
รู้ทันมะเร็ง : ข้อพิจารณาทางเลือกการรักษามะเร็ง
04 ธ.ค. 2558
รู้ทันมะเร็ง : ข้อพิจารณาทางเลือกการรักษามะเร็ง : โดย...นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ
คำถามยอดฮิตติดชาร์ตตลอดกาลของผู้ป่วยและญาติ ที่มักจะถามแพทย์ผู้รักษาเป็นประจำ หนีไม่พ้นเรื่องวิธีการรักษาโรคมะเร็ง มีทั้งใหม่บ้างไม่ใหม่บ้าง การรักษาตามแนวทางการแพทย์ทางเลือกบ้าง ยิ่งปัจจุบันเป็นโลกแห่งโซเชียลเน็ตเวิร์ก จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ป่วยและญาติต้องรู้เท่าทันและต้องใช้วิจารณญาณในการพิจารณาอย่างมากใน 4 ประเด็นหลักๆ
ประเด็นแรกเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด คือ การรักษาวิธีใหม่ที่ว่านั้นมีผลการศึกษาวิจัยอย่างเป็นระบบหรือไม่ เนื่องจากความน่าเชื่อถือในข้อมูลทางการแพทย์นั้น ขึ้นอยู่กับหลักฐานเชิงประจักษ์เป็นหลัก ซึ่งหลักฐานทางการแพทย์นั้นมีระดับความน่าเชื่อถือที่แตกต่างกันไป มีตั้งแต่ความน่าเชื่อถือน้อย เช่น ข้อมูลจากการบอกเล่า ประสบการณ์ส่วนตัวหรือความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ความน่าเชื่อถือระดับปานกลางก็เช่น การวิจัยในผู้ป่วยเฉพาะกลุ่มที่ผู้วิจัยสนใจเท่านั้น แต่ไม่มีกลุ่มเปรียบเทียบ งานวิจัยที่มีความน่าเชื่อถือมาก เช่น การวิจัยเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มควบคุมกับกลุ่มที่ให้การรักษา ทำการศึกษาอย่างไม่ลำเอียงไม่มีอคติในการเลือกผู้ป่วย คือเลือกผู้ป่วยแบบสุ่ม มีการปกปิดไม่ให้แพทย์ผู้รักษา แพทย์ผู้ประเมินผลและผู้ป่วยรู้ว่าอยู่กลุ่มใด มีการใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างถูกต้อง เพราะฉะนั้นเวลาพิจารณาการรักษาแบบใหม่ๆ อย่าพึ่งหลงเชื่อกันง่ายๆ ต้องถามหาว่ามีผลการศึกษาวิจัยหรือไม่ ถ้ายังไม่มีก็อยู่ห่างๆ ไว้ก่อนดีกว่า หรือถ้ามีก็ต้องดูด้วยว่างานวิจัยนั้นเป็นแบบไหน มีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด ยังอยู่ในขั้นทดลองในระดับเซลล์ ระดับสัตว์ทดลองหรือวิจัยในมนุษย์แล้ว นอกจากนั้นต้องมีจำนวนเคสที่ทำการวิจัยมากพอสมควร
ประเด็นที่สองที่มักถูกมองข้ามกันเป็นประจำก็คือ ผลการรักษาที่คุยว่าได้ผลดีนั้น มีผลการตรวจชิ้นเนื้อทางการแพทย์ยืนยันหรือไม่ ว่าผู้ป่วยเหล่านั้นเป็นมะเร็งจริง หลายรายไม่มีผลการตรวจยืนยัน แต่กลับอ้างว่าเป็นมะเร็ง ประเด็นที่สาม ผู้ป่วยได้รับการรักษาแบบใหม่นั้นแต่เพียงวิธีการเดียว หรือเคยได้รับการรักษาแผนปัจจุบันแบบอื่นๆ มาก่อนหน้านั้นหรือไม่ อันนี้สำคัญมากนะครับ เพราะผู้ป่วยรายหลายมีอาการดีขึ้นมากเนื่องมาจากการรักษาก่อนหน้านั้น แต่พอหันมารักษาแบบใหม่แล้วได้ผลการรักษาดี กลับให้เครดิตกับการรักษาวิธีใหม่นั้นแต่เพียงอย่างเดียว
ประเด็นสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การรักษาแบบใหม่ที่ว่านั้นนำเสนอผลการรักษาแต่เพียงด้านบวกด้านเดียวหรือไม่ มีการแสดงผลการรักษาที่ไม่ได้ผลบ้างหรือไม่ มีผู้ป่วยเสียชีวิตกี่รายจากทั้งหมดจำนวนกี่ราย มีผลข้างเคียงจาการรักษามากน้อยแค่ไหน เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาหรือผู้ป่วยที่รักษาด้วยวิธีตามมาตรฐาน เพราะเป็นเรื่องปกติของการรักษาทุกประเภท เนื่องจากไม่มีการรักษาวิธีใดในโลกที่สามารถทำให้ผู้ป่วยหายขาดได้หมดทุกรายร้อยเปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับที่ไม่มีการรักษาใดที่จะไม่มีผลข้างเคียง ความสำคัญอยู่ตรงที่มีเจตนาที่จะปกปิดข้อมูลการรักษาในส่วนนี้หรือไม่
เข้าใจตามนี้แล้ว จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อพวกการรักษาแบบมั่วนิ่มพวกตีหัวเข้าบ้าน นอกจากจะเสียเงินเสียทองโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังเสียโอกาสสำคัญในการหายขาดจากโรคด้วยนะครับ