มปริมาณน้ำ และปริมาณการเก็บกักน้ำให้พื้นที่คลองอู่เรือ
 
                      "ภาพรวมปัญหาในลุ่มน้ำภาชี คือมีน้ำล้นเกิน โดยเฉพาะจากลำน้ำสาขาต่างๆ ที่ท่วมใน อ.สวนผึ้ง และหลายอำเภอของ จ.ราชบุรี อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เนื่องจากเป็นพื้นที่ลาดชันสูง ดังนั้นการเก็บน้ำบางส่วนไว้ในอ่างเก็บน้ำที่มีอยู่แล้ว จึงเป็นการบรรเทาและชะลอไม่ให้น้ำกว่า 50% ลงมาสมทบกับน้ำจากลำน้ำสาขาแต่เดิม ป้องกันอุทกภัยทั้งลุ่มน้ำ และยังเป็นการบริหารจัดการน้ำกับการจัดสรรน้ำเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ว โดยอาศัยแนวคิดผันน้ำล้นเกิน จากแหล่งน้ำหนึ่งไปยังอีกแหล่งน้ำหนึ่ง” โอภาส กล่าวและว่า โดยการผันน้ำจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ มีปริมาณน้ำสูงกว่า 225 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลางซึ่งอ่างเก็บน้ำท่าเคยมีระดับเก็บกักน้ำที่ 230 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางจึงเรียกได้ว่าเป็นการผันน้ำล้นเกิน   
 
                      จากภาพรวมของปัญหา คือ การขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และการขาดแคลนน้ำในภาคการเกษตร ตลอดจนปัญหาน้ำล้นในลุ่มน้ำลำภาชี กลายเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการ "ผันน้ำข้ามอ่างเก็บน้ำ" หนึ่งในโครงการต้นแบบการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการครบวงจร ที่จะเป็นต้นแบบให้แก่อีกหลายๆ ลุ่มน้ำในอนาคต
 
 
 
 
-------------------
 
(ผันน้ำข้ามอ่าง 'ลุ่มน้ำลำภาชี' ต้นแบบแก้น้ำล้นภาคตะวันตก : โดย...ทีมข่าวเกษตร)